ค่าสมัคร 1 หมื่นบาทไม่ได้คืนนะ

ค่าสมัคร 1 หมื่นบาทไม่ได้คืนนะ


กกต. สรุป ไม่รับรองผู้สมัคร ส.ส.เขต 389 คน จาก 55 พรรคการเมือง “เพื่อนไทย” หนักสุด 153 คน “พปชร.-ภท.” โดนไปพรรคละ 2 คน “ทษช.-ปชป.” พรรคละ 1 คน

วันนี้ (19 ก.พ.) สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้รวบรวมผลการประกาศรับรองผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขตที่มีการส่งสมัครรับเลือกตั้งระหว่างวันที่ 4-8 ก.พ. จากพรรคการเมืองทั้งสิ้น 81 พรรค จำนวน 11,181 คน ซึ่งผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งทั้ง 350 เขต ได้ตรวจสอบคุณสมบัติ และประกาศรายชื่อแล้วนำไปปิดประกาศไว้ ณ ที่เลือกตั้ง หรือบริเวณใกล้เคียงกับที่เลือกตั้ง ตั้งแต่วันที่ 15 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยเป็นการประกาศรับรองรายชื่อผู้สมัครจำนวน10,792 คน ไม่ประกาศรายชื่อ จำนวน 389 คน ใน 55 พรรคการเมือง แยกเป็นผู้สมัครจากพรรคเพื่อนไทย 153 คน, มหาชน 20 คน, เศรษฐกิจใหม่ 16 คน,แทนคุณแผ่นดิน14 คน, ครูไทยเพื่อประชาชน 12 คน, ประชาชาติ 11 คน, เพื่อแผ่นดิน 10 คน, เพื่อชาติ 10 คน, พลังท้องถิ่นไท9 คน, ประชาชนปฏิรูป 8 คน, พลังปวงชนไทย 8 คน, พลังประชาธิปไตย 7 คน, ประชากรไทย 7 คน

เสรีรวมไทย 6 คน, รักษ์ผืนป่าประเทศไทย 6 คน, รวมพลังประชาชาติไทย 6 คน, พลังชาติไทย 5 คน, ประชาภิวัฒน์ 5 คน, ประชาไทย 5 คน, พลเมืองไทย 4 คน, ประชาธรรมไทย 4 คน, พลังไทยสร้างชาติ 4 คน, ชาติพัฒนา 4 คน, ไทยรักธรรม 4 คน, พลังไทยรักไทย 4 คน, ไทยศรีวิไลย์ 3 คน, พลังแรงงานไทย 3 คน, ผึ้งหลวง 3 คน, พลังสังคม 3 คน, พรรคกลาง 2 คน, สยามพัฒนา 2 คน, ประชาธิปไตยใหม่ 2 คน, ภูมิใจไทย 2 คน, ความหวังใหม่ 2 คน, พลังประชารัฐ 2 คน, พลังธรรมใหม่ 2 คน, อนาคตใหม่ 2 คน, คนงานไทย 2 คน

ประชานิยม 1 คน, ถิ่นกาขาวชาววิไล 1 คน, สังคมประชาธิปไตยไทย 1 คน, พลังครูไทย 1 คน, เพื่อธรรม 1 คน, เพื่อคนไทย 1 คน, ไทยรักษาชาติ 1 คน, ประชาธิปัตย์ 1 คน, พลังไทยรักชาติ 1 คน, รักท้องถิ่นไทย 1 คน, พลังคนกีฬา 1 คน, พลังรัก 1 คน, ภราดรภาพ 1 คน, แผ่นดินธรรม 1 คน, ภูมิพลังเกษตรกรไทย 1 คน, ภาคีเครือข่ายไทย 1 คน, พลังศรัทธา 1 คน

ส่วนการประกาศรับรองรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อที่ 77 พรรคการเมืองส่งสมัคร จำนวน 2,917 คน โดย กกต.ประกาศรับรอง 2,810 คน โดยไม่รับรอง 107 คน ประกอบด้วย พรรคกรีน 3 คน ครูไทยเพื่อประชาชน 5 คน ชาติไทยพัฒนา 1 คน แทนคุณแผ่นดิน 4 คน ไทยธรรม 1 คน ไทรักธรรม 1 คน ประชากรไทย 3 คน ประชาชนปฏิรูป 2 คน ประชาชาติ 2 คน ประชาไทย 1 คน ประชาธรรมไทย 5 คน ประชานิยม 1 คน ประชาภิวัฒน์ 5 คน ผึ้งหลวง 8 คน พลังชาติไทย 1 คน พลังท้องถิ่นไท 5 คน พลังไทยรักไทย 2 คน พลังธรรมใหม่ 1 คน พลังประชาธิปไตย 2 คน พลังปวงชนไทย 3 คน พลังสังคม 1 คน เพื่อชาติ 7 คน เพื่อแผ่นดิน 1 คน ภูมิใจไทย 6 คน มหาชน 3 คน รวมพลังประชาชาติไทย 10 คน เศรษฐกิจใหม่ 9 คน สังคมประชาธิปไตยไทย 1 คน เสรีรวมไทย 2 คน อนาคตใหม่ 3 คน

ทั้งนี้ ผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขตและแบบบัญชีรายชื่อ ที่ถูกสำนักงาน กกต.ตัดสิทธิสมัคร สามารถยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาภายในเวลา 7 วันนับจากวันประกาศ (15 ก.พ.) เพื่อขอให้วินิจฉัยสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ตามมาตรา 49 และมาตรา 59 ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.

อย่างไรก็ตาม ก่อนวันที่ 15 ก.พ.ซึ่งเป็นวันสุดท้ายที่ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำเขตจะประกาศรับรองรายชื่อผู้สมัคร สำนักงาน กกต.ได้มีหนังสือด่วนที่สุด แจ้งไปถึงผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดทั่วประเทศว่าในกรณีที่ไม่ปรากฏชื่อผู้สมัครในระบบฐานข้อมูลสมาชิกพรรคที่สำนักงานกกตใส่งรายชื่อไปจำนวน 255 คนให้ผู้อำนวยการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งใช้ดุลยพินิจพิจารณาจากหลักฐาน3รายการที่ผู้สมัครนำมายื่นประกอบการสมัคร คือสำเนาใบสมัครเป็นสมาชิกพรรค สำเนาหลักฐานการชำระเงินค่าบำรุงพรรค สำเนาหลักฐานการลาออกจากสมาชิกพรรค การเมืองเดิม หากมีให้พิจารณารับสมัคร ทำให้ยอดผู้สมัครในส่วนนี้ไม่ถูกตัดสิทธิและได้รับการประกาศชื่อให้เป็นผู้สมัคร ดังนั้น ผู้สมัครที่ถูกตัดสิทธิไม่ได้รับการประกาศรายชื่อทั้ง 389คนส่วนใหญ่จึงเป็นกรณีการเป็นสมาชิกซ้ำซ้อน สังกัดพรรคไม่ครบ 90 วัน พรรคไม่มีการตั้งสาขาหรือตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัดในจังหวัดนั้นๆ และเข้าลักษณะต้องห้ามในการสมัครกรณีอื่น

รายงานข่าวเผยด้วยว่า ในกรุ๊ปไลน์ที่สำนักงานกกต.ตั้งขึ้นเพื่อไว้ติดต่อกับพรรคการเมือง ตัวแทนพรรคการเมืองได้สอบถามขอความชัดเจนว่า กรณีผู้สมัครไม่ได้รับการประกาศชื่อ กกต.จะคืนค่าสมัคร 1 หมื่นบาทให้หรือไม่ รวมทั้งหากที่สุดศาลฎีกามีคำพิพากษายืนตามที่ กกต.ไม่ประกาศชื่อให้เป็นผู้สมัคร กกต.จะดำเนินคดีต่อผู้สมัครและหัวหน้าพรรค ตามมาตรา 151 พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ที่ระบุว่าผู้ใดรู้อยู่แล้วว่าตนไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง เนื่องจากขาดคุณสมบัติ หรือมีลักษณะต้องห้าม มิให้ใช้สิทธิสมัคร หรือทำหนังสือยินยอมให้พรรคการเมืองเสนอรายชื่อเพื่อสมัครรับเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000-200,000 บาท และให้ศFB : ค่าสมัคร 1 หมื่นบาทไม่ได้คืนนะ
ภาพ: เพื่อนไทยเจอตัดสิทธิสมัครส.ส. 153 คน
กกต.สรุป ไม่รับรองผู้สมัคร ส.ส. 389 คน เพื่อนไทยหนักสุด 153 คน

กกต. สรุป ไม่รับรองผู้สมัคร ส.ส.เขต 389 คน จาก 55 พรรคการเมือง “เพื่อนไทย” หนักสุด 153 คน “พปชร.-ภท.” โดนไปพรรคละ 2 คน “ทษช.-ปชป.” พรรคละ 1 คน

วันนี้ (19 ก.พ.) สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้รวบรวมผลการประกาศรับรองผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขตที่มีการส่งสมัครรับเลือกตั้งระหว่างวันที่ 4-8 ก.พ. จากพรรคการเมืองทั้งสิ้น 81 พรรค จำนวน 11,181 คน ซึ่งผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งทั้ง 350 เขต ได้ตรวจสอบคุณสมบัติ และประกาศรายชื่อแล้วนำไปปิดประกาศไว้ ณ ที่เลือกตั้ง หรือบริเวณใกล้เคียงกับที่เลือกตั้ง ตั้งแต่วันที่ 15 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยเป็นการประกาศรับรองรายชื่อผู้สมัครจำนวน10,792 คน ไม่ประกาศรายชื่อ จำนวน 389 คน ใน 55 พรรคการเมือง แยกเป็นผู้สมัครจากพรรคเพื่อนไทย 153 คน, มหาชน 20 คน, เศรษฐกิจใหม่ 16 คน,แทนคุณแผ่นดิน14 คน, ครูไทยเพื่อประชาชน 12 คน, ประชาชาติ 11 คน, เพื่อแผ่นดิน 10 คน, เพื่อชาติ 10 คน, พลังท้องถิ่นไท9 คน, ประชาชนปฏิรูป 8 คน, พลังปวงชนไทย 8 คน, พลังประชาธิปไตย 7 คน, ประชากรไทย 7 คน

เสรีรวมไทย 6 คน, รักษ์ผืนป่าประเทศไทย 6 คน, รวมพลังประชาชาติไทย 6 คน, พลังชาติไทย 5 คน, ประชาภิวัฒน์ 5 คน, ประชาไทย 5 คน, พลเมืองไทย 4 คน, ประชาธรรมไทย 4 คน, พลังไทยสร้างชาติ 4 คน, ชาติพัฒนา 4 คน, ไทยรักธรรม 4 คน, พลังไทยรักไทย 4 คน, ไทยศรีวิไลย์ 3 คน, พลังแรงงานไทย 3 คน, ผึ้งหลวง 3 คน, พลังสังคม 3 คน, พรรคกลาง 2 คน, สยามพัฒนา 2 คน, ประชาธิปไตยใหม่ 2 คน, ภูมิใจไทย 2 คน, ความหวังใหม่ 2 คน, พลังประชารัฐ 2 คน, พลังธรรมใหม่ 2 คน, อนาคตใหม่ 2 คน, คนงานไทย 2 คน

ประชานิยม 1 คน, ถิ่นกาขาวชาววิไล 1 คน, สังคมประชาธิปไตยไทย 1 คน, พลังครูไทย 1 คน, เพื่อธรรม 1 คน, เพื่อคนไทย 1 คน, ไทยรักษาชาติ 1 คน, ประชาธิปัตย์ 1 คน, พลังไทยรักชาติ 1 คน, รักท้องถิ่นไทย 1 คน, พลังคนกีฬา 1 คน, พลังรัก 1 คน, ภราดรภาพ 1 คน, แผ่นดินธรรม 1 คน, ภูมิพลังเกษตรกรไทย 1 คน, ภาคีเครือข่ายไทย 1 คน, พลังศรัทธา 1 คน

ส่วนการประกาศรับรองรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อที่ 77 พรรคการเมืองส่งสมัคร จำนวน 2,917 คน โดย กกต.ประกาศรับรอง 2,810 คน โดยไม่รับรอง 107 คน ประกอบด้วย พรรคกรีน 3 คน ครูไทยเพื่อประชาชน 5 คน ชาติไทยพัฒนา 1 คน แทนคุณแผ่นดิน 4 คน ไทยธรรม 1 คน ไทรักธรรม 1 คน ประชากรไทย 3 คน ประชาชนปฏิรูป 2 คน ประชาชาติ 2 คน ประชาไทย 1 คน ประชาธรรมไทย 5 คน ประชานิยม 1 คน ประชาภิวัฒน์ 5 คน ผึ้งหลวง 8 คน พลังชาติไทย 1 คน พลังท้องถิ่นไท 5 คน พลังไทยรักไทย 2 คน พลังธรรมใหม่ 1 คน พลังประชาธิปไตย 2 คน พลังปวงชนไทย 3 คน พลังสังคม 1 คน เพื่อชาติ 7 คน เพื่อแผ่นดิน 1 คน ภูมิใจไทย 6 คน มหาชน 3 คน รวมพลังประชาชาติไทย 10 คน เศรษฐกิจใหม่ 9 คน สังคมประชาธิปไตยไทย 1 คน เสรีรวมไทย 2 คน อนาคตใหม่ 3 คน

ทั้งนี้ ผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขตและแบบบัญชีรายชื่อ ที่ถูกสำนักงาน กกต.ตัดสิทธิสมัคร สามารถยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาภายในเวลา 7 วันนับจากวันประกาศ (15 ก.พ.) เพื่อขอให้วินิจฉัยสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ตามมาตรา 49 และมาตรา 59 ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.

อย่างไรก็ตาม ก่อนวันที่ 15 ก.พ.ซึ่งเป็นวันสุดท้ายที่ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำเขตจะประกาศรับรองรายชื่อผู้สมัคร สำนักงาน กกต.ได้มีหนังสือด่วนที่สุด แจ้งไปถึงผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดทั่วประเทศว่าในกรณีที่ไม่ปรากฏชื่อผู้สมัครในระบบฐานข้อมูลสมาชิกพรรคที่สำนักงานกกตใส่งรายชื่อไปจำนวน 255 คนให้ผู้อำนวยการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งใช้ดุลยพินิจพิจารณาจากหลักฐาน3รายการที่ผู้สมัครนำมายื่นประกอบการสมัคร คือสำเนาใบสมัครเป็นสมาชิกพรรค สำเนาหลักฐานการชำระเงินค่าบำรุงพรรค สำเนาหลักฐานการลาออกจากสมาชิกพรรค การเมืองเดิม หากมีให้พิจารณารับสมัคร ทำให้ยอดผู้สมัครในส่วนนี้ไม่ถูกตัดสิทธิและได้รับการประกาศชื่อให้เป็นผู้สมัคร ดังนั้น ผู้สมัครที่ถูกตัดสิทธิไม่ได้รับการประกาศรายชื่อทั้ง 389คนส่วนใหญ่จึงเป็นกรณีการเป็นสมาชิกซ้ำซ้อน สังกัดพรรคไม่ครบ 90 วัน พรรคไม่มีการตั้งสาขาหรือตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัดในจังหวัดนั้นๆ และเข้าลักษณะต้องห้ามในการสมัครกรณีอื่น

รายงานข่าวเผยด้วยว่า ในกรุ๊ปไลน์ที่สำนักงานกกต.ตั้งขึ้นเพื่อไว้ติดต่อกับพรรคการเมือง ตัวแทนพรรคการเมืองได้สอบถามขอความชัดเจนว่า กรณีผู้สมัครไม่ได้รับการประกาศชื่อ กกต.จะคืนค่าสมัคร 1 หมื่นบาทให้หรือไม่ รวมทั้งหากที่สุดศาลฎีกามีคำพิพากษายืนตามที่ กกต.ไม่ประกาศชื่อให้เป็นผู้สมัคร กกต.จะดำเนินคดีต่อผู้สมัครและหัวหน้าพรรค ตามมาตรา 151 พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ที่ระบุว่าผู้ใดรู้อยู่แล้วว่าตนไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง เนื่องจากขาดคุณสมบัติ หรือมีลักษณะต้องห้าม มิให้ใช้สิทธิสมัคร หรือทำหนังสือยินยอมให้พรรคการเมืองเสนอรายชื่อเพื่อสมัครรับเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000-200,000 บาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนด 20 ปีหรือไม่ และมีวิธีการไหนที่ กกต.จะไม่ดำเนินการเอาผิดเนื่องจากบทลงโทษตามมาตรานี้รุนแรงมาก ซึ่งเจ้าหน้าที่ชี้แจงเพียงประเด็นค่าสมัครจะไม่ได้รับคืนตามกฎหมายเท่านั้น

าลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนด 20 ปีหรือไม่ และมีวิธีการไหนที่ กกต.จะไม่ดำเนินการเอาผิดเนื่องจากบทลงโทษตามมาตรานี้รุนแรงมาก ซึ่งเจ้าหน้าที่ชี้แจงเพียงประเด็นค่าสมัครจะไม่ได้รับคืนตามกฎหมายเท่านั้น