มีนโยบายสิ่งแวดล้อมใน ‘พรรคการเมือง’ ประสานเสียงเพิ่มพื้นที่สีเขียว

มีนโยบายสิ่งแวดล้อมใน ‘พรรคการเมือง’ ประสานเสียงเพิ่มพื้นที่สีเขียว


ปัญหาสิ่งแวดล้อม เป็นอีกหนึ่งปัญหาสำคัญที่ส่งผลกระทบอย่างกว้างขวางและทุกระดับ ทุกภาคส่วน ตัวอย่างที่ชัดเจนเมื่อไม่นานนี้ คือปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 แม้กระทั่งการใกล้ตัดสินคดีเสือดำ รวมทั้งภัยแล้งที่คืบคลานเข้ามา ต่างๆเหล่านี้คือสิ่งที่เราพบเจอ จนเรียกได้ว่าชินตา

แต่คำถามต่อมา แล้วเมื่อไหร่ปัญหาที่ชินตา จะถูกแก้ไขให้เหมาะสมและยั่งยืน ?

อีก 18 วันจะถึงวันเลือกตั้ง 24 มีนาคม ชมรมนักข่าวสิ่งแวดล้อม สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ร่วมกับ ศูนย์อำนวยการวาระเลือกตั้ง 2562 จัดเวทีแสดงวิสัยทัศน์ตัวแทนพรรคการเมืองในหัวข้อ “ไม่มีนโยบายสิ่งแวดล้อมในพรรคการเมือง”วันอังคารที่ 5 มี.ค.ที่ผ่านมา เพื่อให้แต่ละพรรคการเมืองได้แสดงวิสัยทัศน์นโยบายสิ่งแวดล้อม

ต้องมีธนาคารที่ดิน

นายสุเทพ คงเทศ รองหัวหน้าพรรคกรีน ได้นำเสนอแนวคิดว่า สิ่งแวดล้อมเป็นสิ่งที่อยู่ในนโยบายหลักของพรรค หัวใจหลักของจิตวิญาณหรือดีเอ็นเอของพรรคมีอยู่ด้วยกัน 4 ข้อ ได้แก่ 1. ต้นไม้คือทรัพย์สิน 2.ที่ทำกินถูกต้องเป็นธรรม

3.เกษตรกรรมสุขภาพ และ 4.สันติภาพยั่งยืน สิ่งที่จะเน้นย้ำคือการอยู่กับสิ่งแวดล้อมเชิงนิเวศเศรษฐศาสตร์ และการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมในปัจจุบัน นโยบายข้อแรกต้นไม้เป็นทรัพย์สิน สนับสนุนการออกพระราชบัญญัติธนาคารต้นไม้ เป็นทรัพย์สิน โดยให้แยกกับที่ดินอย่างชัดเจน และออกเป็นบัตร Tax Three Access Park ซึ่งจะมีมูลค่าอยู่ในตัวมันเองและใช้เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันได้ ในแนวทางนี้เป็นการตั้งใจลดความเหลื่อมล้ำในสังคม โดยใช้ต้นไม้เป็นพื้นฐานที่สำคัญที่สุด และเราเชื่อว่าพื้นฐานชนบทอยู่ได้ ทุกคนอยู่ได้กับต้นไม้ และเมื่อต้นไม้เป็นทรัพย์สิน ก็จะเป็นสิ่งที่ง่ายสำหรับทุกคนเพราะสามารถปลูกต้นไม้ได้ทุกที่ ภาคเศรษฐกิจ ภาคชนบทอยู่ได้

ข้อต่อมา ที่ทำกินถูกต้องเป็นธรรม ทำพื้นที่ทุกตารางนิ้วในประเทศเป็นที่ดินที่ถูกต้องโดยกฎหมาย เมื่อเรามีที่เหยียบยืนให้ถูกต้องตามกฎหมาย เพราะมีคนอีก 1 ใน4 อาศัยบนพื้นที่ที่ไม่ถูกต้อง เช่น กลุ่มชาติพันธุ์กระเหรี่ยง มีจำนวนประชากรถึง 7 แสนคน และถ้าพื้นที่ถูกต้องประชาชนตามชนบท ก็ไม่มีความจำเป้นที่จะต้องดั้นด้นเข้ามาในเมืองหลวง

ส่วนเรื่องเกษตรกรรมสุขภาพ นโยบายเน้นย้ำการเกษตรอินทรีย์ โดยมีความแตกต่างกับหลักขึ้นแบบเดิม เพราะเรามองว่าคนทำเกษตรอินทรีย์คือคนที่สมควรได้รับการปกป้องเพราะทำดี เราจะเสนอแนวทางกฎหมายปกป้องคนทำเกษตรอินทรีย์ เรามีวาระชัดเจนที่จะไม่ใช้หรือสนับสนุน 6 สารเคมีอันตรายในภาคเกษตร

สำหรับแนวทางสันติภาพยั่งยืนนั้น มีแนวทางที่จะให้ประชาชนได้ออกเสียงทางสื่อโซเชี่ยลอย่างเสรี โดยเป็นการจัดตั้งสภาประชาธรรม สามารถแสดงความเห็นและโหวตในที่ประชุมออนไลน์ได้

แก้ปัญหาขยะด้วยการจัดการ หมา-แมว จรจัด

ด้านนายสมบัติ บุญงามอนงค์ หัวหน้าพรรคเกียน กล่าวว่า สังคมขาดการเรียนรู้ เพราะเราขาดสมดุลในการรับรู้จะหนักไปทางเรื่องบันเทิงก็ดี การทำมาหากินก็ดี แต่ประเด็นเรื่องสิ่งแวดล้อมมีพื้นที่น้อย เมื่อมีความจำกัดดังนี้ ทำให้การสนใจด้านสิ่งแวดล้อมมันอยู่ในวงแคบ ทำให้พลังทางการเมืองมันไม่เกิด และสำนึกสิ่งแวดล้อม จะเกิดขึ้นได้ต้องสร้างการรับรู้ก่อน แต่ไม่ใช่เรื่องประเด็นการศึกษา หากเป็นการรับรู้ของสังคมในการที่จะได้ดูได้ชมเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม

นอกจากนี้ หากจะเป็นรูปธรรมที่สุด ต้องมีการส่งเสริมรายการสารคดี ส่วนตัวเคยสัมภาษณ์นักสิ่งแวดล้อมจำนวนมาก และส่วนใหญ่ในวัยเด็กเคยได้ดูรายการสารคดี ซึ่งถือว่าเป็นปัจจัยที่มีนัยยะสำคัญ ที่จะทำให้คนเกิดสำนึกด้านสิ่งแวดล้อม เพราะลำพังตัวข่าวไม่พอ มันแคบไป

นายสมบัติ กล่าวอีกว่า ขอแยกปัญหาสิ่งแวดล้อมออกเป็น 2 ส่วน คือปัญหาในเขตพื้นที่เมืองและชนบท ซึ่งพรรคมองว่าปัญหาส่วนหนึ่งมาจากสุนัขและแมวจรจัด เป็นปัญหาสิ่งแวดล้อมที่กระทบต่อสังคมเมืองมาก อย่างแรกเป็นตัวคุ้ยขยะ ต้องมีการทำหมัน ต่อมาปัญหาเรื่องพื้นที่ ต้องมีพื้นที่สีเขียวและพื้นที่นันทนาการสำหรับในเมือง ประเทศเราวิธีการจัดปัญหาเชิงพื้นที่แย่มาก เช่นเรื่องฟุตบาท ตามซอยไม่มีที่เดิน ต่อมาเรื่องรถติด เป็นเรื่องปริมาณประชากรที่ไหลบ่ามาจากชนบท ดังนั้น โรงงานอุตสาหกรรมต้องอยู่ในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมและมีการจัดการสิ่งแวดล้อม

ส่วนปัญหาของชนบท คือเรื่องผักตบชวา เพราะสามารถแตกต้นได้ 1 ล้านต้นภายใน 1 ปี ด้านขยะในทะเล ทุกวันนี้ใครกล้ากินเกลือทะเลที่มีน้ำเสีย ขยะ มีสารพิษจากแม่น้ำ เราจะแก้ปัญหาได้อย่างไร ภูเขาหัวโล้นไม่สามารถแก้ได้ด้วยการปลูกป่า แต่จะสามารถแก้ไขได้ด้วยเศรษฐกิจป่าไม้ในชุมชน

ประชาธิปัตย์ไม่เอาถ่านหิน!

ส่วนนายเกรียรติ สิทธิอมร ที่ปรึกษาและส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ บอกว่า พรรคเราเวลาเริ่มต้นในการออกแบบนโยบายในการเลือกตั้ง โจทย์มี 2 เรื่องหลัก ไทยเป็นสมาชิกสหประชาชาติ มันมีเป้าหมายของการพัฒนาที่ยั่งยืน เป็นโจทย์ที่สำคัญและครอบคลุมทุกมิติ ซึ่งเราดึงมาใช้ 17 ข้อ โจทย์อีกข้อคือข้อตกลงปารีส ที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศโลก ถึงจะเป็นข้อตกลงที่ไม่ได้มีการบังคับ แต่เป็นการกำหนดเป้าหมายสำหรับประเทศกำลังพัฒนา ในการที่จะออกแบบนโยบายหรือดำเนินนโยบายต่างๆ ให้สอดคล้องกับสิ่งที่ผูกพันไว้

โดยในโจทย์ทั้ง 2 ข้อที่กล่าวมา ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ เราจะทำ 4 เรื่อง ประกอบไปด้วย 1.รัฐเป็นผู้คุมกฎ เป็นผู้กำกับ ต้องไปดูว่ากฎหมายที่เรามีอยู่ มันมีพอไหม ทำงานได้ประสิทธิภาพหรือไม่ กฎหมายเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมออกมาครั้งแรกปี 2535 แม้จะมีประสิทธิภาพ โดยตั้งอยู่บนแนวคิดใครเป็นคนทำลายสิ่งแวดล้อม คนนั้นจะต้องรับภาระ เป็นหลักคิดเดียวกันทั่วโลก แต่กำกับไม่ได้ผล ดังนั้น จะต้องมีการออกกฎหมายเพิ่มเติม และเพิ่มงบประมาณเพิ่มเติมในกรมควบคุมมลพิษ เพิ่มให้ตายก็ไม่ครอบคลุม จึงควรจะมีกฎหมายเกี่ยวกับการประเมินและติดตามจึงจะมีสิทธิภาพ ให้คนที่ทำลายสิ่งแวดล้อมมีการตรวจสอบ ติดตาม และรายงานผลกระทบที่น่าเชื่อถือต่อกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

2.เพิ่มบทบาทในเรื่องสิ่งแวดล้อมของภาคเอกชน เพราะจากที่เคยคิดว่าสิ่งแวดล้อมเป็นตัวเพิ่มภาระแต่จริงๆ เป็นตัวสร้างเศรษฐกิจได้ 3. เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้ประกอบการและผู้บริโภค เป็นเรื่องของการลดใช้ขยะอุตสาหกรรม พลาสติก ขยะรูปแบบต่างๆ เราจะทำด้วยนโยบายสิ่งจูงใจทางภาษี ข้อสุดท้ายข้อที่ 4.บูรณาการในการทำงานแก้ไขปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม ไม่ใช่ภาระกระทรวงใดกระทรวงหนึ่ง

ส่วนเรื่องฝุ่นละอองอย่างที่เพิ่งเจอปัญหากัน นายเกียรติ บอกว่า ต้นตอใหญ่มาจากชุมชนเมือง การแก้ปัญหาให้ได้ผลรวดเร็วต้องเริ่มจากชุมชนเมืองก่อน จะสนับสนุนให้กลับมาใช้น้ำมัน บี 10 บี 20 บี 100 เป็นเชื้อเพลิง รวมทั้งการแก้ไขปัญหาการเผา ต้องส่งเสริมเครื่องมือในการกำจัดซากอ้อย โดยสหกรณ์ชุมชน และเน้นย้ำพรรคประชาธิปัตย์ไม่เอาถ่านหิน โดยต่อไปต้องเป็นพลังงานสะอาดทั้งหมด ยานยนต์ เรือ รถ รถไฟ ไปในทิศทางด้วยระบบไฟฟ้า รวมทั้งเพิ่มพื้นที่สีเขียวในเขตเมือง การจัดการน้ำอย่างยั่งยืน และแหล่งท่องเที่ยวเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมทั้งเกษตรอินทรีย์ การศึกษารายงานผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ต้องมีการปรับให้คาดเดาได้ ประเมินได้อย่างรวดเร็ว

เน้นย้ำปฏิวัติสีเขียว

ขณะที่ นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย บอกกับวงเสวนาว่า พรรคมีโจทย์อยู่ 5 ข้อ เป็นโจทย์ทางวิชาการ 4 ข้อ ทางการเมือง 1 ข้อ โดยในข้อที่ 1.เรามีความรู้สึกว่าในขณะนี้มนุษย์ล่วงเกินธรรมชาติมากเกินไป 2.ธรรมชาติเริ่มแก้แค้นต่อมนุษยชาติ เช่น โลกร้อน น้ำท่วม เป็นต้น 3. ธรรมชาติที่เป็นของเราเริ่มบุบสลายและเริ่มส่งผลกระทบต่อการดำรงชีพ 4.ธรรมชาติเริ่มหยุดวิวัฒนาการ และมีแนวโน้มเข้าสู่การสูญพันธุ์ครั้งที่ 8 และเมื่อแปร4 เรื่องข้างต้นนั้น พรรคเพื่อไทยคิดว่า การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมที่ยั่งยืนนั้น มันไปไม่ได้ด้วยสภาพธรรมชาติแบบนี้ เพราะคนในประเทศขาดความมั่นคงในชีวิตไปเสียแล้ว

เราจะตอบโจทย์นี้ด้วยความคิด 3 แนว ยุทธศาสตร์ข้อที่ 1 นโยบายสีเขียว โดยจะต้องเป็นนโยบายเชิงนิเวศทั้งหมด หรือเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ยุทธศาสตร์ข้อที่ 2 นโยบายอะไรก็ตามจะต้องให้ความสำคัญเกี่ยวกับเรื่องก๊าซเรือนกระจก จะทำให้อุณหภูมิของโลกกับมาสู่สภาวะปกติ ยุทธศาสตร์ข้อที่ 3 นโยบายอะไรก็ตามของพรรค ไม่ว่าเกี่ยวข้องกับเรื่องใดๆทั้งสิ้น จะต้องมุ่งไปสู่กระบวนทัศน์ที่พึงประสงค์ด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาเมือง การพัฒนาชนบท การพัฒนาอุตสาหกรรม รวมทั้งการพัฒนาทางพาณิชย์ก็ดี โดยจะต้องอยู่ในกรอบของเชิงนิเวศทั้งสิ้น สร้างเมืองสีเขียว ลงทุนการอนุรักษ์ขนานใหญ่ เช่น การปลูกป่า ป่าชายเลน และมุ่งไปสู่สังคมสีเขียว รวมทั้งปลูกป่าครั้งใหญ่ 5 ล้านไร่ เพื่อเป็นการปลูกทรัพยากร และจะส่งเสริมพืชเศรษฐกิจสมัยใหม่ กัญชง-กัญชา รวมทั้งแนวทางฟื้นความสะอาดหน้าดินเพื่อมุ่งสู่การเป็นเกษตรอินทรีย์ การฟื้นฟูทะเล ลดฝุ่นPM2.5 และแนวทางยกเลิกถุงพลาสติก

‘สามัญชน’ จะยกเลิกอีอีซี

นายปกรณ์ อารีกุล โฆษกพรรคสามัญชน บอกเล่าว่า นโยบาย 4 ด้านในการลดความเหลื่อมล้ำ หนึ่งในนั้นคือ การลดความเหลื่อมล้ำด้านสิ่งแวดล้อม เรามองว่าปัญหาสิ่งแวดล้อมเกิดจากคนรวยหรือชนชั้นนำ แล้วเมื่อเกิดปัญหาคนที่ได้รับผลกระทบคือคนธรรมดา เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ เราเสนอ 4 นโยบาย ได้แก่ 1.ผลักดันกฎหมายอากาศสะอาด ต้องมีการนำตัววัดค่าฝุ่น PM2.5 ไปติดที่ปล่องโรงงานอุตสาหกรรม จะได้รู้ว่าสถานประกอบการไหนปล่อยควันพิษเกินมาตรฐาน

2.ต้องยกเลิกคำสั่ง คสช.ที่ทำให้เกิดวิกฤตทางสุขภาพต่างๆ ไม่วาจะเป็นคำสั่งยกเว้นผังเมือง คำสั่งหัวหน้าคสช.ที่4/2559 คำสั่งคสช.ที่ 9 / 2559 ในเรื่องลดทอนกลไกในการเฝ้าระวังหรือควบคุมผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม 3.ยกเลิกพ.ร.บ.เขตพัฒนาเศรษฐกิจภาคตะวันออกหรืออีอีซี เพราะในขณะที่กรุงเทพฯ มีค่าฝุ่นPM2.5 สูง กลับกันที่อ.ปลวกแดง จ.ชลบุรีค่าเกินมาตรฐานนานนับเดือนไม่มีใครไปสนใจ 4.สนับสนุนพลังงานสะอาดเต็มรูปแบบ ยกเลิกการใช้พลังงานฟอลซิล ยกเลิกโรงไฟฟ้าถ่านหิน และเขื่อนขนาดใหญ่ หยุดเขื่อนแม่วงก์ เขื่อนวังหีบ เปิดประตูน้ำเขื่อนปากมูล คืนวิถีชีวิต คืนปลาสู่แม่น้ำ

ในส่วนเศรษฐกิจ โรงงานที่มีผลต่อสิ่งแวดล้อม คือการสนับสนุนยกเลิกการใช้สารเคมีในภาคการเกษตร และในช่วงเปลี่ยนผ่านการยกเลิกใช้ตกมีการเยียวยาเกษตรกรที่เคยใช้ เพราะถ้ายกเลิกทันทีจะมีผลกระทบ คุ้มครองแนวชายฝั่งทะเล ให้เกิดการทำประมงเชิงอนุรักษ์ ตลอดแนวชายฝั่งทะเลอ่าวไทย เป็นเรื่องที่ส่งผลโดยตรงกับอาหารที่เรากิน สุดท้าย เรื่องที่ดิน ถ้าเราทำให้คนในชนบทมีที่ดินผ่านการออกพ.ร.บ.โฉนดชุมชนเพื่อให้เกิดการกระจายที่ดิน ออกพ.ร.บ.ธนาคารที่ดิน เพื่อให้เกิดการซื้อที่ดินไปกระจายให้กับชุมชนในภาคการเกษตร

ต้องแก้ปัญหาทุกมิติ

ขณะที่ นิติพล ผิวเหมาะ ส.ส.บัญชีรายชื่อและผู้ผลักดันนโยบายสิ่งแวดล้อมและสิทธิสัตว์ พรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า สิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวและสำคัญมาก หลายประเทศทั่วโลกให้ความสำคัญมาก ขณะที่บ้านเราให้ความสำคัญน้อยไปและทำให้เป็นเรื่องที่ไกลตัว สำหรับพรรคอนาคตใหม่ ในนโยบาย 8 เสาหลักประชาธิปไตยมีนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมและสิทธิสัตว์ หลักคิดคือ คนไม่ใช่สิ่งมีชีวิตเดียวที่อยู่บนโลก และที่ผ่านมาการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมของไทยไม่เคยสำเร็จและยั่งยืน เพราะว่าคนกลุ่มหนึ่งจะแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมเพียงด้านเดียว ไม่สนใจชีวิตความเป็นอยู่ การหากินจะเป็นอย่างไร

ขณะที่อีกกลุ่มมุ่งแก้ปัญหาสวัสดิภาพสัตว์ ไม่ได้สนใจว่าความรักสัตว์ของตัวเอง จะเป็นปัญหาต่อสิ่งแวดล้อมมากขนาดไหน ในขณะเดียวกัน คนก็จะแก้ปัญหาเฉพาะปัญหาของคน โดยไม่สนใจว่าจะทำลายสิ่งแวดล้อมมากขนาดไหน จะกระทบสวัสดิภาพสัตว์มากน้อยเท่าใด เมื่อมีการออกแบบนโยบาย มีหลักคิดว่าจะทำอย่างไรให้คนได้ประโยชน์ สัตว์ได้ประโยชน์ สิ่งแวดล้อมได้ประโยชน์ ที่สำคัญต้องกระจายให้ทุกฝ่ายได้ประโยชน์ สร้างงาน สร้างอาชีพ เลิกใช้พลาสติกใน 4 ปี แยกขยะจากต้นทาง ตั้งโรงงานผลิตเชื้อเพลิงพลังงานขยะ นโยบายกองทุนอีไอเอ ทั้งหมดคือชุดนโยบายด้านสิ่งแวดล้อม อีกชุดคือนโยบายสวัสดิภาพสัตว์ ต้องจัดทำฐานข้อมูลกลาง ยกระดับมาตรฐานสวัสดิภาพสัตว์ จัดตั้งกองตำรวจสวัสดิภาพสัตว์ รวมทั้งสนับสนุนการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์