สิงคโปร์ครองแชมป์ค่าครองชีพแพงสุดในโลก ส่วน“บางกอก”ติดโผ 41

สิงคโปร์ครองแชมป์ค่าครองชีพแพงสุดในโลก ส่วน“บางกอก”ติดโผ 41


สิงคโปร์ ครองแชมป์ค่าครองชีพแพงที่สุดในโลก 5 ปีติดต่อกันคู่กับปารีส-ฮ่องกง ส่วนกรุงเทพมหานครอยู่อันดับที่ 41

สำนักข่าว บีบีซี รายงานอ้างถึงหน่วยวิเคราะห์ข้อมูลทางเศรษฐกิจของนิตยสาร ดิ อีโคโนมิสต์ ที่ทำการสำรวจผ่านองค์กร Economist Intelligence Unit (EIU) ซึ่งได้จัดอันดับผลสำรวจเมืองทั่วโลกที่มีค่าครองชีพแพงที่สุด และต่ำที่สุด ประจำปี 2019 และถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ 30 ปีของการจัดอันดับที่มี 3 เมืองครองตำแหน่งเมืองที่มีค่าครองชีพสูงที่สุดในโลกร่วมกัน

โดยทั้ง 3 เมืองที่มีการสำรวจ ประกอบไปด้วย เมืองสิงคโปร์ ประเทศสิงคโปร์ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส และเมืองฮ่องกง เขตปกครองพิเศษสาธารณรัฐประชาชนจีน

ผลการจัดอันดับ มาจากผลสำรวจและเปรียบเทียบราคาสินค้าทั้งในส่วนอุปโภคและบริโภคพื้นฐาน รวมถึงค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันต่างๆ ซึ่งประกอบไปด้วย ราคาอาหาร เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ บุหรี่ยาสูบ ค่าตัดผม ค่าเดินทาง และค่าที่พักอาศัย ซึ่ง EIU สำรวจทั้ง 133 เมืองทั่วโลก และนำราคามาเปรียบเทียบกับเมืองที่เป็นเกณฑ์มาตรฐาน คือ เมืองนิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา ผลที่ได้จึงทำให้พบว่าทั้ง 3 เมืองข้างต้น มีอัตราค่าครองชีพที่แพงที่สุดในโลก และสิงคโปร์ถือเป็นเมืองที่มีค่าครองชีพแพงที่สุดในโลกติดต่อกันมาถึง 5 ปี ขณะที่กรุงเทพมหานคร ของประเทศไทย ติดอยู่ในอันดับที่ 41 ของการจัดอันดับ ร่วมกับนครบริสเบน ประเทศออสเตรเลีย และกรุงเวลลิงตัน ประเทศนิวซีแลนด์ ส่วนเมืองข้างเคียงกรุงเทพฯ อย่างกรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม อยู่ในอันดับที่ 60 ตามมาด้วยกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา อันดับที่ 76

นอกจากนี้ รายงานจาก EIU ระบุว่า ค่าครองชีพของเมืองหลายประเทศในภูมิภาคนี้กำลังพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน ซึ่งเหตุผลหลักมาจากเศรษฐกิจของหลายเมืองที่เริ่มขยายตัวอย่างแข็งแกร่งต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา

 

 

ในส่วนเมืองที่ค่าครองชีพต่ำที่สุดในโลก ปรากฎว่าเป็นกรุงการากัส ประเทศเวเนซุเอลา ที่ขณะนี้กำลังเผชิญปัญหาเศรษฐกิจภายในประเทศอย่างหนัก และมีอัตราเงินเฟ้อสูงถึง 1 ล้านเปอร์เซ็นต์เมื่อปีที่ผ่านมา ส่วนอันดับ 2 เป็นของกรุงดามัสกัส ประเทศซีเรีย และอันดับ 3 คือกรุงทาชเคนต์ ประเทศอุซเบกิสถาน