พาณิชย์ แนะใช้โดรน (Drone) สร้างโอกาสทำธุรกิจยุคใหม่ หลังจากยักษ์ใหญ่ เจดี กรุ๊ป อาลีบาบา เริ่มใช้ขนสินค้าข้ามมณฑล
นางสาวพิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า Drone หรือ อากาศยานไร้คนขับ เป็นโอกาสของธุรกิจยุคใหม่ ที่จะช่วยสนับสนุนธุรกิจได้หลายรูปแบบ อาทิ การถ่ายรูป วีดีทัศน์ ธุรกิจโลจิสติกส์ อาทิ การขนส่งสินค้า (เชื่อมโยงกับธุรกิจ E-Commerce) ธุรกิจเกษตร อาทิ การฉีดพ่นปุ๋ย ยากำจัดศัตรูพืช ซึ่งจะช่วยให้เกษตรกรหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสารเคมีและเพิ่มประสิทธิภาพการเพาะปลูกได้ รวมทั้ง ใช้ในการสำรวจเก็บข้อมูลเพื่อการพยากรณ์อากาศและสภาพดิน
อย่างไรก็ตาม การใช้ Drone ต้องมีมาตรการไม่ให้กระทบสิทธิส่วนบุคคลและการรักษาความปลอดภัย เนื่องจากเป็นอุปกรณ์ที่เข้าถึงพื้นที่ส่วนบุคคลได้ง่าย ดังนั้น ธุรกิจและผู้ใช้งานจึงต้องศึกษาและปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ประกาศกระทรวงคมนาคม เรื่องหลักเกณฑ์การอนุญาตและเงื่อนไข ในการบังคับหรือปล่อยอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน โดยสำนักงานการบิน พลเรือนแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นการลงทะเบียนผู้บังคับ Drone (ใบขับขี่) และประกาศ กสทช. (สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ) เรื่องหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่สำหรับอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน ซึ่งเป็นการลงทะเบียนเครื่อง Drone และขอใช้ความถี่ที่กำหนด (ใบทะเบียนพาหนะ) นอกจากนี้ การใช้ Drone ต้องขออนุญาตเจ้าของพื้นที่ก่อนใช้งานด้วย
ปัจจุบัน Drone ในโลกมีประมาณ 3 ล้านเครื่อง ร้อยละ 75 ผลิตที่ประเทศจีน คือ เมืองเสินเจิ้น ที่เป็นทั้งแหล่งผลิต การวิจัยพัฒนา การสัมมนาระดับโลก (ประชุม Drone โลก) ทั้งนี้ Drone ในโลกมีการวิจัยและพัฒนาโดยบริษัทยักษ์ใหญ่ของประเทศต่างๆ อาทิ Amazon ของอเมริกา Alibaba และ JD Group ของจีน จึงนับว่า Drone เป็นอีกหนึ่งแนวโน้มที่สำคัญระดับโลกของเทคโนโลยีและธุรกิจยุคใหม่
ตัวอย่างพัฒนาการของ Drone ระดับโลก อาทิ JD Group สามารถบรรทุกสินค้าหนักได้ถึง 30 กิโลกรัม บินได้ไกลถึง 100 กิโลเมตร รองรับการขนส่งสินค้าไปยังพื้นที่ห่างไกลและยากต่อการเข้าถึง
สำหรับ Alibaba อยู่ระหว่างศึกษาและทดลองผลิต Drone ให้บินได้ไกลถึง 1,500 กิโลเมตร เพื่อการขนส่งระยะไกลข้ามมณฑล นอกจากนี้ บริษัท DJI ประเทศจีน ซึ่งเป็นผู้ผลิต Drone ชั้นนำของโลก ได้นำเสนอรูปแบบการใช้ Drone กับการเกษตร โดยใช้พ่นสารเคมี สามารถบรรทุกของเหลวได้สูงสุด 10 กิโลกรัม ครอบคลุมพื้นที่ 3-4 ไร่ ใช้เวลาเพียง 10 นาที ประหยัดเวลาและแรงงานมนุษย์ถึง 40-60 เท่า บินได้นานเกือบครึ่งชั่วโมง (ขึ้นอยู่กับน้ำหนักบรรทุก) นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีสำรวจและคำนวณพื้นที่ สามารถวาดแผนที่ดิจิทัลของพื้นที่เกษตรได้อีกด้วย
“การนำโดรนมาใช้ จะเป็นโอกาสของนักธุรกิจไทย จึงอยากเชิญชวนให้มาศึกษาทดลองนำโดรนและเทคโนโลยียุคใหม่อื่นๆ โดยเฉพาะ ABCD ได้แก่ A (AI : Artificial Intelligence), B (Blockchain), C (Cloud), D (Big Data) มาประยุกต์ใช้กับธุรกิจยุคใหม่ เพิ่มความสามารถการแข่งขันของธุรกิจไทยให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจยุคใหม่” น.ส.พิมพ์ชนก กล่าวทิ้งท้าย