สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า รัฐสภาออสเตรเลียได้มีการลงมติผ่านร่างกฎหมายใหม่ ซึ่งกำหนดโทษเอาผิดกับบริษัทเจ้าของสื่อออนไลน์ด้วยการปรับเป็นจำนวนเงินสูงสุดร้อยละ 10 ของรายได้ รวมถึงอาจสั่งจำคุกผู้บริหารสูงสุดถึง 3 ปี หากพบว่าโพสต์ภาพ คลิปวิดิโอ หรือข้อความที่มีเนื้อหารุนแรง และไม่ทำการลบออกจากแพลตฟอร์มของตนอย่างรวดเร็ว
ทั้งนี้ รายงานดังกล่าวยังระบุต่อไปว่า โพสต์ที่มีเนื้อหารุนแรงนี้รวมไปถึงวิดีโอหรือภาพแสดงการฆาตกรรม ทรมาน หรือข่มขืน
สำหรับสาเหตุที่ทำให้ทางการออสเตรเลียต้องมีการพิจารณาออกกฎหมายที่เข้มงวดนี้ขึ้นมา มาจากเหตุการณ์กราดยิงที่เมืองไครสต์เชิร์ช ของนิวซีแลนด์เมื่อวันที่ 15 มีนาคมที่ผ่านมา พบว่าสื่อออนไลน์บางแห่งได้โพสต์คลิปวิดิโอขณะที่คนร้ายก่อเหตุสังหารผู้คนในมัสยิดบนโซเชียลมีเดีย และคลิปนี้ถูกโพสต์อยู่บนโซเชียลนานร่วมชั่วโมง และถูกแชร์ส่งต่อไปเป็นจำนวนมาก ก่อนจะถูกลบในภายหลัง
ด้าน นายกรัฐมนตรี นายสก็อตต์ มอริสัน ตำหนิว่า การปล่อยให้คลิปดังกล่าวแชร์อยู่บนโซเชียลมีเดียเป็นเวลานานเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ ขณะที่นาย มิตช์ ฟิฟิลด์ รัฐมนตรีสื่อสารระบุว่า จำเป็นต้องให้บริษัทสื่อสังคมออนไลน์ทราบอย่างชัดเจนว่าทางการต้องการให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการนำเสนอข่าวทางออนไลน์ และรับผิดชอบต่อการนำเสนอรายงานต่อสังคม
อย่างไรก็ดี มีเสียงวิจารณ์จากบรรดาพรรคฝ่ายค้านเช่นกันว่า รัฐบาลเร่งรีบผ่านร่างกฎหมายเร็วเกินไปและขาดการไตร่ตรองถึงผลกระทบที่จะตามมาภายหลัง
