รองผู้ว่าฯ กทม.สั่งรื้อระบบตรวจสอบอาคารหลังเห็นตัวอย่างไฟไหม้เซ็นทรัลเวิลด์ ย้ำยังรอรายงานว่าจุดใดบกพร่องจนนำไปสู่ความสูญเสีย
วันที่ 11 เมษายน 2562 – นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า ยังคงต้องรอสรุปรายงานสาเหตุไฟไหม้ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ว่าเกิดจากจุดบกพร่องใดบ้าง แต่เบื้องต้นได้สั่งการให้ตรวจสอบระบบอาคารสูงทุกแห่ง จากเดิมที่ต้องสุ่มตรวจว่าจะต้องปรับวิธีอย่างไรให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด และครอบคลุมมากกว่านี้
ทั้งนี้ กรณีที่เกิดขึ้นเป็นตัวอย่างได้อย่างดีว่า แม้กทม.จะสุ่มตรวจแต่เมื่อเกิดเหตุจริงก็ยังเกิดการสูญเสียขึ้น การจัดการของอาคารอาจจะยังไม่ครอบคลุมทั่วถึง หรือระบบอาจไม่สมบูรณ์ ต้องไปย้อนดูการตรวจสอบอาคารว่าตรวจตามวงรอบของกฎหมายควบคุมอาคารหรือไม่ ต้องยกเครื่องระบบใหม่ทั้งหมด
“ส่วนกรณีมีผู้ที่อยู่ในอาคารรายงานว่าไม่มีสัญญาณเตือน หรือระบบสปริงเกอร์ไม่ทำงาน ก็จะต้องรอดูผลการตรวจสอบก่อน โดยหลังสงกรานต์จะเรียกสำนักการโยธา สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และสำนักงานเขตร่วมหารือแนวทาง เพื่อให้การตรวจสอบมีประสิทธผล ป้องกันการสูญเสียจากเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นได้” รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าว
ด้าน พล.ต.ท.สมเกียรติ นนทแก้ว ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (สปภ.) กล่าวว่า เหตุวานนี้ สปภ.โดยสถานีดับเพลิงบรรทัดทอง ห่างจากจุดเกิดเหตุ 1.5 กม. เข้าถึงที่เกิดเหตุใน 6-7 นาที โดยชุดแรกที่เข้าถึงช่วยอพยพคนออกจากอาคารและสำรวจจุดต้นเพลิง เข้าควบคุมเพลิงดับได้ใน 40 นาที
อย่างไรก็ตาม จากกรณีมีการรายงานว่าไม่มีสัญญาณเตือน หรือระบบสปริงเกอร์ไม่ทำงานนั้น การที่สปริงเกอร์จะทำงานจุดนั้นต้องมีความร้อน รวมถึงสัญญาณเตือนไฟไหม้ จะมีระบบในการส่งสัญญาณซึ่งเมื่อเกิดเหตุที่ตุดใดจะมีสัญญานไปที่ก้องควบคุมเจ้าหน้าที่รุดไปตรวจสอบก่อนจะส่งสัญญาณเตือนทั้งอาคารในส่วนอื่นๆ ในส่วนของการตรวจสอบระบบป้องกันอัคคีภัยตามกฎหมาย พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร จะต้องมีการตรวจสอบโดยเอกชนที่มีใบอนุญาต ส่งรายงานการตรวจสอบประจำปีให้สำนักการโยธา และสำนักงานเขตในพื้นที่ รวมถึงการซ้อมหนีไฟอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง
