“วิษณุ”แจงอดีตผู้สมัครส.ส.พรรค ทษช.สามารถไปสังกัดพรรคอื่นได้ แต่ไม่ทันลงสมัครเลือกตั้งครั้งนี้ ช่วยพรรคอื่นหาเสียงได้เพราะถือว่าเป็นประชาชนธรรมดา ส่วนใครกาบัตร ทษช.ก็ถือเป็นบัตรเสีย
วันนี้ (8 มี.ค.62) นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ได้ให้สัมภาษณ์หลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติยุบพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) ว่า ตามกฎหมายแล้วสมาชิกพรรคคนอื่น เมื่อพ้นจากสภาพสมาชิกพรรคแล้ว ถือเป็นอิสระ จะไปอยู่พรรคไหนก็ได้ หากพรรคนั้นรับ ส่วนจะไปสมัครรับเลือกตั้งไม่ได้แล้ว เพราะไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคนั้นๆ นาน 90 วัน
ผู้สื่อข่าวถามว่า สมาชิก ทษช.จะไปช่วยพรรคอื่นหาเสียงได้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า เขาไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ เขาเป็นประชาชนทั่วไป
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า หากพรรคเพื่อไทย (พท.) จะส่งผู้สมัคร ส.ส.ลงไปสมัครในเขตที่ ทษช.เคยสมัครได้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ได้ เพราะบัญชีปิดไปแล้ว วิธีคิดง่ายๆ หากพรรคไม่ถูกยุบ ก็ต่างคนต่างอยู่ เบอร์ใครเบอร์มัน พรรคใครพรรคมัน เขตใครเขตคนนั้น บัญชีรายชื่อก็อยู่อย่างนั้น ซึ่งวันนี้คือพรรคหาย ส.ส.เขตหาย บัญชีรายชื่อก็หายด้วย ก็ไม่มีอะไรที่ต้องไปฮุบ หรือใช้ประโยชน์อะไร ส่วนสมาชิกเดิมของพรรคที่ถูกยุบ จะไปช่วยใครก็แล้วแต่ท่าน เพราะเขาคือประชาชนทั่วไป ส่วนทางด้านการเยียวยา หากต้องการก็ไปเอากับพรรค เพราะตัวอย่างก็เห็นอยู่แล้วมีการยุบพรรคมาหลายหน บทเรียนก็มี
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า คะแนนที่ประชาชนไปกาให้กับ ทษช.จะนับอย่างไร นายวิษณุกล่าวว่า ไม่มีการนับ เพราะเป็นบัตรเสีย
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า หลังจากนี้ กกต.จะต้องแจ้งว่าพรรคถูกยุบ ในส่วนของบัตรที่พิมพ์จะทำอย่างไร นายวิษณุ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ กกต.ต้องแจ้งให้ทราบ จะมาบอกว่าทุกคนดูโทรทัศน์เหมือนกันไม่ได้ เพราะมีการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่า ศาลวินิจฉัยให้เพิกถอนสิทธิการรับสมัครเลือกตั้งของกรรมการบริหารพรรค 10 ปี ถือเป็นการลงโทษสถานเบาหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่วิจารณ์ เบาหรือหนัก ตนไม่รู้ ซึ่งในรัฐธรรมนูญก็ไม่ได้เขียนว่าตลอดชีวิต แต่เอาไปแปลกันว่าเมื่อไม่ได้เขียนเวลาไว้ก็คงตลอดไป ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญก็แปลใหม่ว่าเป็นเรื่องที่ศาลใช้ดุลยพินิจแปลตรงนี้ได้ ถ้าเป็นคดีอื่น ศาลก็อาจจะแปลเป็นอีกอย่าง เพราะว่าศาลระบุว่าเอาความผิด เอาการกระทำมาเป็นตัวตั้ง และใช้เทียบมาตรฐานในการเพิกถอนสิทธิในกรณีอื่นๆ ลดจากไม่มีกำหนดเวลาสูงสุดคือ 10 ปีอยู่แล้ว ทางด้านสถานการณ์ทางการเมือง ผู้สื่อข่าวถามว่า จากนี้จะนิ่ง หรือร้อนแรงขึ้น นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ทราบ
