รองโฆษกอัยการชี้ แก๊งงานบวชวัดสิงห์ อ่วม เจอข้อหาเพียบ

รองโฆษกอัยการชี้ แก๊งงานบวชวัดสิงห์ อ่วม เจอข้อหาเพียบ

วันนี้ (26 ก.พ. 62) หลังเกิดเหตุการณ์กลุ่มที่บุกไปทำร้ายครู นักเรียนโรงเรียนวัดสิงห์ ย่านบางขุนเทียน ที่กำลังสอบ GAT-PAT เมื่อวันอาทิตย์ที่ 24 ก.พ. ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่สังคมส่วนใหญ่รับไม่ได้และให้ความสนใจอย่างยิ่งต่อการดำเนินคดี นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงฐานความผิดของกลุ่มชายฉกรรจ์ที่อาจโดยดำเนินคดีทั้งหมดหลายข้อหาดังนี้

คดีงานบวชวัดสิงห์เห็นภาพข่าวแล้วหลายคนถามมาว่าน่าจะเป็นความผิดฐานใดได้บ้างแค่คิดจากภาพที่ปรากฏตามข่าวข้อกล่าวหาก็เต็มไปหมดรอการสอบสวนให้เสร็จอาจจะมีข้อหาอื่นเพิ่มเติม

“….ครูเป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมายทำร้ายครูขณะปฏิบัติหน้าที่ก็คือทำร้ายเจ้าพนักงานในขณะปฏิบัติหน้าที่ ดื่มเหล้างานบวชในวัด…ยกพวกไปทำร้ายครูขณะปฏิบัติหน้าที่ในโรงเรียน…หอมแก้มกระทำอนาจารนักเรียนหญิง…และทำลายทรัพย์สินของโรงเรียน…”

มาตรา360ผู้ใดทำให้เสียหายทำลายทำให้เสื่อมค่าหรือทำให้ไร้ประโยชน์ซึ่งทรัพย์ที่ใช้หรือมีไว้เพื่อสาธารณประโยชน์ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปีหรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ(ทำให้เสียทรัพย์ของทางราชการ)

มาตรา362ผู้ใดเข้าไปในอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่นเพื่อถือการครอบครองอสังหาริมทรัพย์นั้นทั้งหมดหรือแต่บางส่วนหรือเข้าไปกระทำการใดๆอันเป็นการรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของเขาโดยปกติสุขต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปีหรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ(บุกรุก)

มาตรา 278 ผู้ใดกระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่าสิบห้าปีโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆโดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยบุคคลนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้หรือโดยทำให้บุคคลนั้นเข้าใจผิดว่าตนเป็นบุคคลอื่นต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสิบปีหรือปรับไม่เกินสองแสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ(กระทำอนาจาร)

มาตรา295ผู้ใดทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจของผู้อื่นนั้นผู้นั้นกระทำความผิดฐานทำร้ายร่างกายต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปีหรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ(ทำร้ายร่างกายผู้อื่น)

มาตรา296ผู้ใดกระทำความผิดฐานทำร้ายร่างกายถ้าความผิดนั้นมีลักษณะประการหนึ่งประการใดดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา289ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปีหรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ(ทำร้ายร่างกายผู้อื่นที่มีเหตุฉกรรจ์เช่นทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงาน)
มาตรา210ผู้ใดสมคบกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดอย่างหนึ่งอย่างใดตามที่บัญญัติไว้ในภาค2นี้และความผิดนั้นมีกำหนดโทษจำคุกอย่างสูงตั้งแต่หนึ่งปีขึ้นไปผู้นั้นกระทำความผิดฐานเป็นซ่องโจรต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปีหรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ

พระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 มาตรา31ห้ามมิให้ผู้ใดบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในสถานที่หรือบริเวณดังต่อไปนี้ (1)วัดหรือสถานที่สำหรับปฏิบัติพิธีกรรมทางศาสนาเว้นแต่เป็นส่วนหนึ่งของพิธีกรรมทางศาสนามาตรา42 ผู้ใดฝ่าฝืน มาตรา31ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือนหรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

สำหรับข้อหาทำร้ายร่างกายขึ้นอยู่กับความบาดเจ็บถ้าอันตรายถึงสาหัสโทษก็สูงขึ้นไปอีก

ลำดับต่อไปพนักงานสอบสวนก็จะสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อพิสูจน์ว่าผู้ต้องหากระทำความผิดข้อหาใดบ้างแล้วทำสำนวนส่งอัยการพิจารณาดำเนินคดีต่อไป คิดคร่าว ๆในชั้นต้นนี้ผู้กระทำความผิดจนถึงญาติพี่น้องคงอยากย้อนเวลากลับไปและไม่อยากกระทำความผิดกันเป็นแน่อัตราโทษแต่ละข้อหาหนักพอควรแล้วมีสติอย่าทำผิดกฎหมายกันเลยติดคุกทุกข์หนักนะครับเสียอนาคตเสียโอกาสที่ดีในชีวิต

ขอให้เป็นคดีตัวอย่างมีสติไม่ใหญ่โตไม่กร่างไม่เมาไม่หาเรื่องผู้อื่นใช้ชีวิตให้มีความสุขไม่นำความทุกข์ไปให้ครอบครัวกันนะครับช่วยกันสร้างค่านิยมเคารพกฎหมายยุติความรุนแรงในสังคม