“ธิดา” บุก กกต. ลั่น! ขอนับคะแนนใหม่ทั้งประเทศ

“ธิดา” บุก กกต. ลั่น! ขอนับคะแนนใหม่ทั้งประเทศ


ขอความชัดเจน! “ธิดา” บุก กกต. ลั่น! ขอนับคะแนนใหม่ทั้งหมด ถามหาความโปร่งใส กกต. หวั่น ถึงวันประกาศผล ช็อกคนทั้งประเทศ

 

 

วันนี้ (27มี.ค.62) เมื่อเวลา 11.30 น. นางธิดา ถาวรเศรษฐ พร้อมคณะอาสาสมัครตรวจสอบทุจริตการเลือกตั้ง ได้เดินทางมายื่นหนังสือต่อ กกต. เพื่อเรียกร้องให้ตรวจสอบการรายงานผลคะแนนทุกหน่วยเลือกตั้ง พร้อมตรวจสอบจำนวนบัตรเสียที่มากผิดปกติ หรือนับใหม่ทั้งหมด

นางธิดา กล่าวว่า “ทางกลุ่มมีอาสาสมัครลงพื้นที่ไปสังเกตการณ์การออกเสียงและการนับคะแนนในหน่วยเลือกตั้ง จำนวน 2,000 คนทั่วประเทศ เห็นปัญหาความบกพร่อง และไร้ประสิทธิภาพในการจัดการเลือกตั้ง ซึ่งนำไปสู่การตั้งข้อสงสัยถึงความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือของ กกต.”

 

 

ทั้งนี้ นางธิดา ถาวรเศรษฐ ได้ตั้งข้อสงสัยถึงความไม่โปร่งใสในการทำงานของ กกต.จำนวน 11 เรื่อง ประกอบด้วย

1.ทัศนคติของเจ้าหน้าที่รัฐและ กกต. ต่อการเปิดโอกาสให้ประชาชนและพรรคการเมือง ตรวจสอบการปฎิบัติหน้าที่ โดยห้ามไม่ไห้ภาคประชาชนเข้าใกล้หน่วยเลือกตั้ง หรือสังเกตการณ์นับคะแนน

2.ไม่แสดงภาพบัตรที่อาจวินิจฉัยผิดพลาด ว่าเป็นบัตรดีหรือบัตรเสีย ที่หน้าหน่วยเลือกตั้ง เพื่อเป็นแนวทางการวินิจฉัย
3.จัดสถานที่ไม่เหมาะสม ทำให้ประชาชนไม่สามารถตรวจสอบการขีดคะแนนบนกระดาน ขานหมายเลขไม่ชัด เป็นเหตุให้บางหมายเลขมีคะแนนเกินกว่าความเป็นจริง หรือน้อยกว่าความเป็นจริง

4.กรรมการประจำหน่วยไม่มีความรู้เพียงพอในการวินิจฉัยบัตรดีบัตรเสีย

5.การขานหมายเลขไม่ชัดเจน ทำให้ขีดคะแนนผิดพลาด

6.ไม่แสดงใบสรุปผลหน้าหน่วยเลือกตั้ง เช่นจำนวนยอดบัตรทั้งหมด บัตรดี บัตรเสีย บัตรผู้ไม่ประสงค์ออกเสียง และบัตรเหลือ

7.บางหน่วยไม่มีเจ้าหน้าที่รัฐมาร่วมเป็นกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง มีแต่ชาวบ้านในชุมชนนับกันเอง ขนหีบใส่รถตัวเอง ทำให้เกิดความไม่เชื่อมั่นว่าจะขนหีบบัตรเลือกตั้งไปทำอะไรต่อ

8.บางหน่วยจัดให้ไปออกเสียงในห้องเรียน จึงยากต่อการตรวจสอบการนับคะแนน

9.ระเบียบ กกต.ห้ามไม่ให้ตัวแทนพรรคการเมืองหรือ ผู้สังเกตการณ์ถ่ายรูปในหน่วยเลือกตั้ง และห้ามโต้แย้งใดๆ

10.การที่ไม่ติดใบสรุปคะแนนของทุกหน่วยที่เขตเลือกตั้ง ทำให้ประชาชนไม่มั่นใจในผลคะแนน และมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของคะแนนจากหน่วยเลือกตั้งไปเขตเลือกตั้ง และรายงานถึงสำนักงาน กกต.ไม่ตรงกัน
11.พบการประมวลผลที่ผิดพลาด ตัวเลขสับสน ส่งผลเสียต่อการทำงานของ กกต. ทั้งในแง่การถูกแทรกแซงจากอำนาจรัฐ และความบกพร่องในการทำงาน

 

 

“ส่วนตัวมองว่าการทำหน้าที่ของ กกต.ชุดนี้ สอบไม่ผ่านในการจัดการเลือกตั้ง ตั้งแต่การจัดเลือกตั้งล่วงหน้านอกราชอาณาจักรที่มาเลเซีย ซึ่งมีผู้ลงทะเบียนไว้ 4,000 คน แต่มีคูหารองรับไว้แค่ 3 คูหาเท่านั้น และหากผลคะแนนยังไม่ชัดเจนแบบนี้ เชื่อว่าจะมีผลต่อการจัดตั้งรัฐบาลอย่างแน่นอน เพราะจะมีการแจกใบส้ม ใบแดง ใบดำให้กับผู้สมัครบางพรรคการเมือง อาจจะมีผลให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะได้” นางธิดากล่าว

นอกจากนี้ ยังระบุด้วยว่า ถือเป็นภารกิจของ กกต.ที่ต้องพิสูจน์เรื่องการรายงานผล ต้องทำให้เกิดความโปร่งใส เพราะเป็นเรื่องสำคัญ ถ้าไม่ชัดเจน วันที่ 9 พฤษภาคม เมื่อประกาศผลการเลือกตั้งออกมาอาจเกิดปัญหากับประเทศต้องหยุดชะงักอีก ช็อกความรู้สึกคนทั้งประเทศ เพราะประชาชนจะไม่เชื่อในผลคะแนนที่ กกต.ประกาศ

ข่าวอื่นที่น่าสนใจ
ลือสะพัด “ดีลจบ” ภูมิใจไทยตบเท้าเข้าพลังประชารัฐ ขอร่วม 3 กระทรวงเกรดเอ