เปิดประวัติ “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล นักการเมืองที่ถูกจับตามองมากที่สุด จากหัวหน้าพรรคขนาดกลาง สู่ภาวะ “หล่อเลือกได้” เพราะชั่วยามนี้ หากเขาเดินเข้าพรรคไหน พรรคนั้นได้เป็นรัฐบาลทันที แถมอาจมีเซอร์ไพรส์ เพราะเขาอาจได้เก้าอี้ “นายกรัฐมนตรี” มาครองด้วย

หลังปิดหีบเลือกตั้ง 24 มี.ค.62 ชื่อของ เสี่ยหนู หรือ “อนุทิน ชาญวีรกูล” เป็นชื่อที่ถูกพูดถึงมากที่สุด ยิ่งกว่า พล.อ.ประยุทธ์ ตัวเต็งตำแหน่งนายกฯ คุณหญิงสุดารัตน์ ผู้กำคะแนนเสียงจำนวน ส.ส.มากที่สุด หรือธนาธร หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ที่ได้คะแนนเลือกตั้งจากการลงเล่นการเมืองครั้งแรกกว่า 4 ล้านเสียง
เนื่องจาก “พรรคภูมิใจไทย” ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายของการเลือกตั้ง คว้าโควตา ส.ส.ได้เกินครึ่งร้อย จึงกลายเป็นพรรคตัวแปรที่จะเติมเต็มในการจัดตั้งรัฐบาลทันที ทั้งในฟากของทางพรรคพลังประชารัฐ และฝั่งของเพื่อไทย โดยเฉพาะด้านฝั่งเพื่อไทย ที่มีข่าวลือหนัก ถึงขั้นต่อรองด้วยการยกตำแหน่งนายกรัฐมนตรีให้ เพื่อขอคะแนนเสียงในการจัดตั้งรัฐบาล
ทุกสายตาทางการเมืองต่างจับจ้องมายังหัวหน้าพรรคภูมิใจ ว่าจะเซย์เยสกับขั้วการเมืองฝั่งไหน ทำให้ ณ เวลานี้ ใครๆ ก็อยากรู้จัก “เสี่ยหนู” ที่พอจะพูดได้ว่า เป็นผู้กำชะตาชีวิตของคนไทยทั้งประเทศ!!

ประวัติชีวิต
นายอนุทิน ชาญวีรกูล มีชื่อเล่นว่า “หนู” เป็นบุตรของนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาจากโรงเรียนอัสสัมชัญ และระดับอุดมศึกษาด้านวิศวกรรมศาสตร์ จากมหาวิทยาลัย Hoftra ประเทศสหรัฐอเมริกา
ก่อนเส้นทางการเมือง นายอนุทิน ชาญวีรกุล เคยทำงานในตำแหน่งวิศวกรในบริษัทเอกชนหลายแห่ง รวมทั้งตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ของบิดา ซึ่งเป็นนายทุนให้กับพรรคการเมืองหลายพรรค เช่น พรรคชาติพัฒนา พรรคไทยรักไทย พรรคภูมิใจไทย
ซึ่ง ณ ปัจจุบัน นายอนุทิน มีชื่อเป็นผู้ถือหหุ้นใน บริษัท ซิโน-ไทยฯ ร้อยละ 4.69 เป็นจำนวน 71,550,128 หุ้น
ด้านชีวิตส่วนตัว สมรสครั้งแรกกับนางสนองนุช ชาญวีรกูล มีบุตร 2 คน สมรสครั้งที่ 2 กับนางศศิธร ชาญวีรกูล

บทบาททางการเมือง
นายอนุทิน มีฉายาจากสื่อมวลชนว่า “เสี่ยหนู” เข้าสู่วงการการเมืองในปี พ.ศ. 2539 โดยการรับตำแหน่ง ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ต่อมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (พ.ศ. 2547 และ พ.ศ. 2548) และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ (พ.ศ. 2547) ต่อมาถูกตัดสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี เนื่องจากเป็นกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย
หลังจากพ้นกำหนดการตัดสิทธิทางการเมือง นายอนุทิน ได้สมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทย ในปี พ.ศ. 2555 และได้รับเลือกตั้งเป็นหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2555 และในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2557 ได้สมัครรับเลือกตั้งในระบบบัญชีรายชื่อ สังกัดพรรคภูมิใจไทย ลำดับที่ 1

เลือกตั้ง 62
สำหรับการเลือกตั้งประจำปี 2562 พรรคภูมิใจไทย ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล ได้รับคะแนนเสียงคิดเป็นที่นั่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือ ส.ส. ทั้งสิ้น 39 ที่นั่ง (จำนวนอย่างไม่เป็นทางการจาก กกต.) เป็นลำดับที่ 3 รองจากพรรคเพื่อไทย และพรรคพลังประชารัฐ
ทั้งนี้ จากการคาดการณ์คะแนนปาร์ตี้ลิสต์ มีแนวโน้มว่าพรรคภูมิใจไทยจะมีคะแนนเสียงรวมทั้งหมดไม่ต่ำกว่า 50 เสียง

เนื้อหอม หลังปิดหีบ
หลังผลการเลือกตั้ง ด้วยคะแนนที่คาดว่าจะไม่ต่ำกว่า 50 เสียง ทำให้พรรคภูมิใจไทยเนื้อหอมขึ้นมาทันที เนื่องจากเป็นพรรคตัวแปรที่จะเติมเต็มในการจัดตั้งรัฐบาล ทั้งในฝั่งของทางพรรคพลังประชารัฐ และฝั่งของเพื่อไทย โดยเฉพาะด้านฝั่งเพื่อไทยที่มีข่าวลือหนัก ถึงขั้นต่อรองด้วยการยกตำแหน่งนายกรัฐมนตรีให้เพื่อขอคะแนนเสียงในการจัดตั้งรัฐบาล อ่านข่าวเพิ่มเติม ลุ้นระทึก เพื่อไทยย้ำไม่ยึดติด หากนายกฯ จะชื่อ “อนุทิน”

ย้อนดูเงื่อนไขพรรคร่วมรัฐบาล
แม้ไม่ได้ประกาศจุดยืนชัดเจนว่ายืนอยู่ฝั่งไหนของขั้วการเมือง แต่หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้เคยประกาศเงื่อนไขพรรคร่วมรัฐบาลเอาไว้ เมื่อครั้งตอนหาเสียง ที่จังหวัดนครรราชสีมา เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2562 โดยนายอนุทินระบุว่า พรรคการเมืองที่จะร่วมรัฐบาลด้วยนั้น ต้องมีเงื่อนไขทั้งหมด 4 ข้อ ได้แก่
1.พรรคนั้นต้องไม่มีความขัดแย้ง
2.ต้องรักประชาชน
3.ต้องเทิดทูนสถาบัน
4.ต้องทำให้ประเทศไทยเจริญรุ่งเรือง
ซึ่งหากมีครบตามเงื่อนไข พรรคภูมิใจไทยจะยกตำแหน่งนายกฯ ให้ แต่หากทำไม่ได้ ก็จะขอเป็นนายกรัฐมนตรีเอง
ข่าวอื่นที่น่าสนใจ
ลุ้นระทึก เพื่อไทยย้ำไม่ยึดติด หากนายกฯ จะชื่อ “อนุทิน”
