วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2562 – หลังจากที่พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ตอบคำถามผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับประเด็นการหาเสียงเลือกตั้งในขณะนี้ และยังมีประเด็นที่พรรคเพื่อไทย ปราศรัยโดยคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย ระบุว่า จะตัดงบประมาณ 10% พร้อมกับยกเลิกการเกณฑ์ทหาร โดยพล.อ.อภิรัชต์ ตอบว่า “ก็ให้ไปฟังเพลงหนักแผ่นดินไง” ล่าสุดก็มีความเคลื่อนไหวจากพรรคเพื่อไทยแล้ว โดยนายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย ทวิตข้อความผ่านทวิเตอร์ส่วนตัว ระบุว่า ไม่ใช่แค่ตัดงบ 10% เท่านั้น แต่ยังต้องลดขนาดกองทัพ ลดจำนวนนายพลที่มากเกินภารกิจ เอากองทัพออกไปจากการเมือง เพิ่มประสิทธิภาพกองทัพและทำงานตรงตามภารกิจ ที่สำคัญต้องเคารพสิทธิและเสรีภาพของประชาชน ผู้นำกองทัพจะต้องฉลาดและไม่เป็นภัยคุกคามต่อระบอบประชาธิปไตยเสียเอง
ขณะที่นางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พล.อ.อภิรัชต์ สามารถแสดงทัศนะได้ตามสิทธิ์ของคนไทย แต่ต้องเข้าใจว่าประชาธิปไตยเป็นเรื่องของคนไทยทุกคน และต้องตระหนักต่อภาระหน้าที่ของกองทัพภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง จึงไม่ควรนำกำลังพลและทรัพยากรของกองทัพเข้ามาเกี่ยวข้องทางการเมือง
“คุณหญิงสุดารัตน์ แสดงความคิดเห็นที่เป็นการสะท้อนถึงปัญหา และความเดือดร้อนของประชาชน จึงเสนอทางออกประเทศตามบทบาทของนักการเมืองในระบอบประชาธิปไตย และหากพล.อ.อภิรัชต์มีแนวคิดที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมก็เสนอออกมาได้ เพื่อนำมาปรับใช้ให้สังคมได้รับประโยชน์ร่วมกัน” นางลดาวัลลิ์ กล่าว
ด้าน ร.ท.หญิง สุณสา ทิวากรดำรง รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า สิ่งที่พล.อ.อภิรัชต์ พูดออกมาย่อมบ่งบอกได้ว่าพล.อ.อภิรัชต์ไม่รู้ตัวเลยว่าประชาชนไม่พอใจมานานแล้ว โดยเฉพาะกับการที่ต้องมาเห็นกองทัพทุ่มงบประมาณในการซื้ออาวุธที่ไม่มีความจำเป็นด้านยุทธศาสตร์ เช่น การซื้อเรือดำน้ำ เป็นต้น อีกทั้งยังเป็นการสร้างหนี้ให้กับประเทศโดยไม่จำเป็น
นอกจากนี้ แนวคิดปฏิรูปกองทัพของพรรคเพื่อไทย ไม่ได้เกิดจากการนั่งเทียนเขียนขึ้นมาเอง แต่รวบรวมมาจากความคิดเห็นส่วนใหญ่ของคนไทยทั้งประเทศ อย่างไรก็ตาม กองทัพยังมีความจำเป็นต่อประเทศชาติ แต่ต้องปรับวิธีการใหม่ ทั้งการเกณฑ์ทหารจากบังคับ เปลี่ยนมาเป็สมัครใจ และปรับลดจำนวนลง อีกทั้ง ยังมีทหารเกณฑ์จำนวนมากออกมาฟ้องสังคมว่า ชีวิตในค่ายทหารไม่ได้สวยงามเหมือนข่าวพีอาร์ เพราะถูกใช้เป็นแรงงานทาสและโดนบังคับให้เลี้ยงไก่เลี้ยงสุนัขซักชุดชั้นในให้ผู้บังคับบัญชาและลูกเมีย ไม่ได้ทำหน้าที่เป็นรั้วของชาติอย่างที่ตั้งใจ
“คนไทยอยากให้เอางบประมาณไปใช้พัฒนาด้านอื่นๆ ที่จำเป็น เช่น ซื้อเครื่องมือทางการแพทย์ สร้างโรงพยาบาลในพื้นที่ห่างไกล หรือนำมาใช้ลงทุนด้านการศึกษา ไม่ใช่เอามาซื้ออาวุธ” รองโฆษกเพื่อไทย กล่าว
รองโฆษกเพื่อไทย กล่าวอีกว่า กองทัพมีปัญหามากมายที่รอให้พล.อ.อภิรัชต์ ต้องเข้าไปแก้ไข ดังนั้น ก็ไม่ควรเอาเวลามาแทรกแซงทางการเมือง หรือชี้นำลูกน้องว่าต้องเลือกใครเป็นนายกฯ แม้รู้ดีว่า ทหารส่วนใหญ่เป็นคนดีและเสียสละเพื่อชาติ แต่ประชาชนอยากเห็นทหารเดินกลับเข้ากรมกองแล้วทำหน้าที่ ไม่ใช่ออกมาทำงานแบบทหารธุรกิจ หรือทหารนักการเมือง หากเป็นเช่นนั้นก็ควรถอดเครื่องแบบแล้วมาแข่งขันกัน อย่าดึงกองทัพมาเป็นเครื่องมือ