“งานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก” คืบหน้าแล้ว 80%

“งานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก” คืบหน้าแล้ว 80%

รองนายกฯ เผยงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก มีความคืบหน้าร้อยละ 80 ยึดตามโบราณราชพระราชประเพณี ตามพระราชกระแสรับสั่งสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไม่หรูหรา ฟุ่มเฟือย เกินไปกว่าที่เป็นพระราชประเพณีเดิม

 

ซอยอารีย์สัมพันธ์ – 1 มี.ค. กรมประชาสัมพันธ์ ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์งานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เปิดดำเนินการศูนย์สื่อมวลชนสำหรับงานพระราชพิธีเป็นวันแรก ที่ชั้น1 อาคารหอประชุมกรมประชาสัมพันธ์ ซอยอารีย์สัมพันธ์ พร้อมจัดแถลงข่าว ‘การเตรียมงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก’

โดยมีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการฝ่ายพิธีการ เป็นประธาน นายวิษณุ กล่าวว่า งานพระราชพิธีบรมราชาภิเษกที่กำลังจะมีขึ้นในอีก 1 เดือนข้างหน้านี้ ถือเป็นพระราชพิธีสำคัญที่ยิ่งใหญ่ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชกระแสรับสั่งกับนายกรัฐมนตรีว่าขอให้จัดเพียงตามโบราณราชประเพณีเท่านั้นอย่าไปสร้างเสริมเติมแต่งอะไรขึ้นใหม่ให้หรูหรา ฟุ่มเฟือยหรือมากเกินไปกว่าที่เป็นพระราชประเพณีเดิม

ให้ทำโดยรวบรัด ถ้าสามารถรวบรัดได้และคำนึงถึงการประหยัด หลักนี้เป็นหลักที่รัฐบาลรับใส่เกล้าใส่กระหม่อมมาและยึดแนวพระราชกระแสดังกล่าวมาโดยตลอด โดยพระราชพิธีบรมราชาภิเษก แบ่งออกเป็น 3 ช่วงเวลา เรียกว่าพระราชพิธีเบื้องต้น พระราชพิธีเบื้องกลางและพระราชพิธีเบื้องปลาย

สำหรับฝ่ายจัดพิธีการ มีการเตรียมการต่างๆ
1.เรื่องตราสัญลักษณ์ ซึ่งจะใช้ประทับลงบนคนโทน้ำศักดิ์สิทธิ์ และมอบให้ กทม.นำไปประดับตกแต่งสถานที่และเส้นทางเสด็จฯ ตลอดจนธงพระราชพิธีที่มีพื้นสีเหลืองและตราสัญลักษณ์อยู่ตรงกลางและจัดทำเป็นเข็มที่ระลึก
2.เลือกพระบรมฉายาลักษณ์ เพื่อใช้ให้เหมือนกันทั้งประเทศ
3.เตรียมน้ำสำหรับใช้พิธีสรงมุรธาภิเษก โดยจะมีพิธีพลีกรรมวันที่ 6 เม.ย.นี้
4.เตรียมน้ำศักดิ์สิทธิ์จากทุกจังหวัด สำหรับใช้เป็นน้ำอภิเษกและมีพิธีตักน้ำจากแหล่งศักดิ์สิทธิ์พร้อมกันทั่วประเทศในวันที่ 6 เม.ย.โดย 8-9 เม.ย.จะเชิญน้ำไปจัดเก็บในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของแต่ละจังหวัด จากนั้นแต่ละจังหวัดจะเชิญไปเก็บไว้ที่ศาลาว่าการกระทรวงมหาดไทย โดยจัดเก็บในคนโทตราสัญลักษณ์
5.เตรียมเครื่องมือเครื่องใช้แผ่นทองคำสำหรับใช้จารึกพระสุพรรณบัฏแกะดวงพระราชสมภพ และแกะพระราชลัญจกร
6.เครื่องมือเครื่องใช้ก่อสร้างมณฑปพระกระยาสนาน ซ่อมเกยสำหรับที่จะเสด็จลงเสลี่ยงหรือพระราชยานก้าวลงประทับแล้วเสด็จฯเข้าสู่พระอุโบสถ
7.การเตรียมเกี่ยวกับขบวนพยุหยาตรา ซึ่งในขบวนพยุหยาตราสถลมารคจะใช้เวลาทั้งหมด 4.30 ชั่วโมง ฝ่ายทหารได้เตรียมการส่วนนี้แล้ว ส่วนขบวนพยุหยาตราชลมารค จะมีช่วงปลายเดือน ต.ค. เริ่มที่ท่าวาสุกรีไปยังวัดอรุณฯ และจะมีการเห่เรือตลอดเส้นทาง ระยะทาง 4 กิโลเมตร

นายวิษณุ กล่าวด้วยว่า วันที่ 6 พ.ค.เสด็จออกสีหบัญชรประชาชนสามารถเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทถวายพระพรชัยมงคลได้ที่ถนนสนามไชย สวนสราญรมย์ ศาลฎีกา ไปจนถึงสนามหลวง คาดว่าจะมีประชาชนนับแสนนับล้านร่วมเฝ้าชื่นชมพระบารมี

โดย กทม.จะติดตั้งจอแอลอีดีให้ได้รับชมการถ่ายทอดสดพร้อมเพรียงกัน หลังจากนี้จะเสด็จรับคณะทูตถวายพระพรชัยมงคล ณ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท เป็นการเสร็จพระราชพิธีเบื้องกลาง

รองนายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า งานพระราชพิธีครั้งนี้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีทรงแนะนำให้ระมัดระวังเรื่องการเคลื่อนย้ายผู้คนระหว่างพิธีต่างๆ เนื่องด้วยพระราชวงศ์หลายพระองค์ รวมทั้งบุคคลสำคัญต่างๆ สูงอายุ การเดินจากที่หนึ่งไปยังที่หนึ่งเป็นการเปลี่ยนจุดที่ละเอียดอ่อน จะต้องเป็นฝ่ายรอเฝ้าฯก่อนหรือตามไปเฝ้าฯทีหลังต้องได้จังหวะจะโคนที่พอดี

“ทั้งหมดเป็นเรื่องที่ต้องเตรียมการ และต้องเตรียมอย่างอื่น ขณะนี้ 7 อย่างที่เตรียมไว้เกือบเสร็จเรียบร้อยแล้ว เกิน 80 เปอร์เซนต์ ยังจะมีบางเรื่องที่อาจจะต้องเตรียมเพิ่มเติมในโอกาสต่อไป เมื่อได้รับพระราชทานพระราชวินิจฉัยลงมา” รองนายกรัฐมนตรี กล่าว

ด้านนางทัศนีย์ ผลชานิโก รองอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ กล่าวว่า การประชาสัมพันธ์พระราชพิธีบรมราชาภิเษก กรมประชาสัมพันธ์ได้จัดทำข้อมูลพระราชพิธีในรูปแบบออนไลน์ 3 รูปแบบ
1.เว็บไซต์ www.phralan.in.th ซึ่งสามารถสืบค้นข้อมูลงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ผ่านหนังสือสำคัญๆ ที่บรรจุในรูปแบบอีบุ๊ก 4 เล่ม
2.เพจเฟซบุ๊ก พระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 มีเนื้อหาเช่นเดียวกับเว็บไซต์พระลาน
3.คิวอาร์โคดและกูเกิลไดรพ์ ที่บรรจุข้อมูลต่างๆ ข้างต้นไว้ เพื่ออำนวยความสะดวก

ข่าวอื่นที่น่าสนใจ
เปิดตัวหนังสือ “พระราชพิธีบรมราชาภิเษก”