เปิดประวัติ “พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล” หรือ “โจ๊กหวานเจี๊ยบ” ผู้ติดยศ “พล.ต.ต.” อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายตำรวจสายพีอาร์ผู้มียอดติดตามในโซเชียลมหาศาล
เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 5 เม.ย.62 เกิดข่าวลือสะพัดที่ทำให้วงการตำรวจ-การเมืองต้องตกตะลึง เนื่องจากมีรายงานว่า พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ถูกคำสั่งย้ายเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยไม่มีกำหนด
ต่อมา ได้มีการเผยแพร่คำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ลงนามโดยพลตำรวจเอก จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยืนยันคำสั่งย้ายดังกล่าว อ่านข่าวคลิก
เกิดอะไรขึ้นกับแวดวงสีกากี ประเด็นนี้ต้องเป็นที่พูดถึงกันอย่างมากแน่นอน เพราะอะไรนายตำรวจหนุ่มผู้ถูกจับตามองและโดดเด่นมากที่สุดในเวลานี้กลับถูกสั่งย้ายเข้ากรุ?

ประวัติ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล มีชื่อเล่นว่า “โจ๊ก” เกิดเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2513 ที่จังหวัดสงขลา เป็นบุตรชายคนโตของดาบตำรวจไสว หักพาล และนางสุมิตรา หักพาล สมรสกับ ดร.ศิรินัดดา หักพาล (พานิชพงศ์)

วัยเด็ก พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ เข้าเรียนในโรงวชิราวุธ เมื่อจบการศึกษาจึงได้สอบเข้าเป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่นที่ 31 จบการศึกษาในระดับปริญญาโท สาขาอาชญาวิทยาและการบริหารงานยุติธรรม ม.มหิดล ระดับปริญญาเอก สาขารัฐประศาสนศาสตร์ ม.อีสเทร์นเอเชีย
ชีวิตราชการตำรวจ
เส้นทางการรับราชการ “พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล” เริ่มงานตำรวจในกองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้เลื่อนตำแหน่งเป็นสารวัตรสถานีตำรวจทางหลวง กองกำกับการ 5 เชียงใหม่ เป็นผู้กำกับการ 3 กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ ต่อมาได้ทำหน้าที่ ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลาส่วนหน้า รับผิดชอบดูแลพื้นที่ความมั่นคง 4 อำเภอ จ.สงขลา


โดยช่วงปี 2557 สมัย พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง เป็น ผบ.ตร. มีคำสั่งแต่งตั้ง พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ เป็นผู้บังคับบัญชาตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา เป็นรักษาการผู้บังคับการประจำสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ทำหน้าที่ประสานงานนายกรัฐมนตรี ก่อนขยับเป็นผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว 191 และขึ้นเป็นรองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว จนได้รับการขนานนามว่า “รองโจ๊ก”
ตำแหน่งปัจจุบันเป็นผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง หรือ ผบช.สตม. นอกจากนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและ รมว.กลาโหม ได้ลงนามแต่งตั้ง ให้เป็นผู้ช่วยโฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี โดยงานหลักที่จะได้รับมอบหมายคือช่วยเสริมการทำงานของ พล.ท.คงชีพ และดูแลงานสร้างความเข้าใจกับประชาชน เรื่องความมั่นคง ด้านงานอาชญากรรมในภาพรวมทั้งประเทศ เช่น อาชญากรรมข้ามชาติ และหนี้นอกระบบ

ผลงานเด่น จัดระเบียบสังคม
“บิ๊กโจ๊ก” เป็นนายตำรวจที่มีผลงานโดดเด่นหลายอย่างในยุค คสช.ในการจัดระเบียบสังคม เป็นที่รู้จักของสังคมจากการทำหน้าที่เข้าไปจัดการหลายคดีสำคัญ ตั้งแต่กรณีแหม่มสาวชาวอังกฤษ อ้างถูกขืนใจบนเกาะเต่า เรือฟินิกซ์ล่มที่ภูเก็ต เป็นเจ้าของปฏิบัติการทลายเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติลวงเงินคนไทย ปฏิบัติการล้างหนี้เงินกู้ทวงคืนโฉนดทั่วประเทศ การปราบสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์

อีกทั้งเป็นนายตำรวจที่มีแนวคิดทันสมัย ใช้โซเชียลมีเดียมาช่วยในการทำงาน โดยมีเฟซบุ๊กแฟนเพจที่ที่มีผู้ติดตามร่วม 3 แสนคน เพื่อนำเสนอผลงานของตนเอง รวมทั้งประเด็นต่างๆ ที่น่าสนใจทางสังคม โดยมีทีมโซเชียลในการดูแลงานอย่างเป็นระบบ ทำให้ชื่อเสียงของ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ติดหู ไม่มีใครที่ไม่รู้จักนายตำรวจท่านนี้
ฉายา “โจ๊กหวานเจี๊ยบ”
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ เป็นแกนนำนักเรียนนายร้อยตำรวจ รุ่นที่ 47 หรือที่เรียกว่ารุ่น “พราน 47” ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นนายตำรวจที่เติบโตเร็วของรุ่น เพราะเป็น “นายพล” ยศ “พล.ต.ต.” อายุน้อยที่สุดในตอนนั้น ซึ่งอายุเพียง 42 ปี ถือเป็นคนแรกประวัติศาสตร์ตั้งแต่มีสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.)
และในปี 2560 ได้รับ “รางวัลเกียรติยศจักรดาว” สาขาบริหารการปกครองและเสริมสร้างความมั่นคงแห่งชาติ ที่มอบให้ผู้ที่สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนเตรียมทหาร และศิษย์เก่าที่มีผลงาน ซึ่ง “บิ๊กโจ๊ก” เป็นนายตำรวจที่มีอายุน้อยที่สุดในบรรดานายทหารที่ได้ขึ้นเวทีรับรางวัล
ส่วนฉายา “โจ๊กหวานเจี๊ยบ” คือคำเรียกขานที่คอการเมือง-วงการตำรวจ มอบให้ มาจากการที่เจ้าตัวเป็นคนมีมนุษยสัมพันธ์ขั้นดีเลิศ พูดจาไพเราะ เพื่อนๆ พี่ๆ ผู้บังคับบัญชาในทุกระดับล้วนประทับใจ มักจะได้ยินได้ฟังเสมอกับคำว่า “ครับพี่ ได้ครับพี่ ดีครับผม คิดถึงเสมอ เป็นห่วงเสมอ มีอะไรยินดีรับใช้ครับ”
ข่าวอื่นที่น่าสนใจ
