นางจูเลีย มอร์ลีย์ ประธานและซีอีโอมิสเวิลด์ออร์แกไนเซชั่น ได้เดินทางมาประเทศไทย เพื่อจัดงานแถลงข่าวขึ้นที่พระราชวังพญาไท กรุงเทพฯ โดยเป็นการประกาศอย่างเป็นทางการว่า การประกวดมิสเวิลด์ครั้งที่ 69 รอบสุดท้าย จะจัดขึ้นที่ประเทศไทย ซึ่งเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของการประกวดมิสเวิลด์ ที่จะยกเทศกาลและกิจกรรมต่างๆ มาจัดขึ้นในประเทศไทย ช่วงเดือนพฤศจิกายนและธันวาคมนี้ โดยจูเลีย เผยว่า ด้วยวัฒนธรรมที่ทรงคุณค่าและความเป็นมิตรของคนไทย จึงเหมาะสมอย่างยิ่งที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพต้อนรับและดูแลตัวแทนสาวงามผู้ประกวดมิสเวิลด์จาก 130 ประเทศในปี 2019 นี้ โดย จูเลีย ร่วมแถลงกับ นายธนวัฒน์ วันสม ประธานกรรมการผู้บริหาร บริษัท ทีดับเบิลยู เพเจ้นส์ จำกัด พันธมิตรผู้จัดงานมิสเวิลด์ 2019 รอบชิงชนะเลิศในประเทศไทย มิสเวิลด์คนปัจจุบัน วาเนซา ปอนเซ เด เลออน และราชินีความงามประจำภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก จากการแข่งขันมิสเวิลด์ 2018 ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ นิโคลีน พิชาภา ลิมศนุกาญจน์ สาวงามตัวแทนของประเทศไทย เจ้าของตำแหน่งรองอันดัน 1 มิสเวิลด์ 2018 และ มิสเวิลด์เอเชีย
มิสเวิลด์ เป็นการประกวดนางงามระดับนานาชาติ ที่จัดมาอย่างต่อเนื่องยาวนานที่สุดในโลก นับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1951 หรือ พ.ศ. 2494 และมีความแตกต่างจากเวทีประกวดนางงามอื่นๆ เพราะเป็นเวทีที่สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนทั่วโลก และเปิดโอกาสให้หญิงสาวได้มาร่วมกันสร้างความตระหนักด้านมนุษยธรรม และระดมทุนเพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ ผ่านโครงการ Beauty With A Purpose หรืองามอย่างมีคุณค่า ซึ่งทุกปี เวทีมิสเวิลด์สามารถระดมทุนได้หลายร้อยล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อนำไปมอบให้การกุศล โดยการประกวดจะมีการถ่ายทอดสดไปยังกว่า 100 ประเทศทั่วโลก
