กสิกรฯ แนะ รัฐบาลเร่งจัดทำงบประมาณประจำปี 2563 ก่อนที่จะมีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ เพื่อความต่อเนื่อง ชี้เศรษฐกิจไทยเผชิญความไม่แน่นอนทั้งจากนอกประเทศกรณีสงครามการค้า-Breixt และในประเทศกรณีการเลือกตั้ง
นายปรีดี ดาวฉาย กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย(KBANK)กล่าวในงานเสวนา”THE WISDOM: The Symbol of Your Vision จับชีพจรเศรษฐกิจโลก เจาะแนวโน้มเศรษฐกิจไทย”ว่า โดยมองว่าในปีนี้เศรษฐกิจไทยยังต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนที่ต้องติดตามต่อเนื่องโดยในส่วนปัจจัยต่างประเทศเป็นกรณีของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีนที่จะส่งผลกระทบผู้ประกอบการ ทิศทางการค้า และการลงทุนโลก รวมถึง กรณีการออกจากกลุ่มอียูของสหราชอาณาจักรหรือที่เรียกกันว่า Brexit ที่จะมีการลงมติกันอีกรอบในวันที่ 12 เมษายนนี้ ซึ่งส่วนนี้อาจจะทำให้เกิดความผันผวนต่อตลาดเงิน-ตลาดทุน ขณะที่ปัจจัยที่ต้องติดตามในประเทศเป็นกรณีของการเลือกตั้งที่เพิ่งจะผ่านไปเมื่อวันที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมา
นายปรีดีกล่าวอีกว่า การจัดตั้งรัฐบาลภายหลังการเลือกตั้งนั้น ยังอยู่กรอบของเวลาซึ่งเมื่อถึงกำหนดประกาศผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการในวันที่ 9 พฤษภาคมนี้ก็คงจะเห็นภาพชัดเจนขึ้น ดังนั้น การจัดการในเรื่องของงบประมาณปี 2563 ที่จะเริ่มต้นในเดือนตุลาคมปี 2561จึงเป็นเรื่องที่ต้องดำเนินการก่อน ส่วนเรื่องของการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานนั้นในส่วนที่ผ่านการอนุมัติแล้วก็คงจะดำเนินการได้ต่อเนื่อง ขณะที่พื้นฐานเศรษฐกิจไทยก็มีความแข็งแกร่งก็จะหนุนให้มีการลงทุนอย่างต่อเนื่อง
นายปรีดีกล่าวว่า การจัดตั้งรัฐบาลที่อาจจะดูช้ากว่าการเลือกตั้งครั้งก่อนนั้น มองว่าการเลือกตั้งแต่ละคราวก็มีเหตุการณ์ที่ไม่เหมือนกัน อย่างคราวนี้ก็ใช้รัฐธรรมนูญใหม่ ก็ต้องไปดูในรายละเอียด การแปลความต่างๆ ซึ่งโดยรวมๆแล้วก็ต้องทำไปตามกติกาที่มีอยู่ และขณะนี้ก็ยังอยู่ในกรอบเวลา
สำหรับสินเชื่อของธนาคารในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ก็ยังเติบโตได้แต่อาจจะยังอยู่ในอัตราที่ไม่สูงนัก ซึ่งเป็นปกติของช่วงต้นปีที่จะชะลอหลังจากเร่งตัวในช่วงปลายปี แต่ก็จะค่อยๆเร่งในระยะต่อไป โดยธนาคารกสิกรไทยยังคงเป้าหมายสินเชื่อเติบโตที่ตั้งไว้ 5-7% ขณะที่หนี้ครัวเรือนที่สูงขึ้นนั้น การปล่อยสินเชื่อของธนาคารนั้นก็มีความระมัดระวังมาตลอด และยังไม่กระทบต่อการปล่อยสินเชื่อของธนาคาร ซึ่งอาจจะเป็นเพราะธนาคารเลือกลูกค้าถูกกลุ่ม และอัตราการปฏิเสธสินเชื่อของธนาคารยังอยู่ในระดับเดิม