“วรวัจน์” อดีตผู้สมัค ส.ส. ทษช. ชี้แจงเรื่อง”โหวตโน”ไม่เข้าข่ายผิดกฎหมาย แค่อธิบายให้ชาวบ้านฟังว่า คืออะไร อ้างเป็นความต้องการของชาวบ้านเองที่ไม่ต้องการลงคะแนนให้ใคร อัดกลับ”อิทธิพร”น่าจะเข้าข่ายใช้อิทธิพลข่มขู่ทำผิดเสียเองมากกว่า
นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล อดีตผู้สมัครส.ส. พรรคไทยรักษาชาติ(ทษช.) เปิดเผยถึงกรณีนายอิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ระบุว่าได้ตั้งคณะสอบสวนการรณรงค์โหวตโนซึ่งถือเป็นการกระทำผิดกฎหมายว่า การตัดสินใจกาโหวตโนถือเป็นสิทธิของประชาชน ซึ่งชาวบ้านในพื้นที่จังหวัดแพร่ ได้มาสะท้อนความคิดเห็นว่าไม่อยากจะเลือกผู้สมัครรายใดในพื้นที่ และเป็นผู้เริ่มต้นเสนอที่จะกาโหวตโนเอง ตนเป็นเพียงผู้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับกรณีโหวตโน และชี้แจงกับชาวบ้านในพื้นที่ว่าการโหวตโนคืออะไร ส่วนประชาชนจะตัดสินใจอย่างไร เป็นเรื่องของประชาชนเอง
ทั้งนี้ ขอยืนยันว่าการกระทำของผมไม่เข้าข่ายความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.ในมาตรา 73 ที่ระบุว่า ห้ามบุคคลใดจูงใจให้เลือก หรือไม่เลือกผู้สมัครรายใดด้วยการสัญญาว่าจะให้ ใช้อิทธิพลข่มขู่หรือขัดขวางการออกไปใช้สิทธิการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งของประชาชน เพราะการพูดคุยกับประชาชนในวันนั้น ได้เน้นทำความเข้าใจเรื่องการโหวตโน ไม่ได้มีเรื่องของการสัญญาว่าจะให้ หรือขัดขวางการออกไปใช้สิทธิ์ออกเสียงของประชาชน
” กรณีที่ประธานกกต.ออกมาระบุว่า การโหวตโนเป็นการกระทำความผิด อาจจะเข้าข่ายขัดขวางหรือใช้อิทธิพลข่มขู่ ให้ผู้ที่มีสิทธิในการลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง ไม่ได้ไปออกเสียงในทางใดทางหนึ่งได้มากกว่า น่าจะเข้าข่ายทำผิดเสียเองมากกว่า “นายวรวัจน์กล่าว
นายวรวัจน์ ยังกล่าวถึงกรณีสวมเสื้อของพรรคเพื่อไทยไปพบปะกับชาวบ้านว่า เนื่องจากกลับไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยแล้ว ซึ่งถือเป็นสิทธิของประชาชนทั่วไป ที่จะสังกัดพรรคการเมืองใดก็ได้ และการสวมเสื้อลักษณะดังกล่าว เพื่อพบปะกับชาวบ้านในพื้นที่ถือเป็นความคุ้นชินตามปกติ เพราะได้แต่งกายลักษณะนี้มากกว่า 20 ปีแล้ว จึงไม่ใช่เรื่องผิดปกติในพื้นที่ สำหรับการพูดคุยกับชาวบ้านในวันนั้นไม่เชื่อมโยงอะไรกับพรรคเพื่อไทย เพราะพรรคเพื่อไทยไม่ได้ส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้งในเขตดังกล่าว จึงไม่เข้าข่ายว่าเป็นการจูงใจหรือเป็นการชี้นำใด ๆ
