รณรงค์เซฟปลานกแก้ว อัญมณีแห่งท้องทะเล ผู้พิทักษ์และดูแลปะการัง หวั่นสูญพันธุ์และกระทบระบบนิเวศ หลังมนุษย์แห่จับกิน
เมื่อวันที่ 6 เม.ย.62 เฟซบุ๊กแฟนเพจ Similan Farm, Clownfish ได้โพสต์ภาพและข้อความระบุถึง ปลานกแก้ว ที่มีสีสันสวยงามและอธิบายว่าเป็นปลาที่มีประโยชน์ต่อระบบนิเวศตามแนวปะการัง โดยทำหน้าที่กินซากปะการังที่ตายแล้ว และ กินสาหร่ายที่ขึ้นมาปกคลุมแนวปะการัง หากไม่มีปลาชนิดนี้สาหร่ายจะพากันขึ้นคลุมพื้นที่ ทำให้ตัวอ่อนปะการังไม่มีที่ลงเกาะ แล้วก็จะไม่มีปะการังตัวอ่อนมาทดแทนตัวเก่า

แต่ปัจจุบันผู้คนเริ่มนิยมนำปลานกแก้วมาบริโภคมากขึ้น ถูกจับมาขายเป็นจำนวนมาก ทั้งที่แนวปะการังส่วนใหญ่เป็นเขตอนุรักษ์และไม่อนุญาตให้มีการจับปลา ซึ่งนอกจากเป็นการเสี่ยงให้ปลาชนิดนี้สูญพันธุ์แล้ว ยังก่อให้เกิดการทำประมงที่ผิดกฎหมายอีกด้วย

ทั้งนี้ ปลานกแก้ว (Parrotfish) เป็นปลาทะเลกระดูกแข็ง มีขนาดโตเต็มที่มีประมาณ 30-70 เซนติเมตร มีลักษณะทั่วไปคล้ายคลึงกับปลาในวงศ์ปลานกขุนทอง (Labridae) อาศัยอยู่ตามแนวปะการังเขตร้อนและเขตอบอุ่น ในน่านน้ำไทย พบได้ในฝั่งอ่าวไทยและทะเลอันดามัน พบมากกว่า 20 ชนิด

มีลำตัวรียาว ส่วนใหญ่มีครีบหางแบบเว้าโดยขอบบนและขอบล่างของครีบหางมักยื่นยาวออก ฟันแหลมคมคล้ายๆ จะงอยของนกแก้วอันเป็นที่มาของชื่อเรียก จะงอยปากยืดหดได้เพื่อนำมาใช้ขูดกินปะการัง เวลาถ่ายจะถ่ายออกมาเป็นผงตะกอนซึ่งมีประโยชน์ต่อแนวปะการัง เกล็ดมีขนาดใหญ่ เส้นข้างลำตัวขาดตอน ครีบหางกลมมนหรือตัดตรง เป็นปลาที่กินฟองน้ำ, ปะการัง หรือสาหร่ายเป็นอาหาร บ่อยครั้งจะพบรวมฝูงขณะหาอาหาร เวลาว่ายน้ำจะดูสง่างามเหมือนนกกำลังบินในอากาศ
ปลานกแก้วเป็นปลาที่มีสีสันสวยงาม จึงนิยมนำมาเลี้ยงเป็นปลาสวยงาม และรับประทานเป็นอาหาร
ข่าวอื่นที่น่าสนใจ
ปิดอ่าวฝั่งอันดามัน 3 เดือน “ฟื้นฟูทรัพยากร” เริ่ม 1 เม.ย.นี้
