เซ็ง! ซื้อบ้าน 1.9 ล้าน โอนเรียบร้อย เจอทหารอ้างกรรมสิทธิ์ร่วม

เซ็ง! ซื้อบ้าน 1.9 ล้าน โอนเรียบร้อย เจอทหารอ้างกรรมสิทธิ์ร่วม

สาวงง! ซื้อบ้านราคาเกือบ 2 ล้าน โอนโฉนดเรียบร้อย แต่มีคนอ้างเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ร่วม แถมข่มขู่ วอนผู้ที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลตรวจสอบด่วน

 

วันที่ 21 มี.ค.62 นางสาวมุทิตา อิ่มสอน เปิดเผยว่า ได้ซื้อบ้านแฝด เลขที่ 40/663 ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ต่อจากนายอนุชิต พลสาย อายุ 40 ปี และนางสาวทองคำ ชินวงค์ ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านหลังดังกล่าว

โดยก่อนที่จะตกลงซื้อทางเจ้าของบ้านเดิมได้พาเดินดูบ้าน และตกลงซื้อในราคา 1.9 ล้านบาท จากนั้นในวันที่ 21 ก.พ.62 จึงนัดทำสัญญา และโอนโฉนดกันที่สำนักงานที่ดินคลองหลวง พร้อมกับจ่ายเงินสด 1.9 ล้านบาท

ในวันรุ่งขึ้น (22 ก.พ.62) ตนเดินทางมาเพื่อจะเข้าไปดูบ้าน พร้อมกับจะพาคนงานไปทำต่อเติมบ้าน แต่เมื่อไปถึงก็ไม่สามารถเข้าบ้านได้ เพราะกุญแจที่ล็อกไว้ถูกตัดทิ้ง แต่กลับมีกุญแจใหม่ล็อกไว้แทน พร้อมทั้งมี กระป๋องสี และอุปกรณ์ของช่างสีวางเกะกะรอบๆ บ้าน

ทั้งนี้ จึงเดินทางมาที่ สภ.คลองหลวง เพื่อแจ้งความลงบันทึกประจำวัน จากนั้นได้มีโทรศัพท์เข้ามา เป็นผู้หญิงบอกว่า ห้ามนำสิ่งของเหล่านั้นออกจากบ้าน เพราะตัวเขาเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ร่วมในบ้านหลังนี้ พร้อมทั้งยังอ้างว่าเป็นทหาร ถ้าอยากรู้ให้มาเจอกันที่ สภ.คลองหลวง เพื่อนัดเจรจาทั้งเจ้าของบ้านเดิม และผู้ซื้อใหม่

หลังเกิดเหตุจึงได้ติดต่อสอบถามไปยังเจ้าของบ้านเดิมว่าเกิดอะไรขึ้น ได้รับคำตอบว่าก่อนหน้านี้นายอนุชิตได้มีการทำสัญญาข้อตกลงกับบริษัทแห่งหนึ่งที่เป็นนายหน้ารับติดต่อซื้อขายบ้าน

โดยตกลงกันไว้ว่าภายใน 6 เดือน ถ้าทางบริษัทยังขายไม่ได้ เจ้าของบ้านก็จะขายเอง สัญญาทุกอย่างก็จะต้องยุติลงตามเงื่อนไข และเมื่อผ่านไปเกิน 6 เดือนบ้านก็ยังขายไม่ได้ ทางเจ้าของเดิมก็ไปลงประจำวันไว้ที่ สภ.คลองหลวง ต่อมาเจ้าของเดิมก็มาบอกขายกับตน และตกลงซื้อกันในราคาดังกล่าว

นางสาวมุทิตา ระบุว่า รู้สึกไม่เข้าใจและเศร้าเป็นอย่างมาก ได้ติดต่อทนายความเข้าช่วยเหลือ จนช่วงเช้าวันที่ 20 มี.ค.62 ได้รับโทรศัพท์จากคนงานที่ตนเตรียมให้ไปทำการแต่งเติมบ้าน บอกว่ามีผู้หญิงใส่ชุดทหารเต็มยศพร้อมชายฉกรรจ์อีก 1 คนมาที่บ้าน พร้อมนำรถยนต์กระบะถอยเข้ามาจอดในโรงรถหน้าบ้าน

โดยนางสาวมุทิตา กล่าวอีกว่า ได้เดินทางมาที่ สภ.คลองหลวง พร้อมกับร้องขอความเป็นธรรมกับสื่อ เพื่อความปลอดภัย เนื่องจากได้รับการข่มขู่ว่าให้ระวังตัวให้ดี หลังจากที่สืบรู้ชื่อทหารเรือคนดังกล่าวแล้ว

ทั้งนี้ ตนเองพร้อมทนายความ ได้เดินทางไปยื่นหนังสือถึงผู้บังคับบัญชาที่ต้นสังกัดนายทหารผู้นี้ แต่ยังไม่มีทีท่าจะมาเคลื่อนย้ายรถออกจากบ้าน สร้างความลำบากใจให้กับตนและครอบครัวเป็นอย่างมาก จึงอยากฝากถึงผู้ใหญ่ หรือผู้ที่เกี่ยวข้อง ให้ช่วยลงมาดูเรื่องนี้ด้วย

ข้อมูลข่าว-ภาพ : ไทยรัฐ

ข่าวอื่นที่น่าสนใจ

ตำรวจผู้ดียันศพ “สตรีแห่งขุนเขา” คือร่าง “ลำดวน สีกันยา”