“โบอิ้ง”เตรียมบังคับติดระบบเซ็นเซอร์ ให้ 737 แม็กซ์

“โบอิ้ง”เตรียมบังคับติดระบบเซ็นเซอร์ ให้ 737 แม็กซ์

โบอิ้งเตรียมติดตั้งระบบเซ็นเซอร์เตือนความผิดพลาดให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐานในเครื่องบิน 737 แม็กซ์ ทุกรุ่น จากเดิมที่เป็นเพียง ‘อ็อปชั่นเสริม’

เอเอฟพี – โบอิ้งเตรียมติดตั้งระบบเตือนเซ็นเซอร์เตือนความผิดพลาดให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐานในเครื่องบิน 737 แม็กซ์ ทุกรุ่น จากเดิมที่เป็นเพียง ‘อ็อปชั่นเสริม’ โดยอุปกรณ์ตัวนี้จะเตือนนักบินให้ทราบเร็วขึ้นเมื่อเซ็นเซอร์ที่ส่งข้อมูลมายังซอฟต์แวร์ควบคุมการบินทำงานผิดปกติ

จากอุบัติเหตุเครื่องบินตกที่เกิดขึ้นกับไลอ้อนแอร์อินโดนีเซีย และเอธิโอเปียนแอร์ไลน์สในระยะเวลาห่างกันเพียง 5 เดือนทำให้สำนักงานบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐฯ (FAA) ถูกเพ่งเล็งเรื่องกระบวนการรับรองความปลอดภัย และยังสั่นคลอนความเชื่อมั่นที่ทั่วโลกมีต่อโบอิ้ง 737 ซึ่งเป็นเครื่องบินรุ่นขายดีที่สุดในประวัติศาสตร์

แหล่งข่าวจากโบอิ้ง 737 ระบุว่า ในอีกไม่นาน ทางโบอิ้งจะกำหนดให้ไฟเตือนความผิดปกติ ‘disagree light’กลายเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในโบอิ้ง 737 แม็กซ์ ที่จะต้องติดตั้งอยู่ในเครื่องบินทุกเครื่อง และอยู่ในแผนปรับปรุงที่โบอิ้งเตรียมเสนอต่อทางการสหรัฐฯ และลูกค้าในเร็วๆ นี้

อุปกรณ์ดังกล่าวไม่ได้ถูกติดตั้งบน โบอิ้ง 737 แม็กซ์ 8 ของไลอ้อนแอร์ ที่ตกทะเลชวาเมื่อเดือน ต.ค. ปีที่แล้ว รวมถึงเครื่องรุ่นเดียวกันของเอธิโอเปียนแอร์ไลน์สซึ่งตกใกล้กรุงแอดดิสอาบาบาในเดือนนี้ แต่ในขณะที่สายการบินใหญ่ๆ ของสหรัฐฯ อย่างอเมริกันแอร์ไลน์สซึ่งมีฝูงบินโบอิ้ง 737 แม็กซ์ 8 มีอยู่ 24 ลำ ตัดสินใจซื้ออุปกรณ์เสริม ‘Primary Flight Display’ นี้ตั้งแต่ต้น เนื่องจากเล็งเห็นถึงความเสี่ยง เช่นเดียวกับเซาท์เวสต์แอร์ไลน์สซึ่งเป็นลูกค้ารายใหญ่ที่สุดของโบอิ้ง 737 แม็กซ์ 8

นายสก็อตต์ แฮมิลตัน ผู้เชี่ยวชาญด้านอุตสาหกรรมการบินจากบริษัทลีแฮม ระบุว่า อุปกรณ์ตัวนี้ควรจะถูกติดตั้งให้เป็นมาตรฐานตั้งแต่ต้น “ระบบเตือนการทำงานขัดแย้งควรจะเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน เพราะเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้นักบินทราบเมื่อเครื่องมือต่างๆ ทำงานไม่สอดประสานกัน” เบื้องต้นโบอิ้งกำหนดให้มันเป็นอ็อปชั่นเสริม เพื่อที่จะขายให้ได้เงินเพิ่ม

ระบบดังกล่าวจะส่งสัญญาณไฟเตือน เมื่อเซ็นเซอร์ตรวจจับมุมปะทะส่งข้อมูลผิดพลาดไปยังซอฟต์แวร์ควบคุมการบิน (Maneauvering Characteristics Augmentation System) หรือ MCAS ซึ่งอาจส่งผลให้ MCAS พยายามป้องกันการสูญเสียแรงยกด้วยการกดส่วนหัวของเครื่องบินให้ต่ำลงมา

ผลการสอบสวนเบื้องต้นกรณีไลอ้อนแอร์พบว่า เซ็นเซอร์ตรวจจับมุมปะทะทำงานผิดพลาด ทำให้ MCAS เข้าใจว่าเครื่องกำลังสูญเสียแรงยก จึงเข้าควบคุมสถานการณ์ด้วยการกดจมูกเครื่องบินให้ต่ำลง และแม้นักบินจะพยายามฝืนแล้วแต่ก็ไม่เป็นผลเนื่องจาก MCAS ยังไม่ถูกปิด ซึ่งข้อนี้ลูกเรือไลอ้อนแอร์ไม่ทราบมาก่อน

ทางการสหรัฐฯ และเอธิโอเปียยอมรับว่า เที่ยวบิน ET302 ของเอธิโอเปียนแอร์ไลน์สเผชิญปัญหา “คล้ายคลึง” กับไลอ้อนแอร์ และโศกนาฏกรรมครั้งที่ 2 นี้ได้นำมาสู่คำสั่งกราวนด์ฝูงบิน 737 แม็กซ์ ทั่วโลก

ผู้เชี่ยวชาญหลายรายระบุว่า การที่ โบอิ้ง 737 แม็กซ์ ใช้เครื่องยนต์ที่ใหญ่ขึ้นและมีประสิทธิภาพขึ้นกว่าเดิมทำให้มันมีจุดอ่อนประจำตัว คือในบางสถานการณ์จะเกิดปัญหาที่เรียกว่าการสูญเสียแรงยก โดยที่จมูกเครื่องบินจะเชิดขึ้นแต่ลำตัวเครื่องบินดำดิ่งลง โบอิ้งหลีกเลี่ยงไม่แก้ปัญหาด้วยการดีไซน์เครื่องบินใหม่ แต่ใช้วิธีพัฒนาซอฟต์แวร์ MCAS ขึ้นมา ซึ่งเมื่ออุปกรณ์เซ็นเซอร์รายงานว่าเครื่องบินเกิดอาการสูญเสียแรงยก MCAS ก็จะบังคับให้จมูกเครื่องบินลดต่ำลง เพื่อที่เครื่องบินจะได้สามารถบินต่อไปตามปกติ