โครงการรถไฟฟ้าเชื่อม 3 สนามบินคืบหน้าดี

โครงการรถไฟฟ้าเชื่อม 3 สนามบินคืบหน้าดี


รฟท.เผยผลคุยซีพีโครงการรถไฟฟ้าเชื่อม 3 สนามบินชัดเจนมากขึ้น ชี้เหลือข้อตกลงที่ต้องพิจารณาร่วมกันอีก 3-4 ข้อ คาดว่าทุกอย่างจะสรุปก่อนเทศกาลสงกรานต์

วันที่ 19 มีนาคม 2562 – นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการแทนผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า วันนี้ตัวแทนจากกลุ่มบริษัท เจริญโภคภัณฑ์ โฮลดิ้ง จำกัด (กลุ่มซีพี) และพันธมิตร ได้เข้ามาเจรจาเพื่อประชุมติดตามความคืบหน้าโครงการรถไฟฟ้าเชื่อม 3 สนามบินหลัก โดยภาพรวมการเจรจามีแนวโน้มที่ดีจึงสามารถเดินหน้าเจรจาในครั้งต่อไปได้

โดยการเจรจาวันนี้ได้ทำความเข้าใจในข้อเสนอของกลุ่มซีพี 12 ข้อ จากก่อนหน้านี้ยังมีความเข้าใจคลาดเคลื่อน ทำให้เหลือข้อเสนอที่จะต้องเจรจากันต่อไปเพียงเรื่องที่เกี่ยวกับการเงิน 3-4 ข้อ จึงคาดว่าจะมีความชัดเจนมากขึ้นในปลายสัปดาห์นี้หรือต้นสัปดาห์หน้า โดยได้นัดเจรจารอบต่อไปในวันที่ 28 มี.ค.62 ซึ่งคาดว่าจะมีความชัดเจนมากขึ้น และคงนัดอีกครั้งเพื่อสรุปการเจรจาก่อนเทศกาลสงกรานต์

ข้อเสนอ 12 ข้อ อาทิ การขอขยายเวลาสัญญาสัมปทานออกไปเป็น 99 ปี จาก 50 ปีนั้น ทางกลุ่มซีพีได้ชี้แจงว่าเป็นความเข้าใจคลาดเคลื่อน เพราะการต่ออายุสัญญาสัมปทานขึ้นอยู่กับทางรัฐ หากรัฐต้องการต่อสัญญาทางกลุ่มซีพีก็พร้อมเปิดเจรจา

นอกจากนี้ ยังมีข้อเสนอเกี่ยวกับด้านการเงิน อาทิ การขอให้ภาครัฐจ่ายชดเชยให้เอกชนตั้งแต่ปีแรก โดยทางกลุ่มซีพีต้องเจรจากับสถาบันการเงิน และเป็นความร่วมมือระดับประเทศของทั้ง 3 ฝ่ายคือ ไทย ญี่ปุ่น และจีน ซึ่งต้องใช้เวลาเจรจา ทางกลุ่มซีพีคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในสัปดาห์นี้หรือไม่เกินวันที่ 25 มีนาคม เพราะหากสามารถเจรจาเงื่อนไขการเงินได้จะช่วยลดความเสี่ยงได้มาก เพราะเป็นเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ โดยขณะนี้การเจรจามีความคืบหน้าถึง 70%

“เงื่อนไขที่เกี่ยวกับการเงิน เขา(ซีพี) บอกว่ามีแนวโน้มที่ดี วันนี้เงื่อนไขที่เคยขออะไร วันนี้ไม่ได้ขึงขังที่จะเอา ถ้าข้อเสนอการเงินผ่อนปรนได้เขาก็มีลู่ทางไปได้”นายวรวุฒิ กล่าว

ทั้งนี้ ธนาคารเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (JBIC) จะเป็นผู้สนับสนุนด้านการเงินให้กับกลุ่มซีพี

ส่วนข้อเสนอที่เป็นการแก้ไขปรับปรุงข้อความที่เฉพาะเจาะจงมากเกินไปนั้น เชื่อว่าจะการเจรจากันได้ เพราะเป็นสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น อาทิ การย้ายสถานี การทำส่วนต่อขยาย การทำตลาด เป็นต้น ซึ่งจะคุยในรายละเอียดกันต่อไปว่าจะใช้ข้อความใด

สำหรับประเด็นการเมืองที่พันธมิตรต่างประเทศของกลุ่มซีพีมีความกังวลว่าเมื่อมีรัฐบาลใหม่เข้ามาจะมีการยกเลิกโครงการ หรือต้องเปิดเจรจาใหม่นั้น นายวรวุฒิ ย้ำว่า ขอให้เชื่อมั่นว่ารัฐบาลไทย และประเทศไทยก็รักษาวินัยการคลังได้อย่างเคร่งครัดสูงมาก รวมทั้งภาครัฐก็ไม่มีนโยบายที่จะทำเส้นทางรถไฟความเร็วสูงมาแข่งขันในเส้นทางเดียวกัน

“การเจรจาวันนี้ภาพรวมมีแนวโน้มที่ดี ไม่อึมครึม ไม่ได้ถึงทางตัน ข้อมูลของคณะกรรมการมีประเด็นต่างๆที่สามารถดำเนินการต่อไปได้ สรุปที่ขอมา 12 ข้อที่ขอเรามีความเข้าใจคลาดเคลื่อนกัน …เขาไม่ได้ขอยาว แต่ถ้ารัฐจะต่ออายุก็ขึ้นกับภาครัฐ”นายวรวุฒิกล่าว