วันนี้(26 กพ.) นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ กรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.ข้าว สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เปิดเผยว่า การออกกฎหมายเป็นหน้าที่ของสนช.ไม่อยากเอาเรื่องการเมืองมาผสมกับการทำหน้าที่ของสนช. ในฐานะคนเสนอร่างกฎหมายดังกล่าว เห็นว่าเมื่อสังคมยังไม่มีความเข้าใจ และเมื่อปล่อยไปจะทำให้เกิดความเข้าใจผิดมากกว่าเดิม จึงขอเลื่อนการพิจารณาร่างกฎหมายฉบับนี้ออกไปอย่างไม่มีกำหนด และคาดว่าสนช.ชุดนี้จะไม่นำมาพิจารณาอีก และปล่อยให้เป็นหน้าที่ของรัฐบาลชุดต่อไป
“ขอเรียกร้องว่าอย่าโยงไปถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช.เพราะนายกฯไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ยืนยันว่าสนช.ทุกคนรักประเทศเหมือนกัน ร่างพ.ร.บ.นี้ยังค้างอยู่ในสภา ถ้ารัฐบาลใหม่เข้ามา จะนำมาพิจารณาก็ได้ ส่วนสนช.ชุดนี้จะไม่หยิบมาพิจารณาแล้ว เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดความขัดแย้งในสังคม” นายกิตติศักดิ์ กล่าว
นายกิตติศักดิ์ กล่าวอีกว่า สำหรับร่างกฎหมายฉบับนี้ผ่านการศึกษามา 2 ปีแล้ว ไม่ได้เพิ่งมาดำเนินการในช่วงนี้ ทั้งนี้ เชื่อว่าสักวันหลายคนจะคิดถึง เพราะว่ากฎหมายฉบับนี้เป็นประโยชน์กับชาวนาและทุกฝ่าย โดยการยกร่างกฎหมายฉบับนี้ได้พิจารณาทุกด้าน ไม่มีกฎหมายฉบับไหนที่เคยกำหนดให้ชาวมาอยู่ในคณะกรรมการชุดใหญ่ถึงห้าคน เพราะเราต้องการให้ชาวนาไปออกนโยบายของเขาเอง
“เราไม่ต้องการเห็นความขัดแย้งในบ้านเมืองอีกแล้ว ถ้าไปดูในร่างกฎหมายจะเห็นว่าไม่มีอย่างที่พวกเขาเอาไปพูดในเวทีหาเสียง พวกเราสนช.มีหน้าที่ร่างกฎหมาย ไม่มีใครโง่ไปทำร้ายชาวนาอย่างแน่นอน ซึ่งตอนนี้เราเห็นแล้วว่าการเมืองเอาไปพูด ซึ่งเป็นเรื่องไม่จริง เช่น การเอาไปพูดชาวนาจะติดคุกเพราะเก็บเมล็ดพันธุ์ข้าว ทั้งๆที่ร่างกฎหมายไม่มีโทษกับชาวนาเลย มีแต่จะส่งเสริมเท่านั้น” นายกิตติศักดิ์ กล่าว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ก่อนหน้านี้มีรายงานออกมาว่าพล.อ.ประยุทธ์ สั่งให้ชะลอการพิจารณาร่างกฎหมายดังกล่าวออกไปก่อน นายกิตติศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องนี้นายกฯไม่ได้เข้ามาเกี่ยวข้อง สนช.มีหน้าที่ดูแลความสงบเพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้งในระหว่างการเลือกตั้ง
“ใครจะมาคัดค้านหรือเห็นด้วย ผมก็เข้าใจ แต่เวลานี้การเมืองเอาประเด็นนี้ไปโจมตีกันแล้วว่าถ้ากฎหมายจะเกิดผลอะไรตามมา ซึ่งผมเห็นว่าจะเป็นเรื่องบานปลาย แต่เชื่อว่าของดีย่อมเป็นของดี ถ้ารัฐบาลหน้าเข้ามาเห็นว่าดีก็น่าจะนำมาพิจารณาต่อ” นายกิตติศักดิ์ กล่าว
นายกิตติศักดิ์ กล่าวอีกว่า ในคณะกรรมาธิการวิสามัญประกอบด้วยหลายภาคส่วน และฝ่ายไหนที่เสนอให้มีการปรับปรุง คณะกรรมาธิการวิสามัญก็ดำเนินการแก้ไขให้ จนกระทั่งทุกฝ่ายเห็นว่ามีส่วนดีมากกว่าส่วนเสีย ที่ผ่านมาไม่เคยพูดว่าร่างกฎหมายข้าวจะดี100 % แต่ถ้าไม่มีความขัดแย้ง และกฎหมายฉบับนี้ผ่านไป รัฐบาลใหม่เข้ามาก็สามารถแก้ไขได้ อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ช้าไปแล้ว เพราะเราต้องการเห็นบ้านเมืองสงบสุข
“ขอฝากทุกคนว่าให้ไปดูร่างกฎหมายฉบับนี้จริงๆ แล้วจะวิจารณ์ ก็สามารถทำได้เต็มที่ว่ามีโทษกับชาวนาตามที่เป็นข่าวหรือไม่ และสักวันหนึ่งอาจจะคิดถึงกิตติศักดิ์ก็ได้” นายกิตติศักดิ์ กล่าว
