หัวหน้าพรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย เตรียมผลักดัน เสือดำ-เสือดาว และเสือโคร่งอินโดไชนิส เป็นสัตว์ป่าสงวน หลังกระแสเสือดำถูกยิงทำให้คดีล่าสัตว์ป่าลดลง ส่วนคดี “เปรมชัย” พรุ่งนี้ คาดเป็นข่าวดี
นายดำรงค์ พิเดช หัวหน้าพรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย อดีตอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้ตั้งข้อสังเกตคดีนายเปรมชัย กรรณสูต พร้อมพวก ตกเป็นจำเลยใช้อาวุธปืนยิงเสือดำ ว่า ส่วนตัวมองว่าเสือดำถือเป็นสมบัติของชาติ ที่ทุกคนควรช่วยกันรักษาไว้ และจากเหตุการณ์ที่เสือดำถูกยิงตายในครั้งนั้น ทำให้สังคม มีความตื่นตัว และเห็นความสำคัญเรื่องของการอนุรักษ์สัตว์ป่า
หัวหน้าพรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย เผยว่า ตนจะผลักดันต่อกรมอุทยานแห่งชาติให้เสือดำกับเสือดาวจากสัตว์ป่าคุ้มครองให้เป็นสัตว์ป่าสงวนลำดับที่ 16 ต่อจากพะยูน และจะเพิ่มเสือโคร่งอินโดไชนิสเข้าไปเป็นสัตว์ป่าสงวนลำดับที่ 17 ต่อไป เนื่องจากทั้งหมดนี้เป็นสัตว์ป่าหายากที่ใกล้สูญพันธุ์ และนับเป็นการขับเคลื่อนนโยบายของพรรคที่จะต้องส่งเรื่องไปตามระบบราชการไปยังกระทรวง เข้าสู่การพิจารณาของกรรมการไปให้คณะรัฐมนตรีอนุมัติ มีเกณฑ์พิจารณาคือเป็นสัตว์ที่มีจำนวนน้อยมาก อยู่ในความสนใจของผู้คนมีความพิเศษ อย่างเสือดำเสือดาว ซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องยาก เชื่อว่าจะต้องทำสำเร็จ
ทั้งนี้จากการตรวจสอบกับกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ทราบว่าหลังเกิดกระแสคดีเสือดำ ทำให้คดีการล่าสัตว์ป่าคุ้มครองและสัตว์ป่าสงวนลดลงอย่างเห็นได้ชัด นั่นทำให้เห็นว่าบุคคลผู้มีอำนาจทั้งหลายที่เคยลักลอบฆ่าสัตว์ในป่าใหญ่เกรงกลัว และตระหนักในกฎหมายเรื่องนี้มากขึ้น ขอบคุณคนไทยที่ช่วยกันเห็นความสำคัญของสัตว์ป่าทุกชนิด ไม่ละเลยหรือมองว่าเป็นสัตว์ป่า
ขณะที่ในวันพรุ่งนี้ (19 มี.ค.62) ที่ศาลจังหวัดทองผาภูมิ จะตัดสินคดีนายเปรมชัยและพวกยิงเสือดำนั้น ตนคาดว่าน่าจะเป็นข่าวดี แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาล ที่ตนเองไม่สามารถก้าวล่วงได้
