การปราศรัยใหญ่ของพรรคเพื่อไทยในรอบ 5 ปี เมื่อย่ำค่ำวันที่ 15 ก.พ. ที่ผ่านมา เรียกได้ว่า ขุนพลเพื่อไทย ดาหน้าใส่ฟากรัฐบาลและพรรคการเมืองที่หนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ อย่างถึงพริกถึงขิง ด้วยประเด็นการบริหารราชการแผ่นดิน ปัญหาเศรษฐกิจ ภาคการเกษตร การท่องเที่ยว รวมทั้งการรับเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีในการเลือกตั้งครั้งนี้ รวมถึงการตั้งสมาชิกวุฒิสภาตุนเสียง 250 คน
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย ได้ขึ้นปราศรัยเป็นคนสุดท้าย เปิดประเด็นด้วยคำหวานคิดถึงบรรยากาศการเมืองและประชาชนหลังต้องรอมา 14 ปี นับจากปี 2548 สมัยสังกัดพรรคไทยรักไทย จึงมีความคิดถึงกันอย่างมาก
คุณหญิงสุดารัตน์ เริ่มต้นกล่าวปราศรัยว่า 2 เดือนที่ผ่านมา ตนได้เดินทางไปทั่วประเทศ ทุกภาค ได้ไปพบพี่น้องประชาชนจำนวนมาก และเหมือนกันพี่น้องต่างบ่นกันว่า เศรษบกิจแย่ค้าขายไม่ได้ เป็นหนี้เป็นสินท่วมตัว วันนี้ เปิดปราศรัยในกรุงเทพฯครั้งแรก อยากจะถามว่า 4-5 ปีมานี้ พี่น้องมีความสุข กระเป๋าตุงหรือกระเป๋าแฟ่บ
‘พี่น้องคะ นี่ล่ะค่ะ คือความเจ็บปวดของพวกเราคนทำงานพรรคเพื่อไทย ประชาชนถูกยึดอำนาจไป ด้วยเหตุผลสารพัด แล้วก็สัยญาว่าจะคือความสุขให้กับเรา แล้วก็มาหาเราทุกคืนวันศุกร์จริงๆ แล้วเราสุขไหมคะ แล้วเขายังสัญญาว่า เขาจะใช้เวลาไม่นาน ตอนนี้ก็ปาเข้าไปจะ 5 ปีแล้ว สงสัยว่านาฬิกาที่ยืมเพื่อนมา มันจะเดินไม่ตรงคะ’
ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้ง กล่าวอย่างต่อเนื่องว่า จากการเดินทางทั่วประเทศและการเดินขึ้นเวที พี่น้องได้สะท้อนถึงความทุกข์ ถึงแม้ว่าเราจะยิ้มเพราะเรามาเจอกัน หลายท่านยิ้มเพราะมีความหวังว่าจะเลือกตั้ง แต่ข้างในของทุกคน ตนรู้ว่าอ่อนแรง อ่อนล้า หมดกำลังลงทุกวัน จากสภาพเศรษฐกิจช่วงที่ผ่านมา และคือเหตุผลที่เรา พรรคเพื่อไทยต้องอาสากลับมาพลิกฟื้นเศรษฐกิจให้สำเร็ตจ กลับมาเพิ่มพลังให้พี่น้องให้ได้
‘เราจะเร่งสร้างรายได้เพื่อเพิ่มพลัง เช่นกันเราไม่อยากแจกบัตรคนจน แต่เราอยากแจกบัตรคนรวย เราจะปรับโครงสร้างหนี้ครั้งใหญ่ ให้คนตัวเล็กตัวน้อย ให้กับธุรกิจขนาดกลาง ขนาดเล็ก เพื่ออะไร เพื่อให้ยืนอยู่ได้ เพราะในขณะนี้เราหมดแรงแล้ว เหมือนอยู่ในห้องไอซียู ต้องเติมน้เกลืให้ เพื่อให้คนไทยคนตัวเล็ก นักธุรกิจนาดกลาง ขนาดเล็ก ยืนให้ได้ ต้องยืนให้ได้ก่อน เพราะอีกไม่นานนี้ เราจะต้องพบกับซึนามิลูกใหญ่ จากสภาพวะเศรษฐกิจของโลกค่ะ เศรษฐกิจโลกจะแย่มากในอนาคตอันใกล้นี้ เราต้องปรับตัวก่อนเจ๊ง เราต้องรอดก่อนตาย เราจะเตรียมความพร้อมให้คนไทย ยืนบนขาตัวเองได้ เพื่อให้อยู่รอดในวิกฤตเศรษฐกิจที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตนี้ ’
ต่อมาได้พูดถึงการเติมเงินทุน คุณสุดารัตน์กล่าวว่า เราจะเร่งเติมเงินทุนให้พี่น้อง เพราะเชื่อว่าทุกคนมีความขยัน อยากทำงาน ทุกคนไม่อยากเป็นคนจน อยากมีอาชีพขายของได้ ไม่ขาดทุน ไม่มีใครอยากเป็นคนจน ต้องไปรับบัตรคนจนตลอดชีวิต
‘เราจะเติมเงินทุน ให้ผุ้ประกอบการรายใหม่ ผู้ประกอบการรายเก่า หรือแม้แต่คนรุ่นใหม่ เราจะต้องขยายแหล่งทุนที่เข้าถึงได้จริง และรวดเร็ว ด้วยการให้มีบริษัทไฟแนนซ์หรือธนาคารพัฒนารายได้ทุกจังหวัด เพื่อให้คนตัวเล็กมีแหล่งเงินทุน พี่น้องวันนี้ไม่รู้จะไปแหล่งเงินทุนไหน เวลที่เราจะทำมาหากิน เราจะไปธนาคาร ปัจจุบันนี้ธนาคารก็ปล่อยกู้แต่รายใหญ่ จนทำให้เงินสำรองของประเทสสูงถึง 3ล้านล้านบาท คนรวยจะกู้เงินพันล้าน ไม่ยาก แต่คนจนจะกู้สักหนึ่งแสนบาท ไม่มีทางไป วันนี้ เราต้องเพิ่มแหล่งเงินทุน พัฒนาธนาคาร พัฒนารายได้ ในแต่ละจังหวัดต้องเกิดขึ้น เพื่อให้พี่น้องมีรแหล่งเงินทุนที่จะทำมาหากิน ทั้งโอทอป ทั้งเอสเอ็มอี ทั้งค้าขายตึกแถว แม้แต่แผงลอย ต้องแปลงเป็นทุนได้ทั้งสิ้น’
มาตราการต่อมาคือ ต้องขายของได้ คุณสุดารัตน์ กล่าวต่อไปว่า พี่น้องต้องมีที่ขาย ไม่ใช่ว่าขายริมฟุตบาท จัดระเบียบนั้นดี แต่ไม่ใช่จัดระเบียบจนไม่มีที่ขาย มันต้องจัดแบบชายฉลาดและต้องมีที่ขาย และอีกระดับที่ใหญ่กว่านั้น เราจะนำสินค้าไทยไปบุกตลาดโลก เราจะเอาโลกทั้งโลกเป็นตลาดขายสินค้าไทยให้สำเร็จ
‘ในอดีตเราทำมาแล้ว และเราจะทำให้สำเร็จต่อไป ทำไมเราจะต้องผลิตของเพื่อแค่ขายในประเทศไทย 67 ล้านคน เอาประเทศรอบๆก็ได้อีกเกือบ 200 ล้านคน ในอาเซียนขายเพิ่มได้อีก 600 ล้านคน แต่แค่นี้ไม่พอ เราจะเอาโลกทั้งโลกเป็นตลาดสินค้าไทยให้สำเร็จ’
มาตราการถัดมา คือการขจัดอุปสรรคการทำมาหากินทางกฏหมาย ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้ง ถามกับผู้รับฟังปราศรัยว่า เหนื่อยไหมกับการที่จะทำการค้าสักอย่างหนึ่ง ขอใบอนุญาตอะไรยุ่งยากไปหมด วันนี้เราจะอำนววยความสะดวกค้าขายง่ายๆ ต้นทุนจะได้น้อยลง ใบอ.ย. ใบแรงงานต่างด้าว ใบศุลกากรต่างๆ มันต้องลดความเยอะ ให้น้อย ให้ง่าย ให้โปร่งใส ให้รวดเร็ว โดยใช้เทคโนโลยี
และสุดท้ายรัฐบาลที่ต้องใช้เงินเยอะ ต้องหาเงินเป็น ไม่ใช่ขึ้นภาษีอย่างเดียว พรรคเพื่อไทยจะลดภาษี เพราะการลดภาษีอย่างชาญฉลาด ไม่ได้ทำให้รายได้ของประเทศหายไป แต่จะเพิ่มฐานภาษีให้มากขึ้น แต่ไม่เบียดเบียนคนที่เขาค้าขายแย่อยู่แล้ว แล้วไปถูกรีดภาษี ถ้าพรรคเพื่อไทยมีโอกาสกลับมาเป็นรัฐบาล เกษตกรพักชำระหนี้ 3 ปี เพื่อให้สามารถยืนได้ก่อน
‘ถ้าเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลภายใน 6 เดือน ราคาสินค้าจะกลับไปรุ่งเรืองทุกตัว อย่างน้อยต้องขึ้น 30 % ขึ้นไป เราทำได้ และทำมาแล้ว และจะทำต่อไป พอกันทีกับชีวิตเกษตกรที่ไม่เคยกำหนดราคาสินค้าขายได้เอง ต่อไปนี้เกษตกรต้องกำหนดราคาขายสินค้าได้ รัฐบาลเพื่อไทยจะชข่วย และประเทศไทยจะต้องเป็นศูนย์กลางการผลิตอาหารปลอดภัย ป้อนคนทั้งโลกต่อไปไม่ต้องมาผลิตกันเยอะๆ หลังสู้ฟ้า หน้าสู้ดิน เอาไปขายแล้วก็ตายอยู่หน้าโรงงาน หน้าโรงสี ต่อไปนี้ผลิตไม่ต้องเยอะ ผลิตของมีคุรภาพ ขายได้แพงๆ เราจะมีกองทุนปรับเปลี่ยนหน้าดินให้พี่น้อง พี่น้องไม่ต้องดิ้นรน พี่น้องจะขายสินค้าอาหารปลอดภัย ด้วยเงินกองทุนปรับเปลี่ยนหน้าดินและจะยั่งยืน เป็นรายได้ที่ยั่งยืน‘
เรื่องนโยบายท่องเที่ยว คุณสุดารัตน์ กล่าวว่า กรุงเทพฯเป็นเมืองน่าเที่ยวอันดับ 1 ของโลก แต่เงินที่เข้ามาไม่เยอะ เพื่อไทยรู้วิธี เราจะพัฒนาในทุกมิติ ที่จะทำให้กรุงเพฯเป็นเมืองใหญ่ศูนย์กลางการท่องเที่ยวของโลกให้สำเร็จ เพื่อสร้างเศรษฐกิจดีให้กับคนกรุงเทพฯ โดยตั้งเป้า 2 ปี เราจะเพิ่มนักท่องเที่ยวให้เป็น 50 ล้านคน เงินที่จะได้จากการท่องเที่ยวจะต้องแตะ 3ล้านล้านบาท
‘วันนี้นักท่องเที่ยวหาย เรือล่มลำเดียว เพราะว่าไม่เข้าใจ บริหารจัดการปัญหาไม่เป็น เรือล่มลำเดียวเจ๊งเกือบทั้งประเทศ สมัยเราทำงานตอนพรรคไทยรักไทย พี่น้องจำได้ไหมว่ามีเหตุการณ์ซึนามิ 6 จังหวัด คนสูญหายและเสียชีวิต รวมหมื่นคน เราเอาใจใส่อย่างเต็มที่ เข้าไปทำงานอย่างเต็มที่เต็มกำลัง เราฟื้นความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกได้ทันที ซึนามิจบ คนก็กลับมาเที่ยว และเราจะสร้างความมั่นใจด้านความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว เที่ยวไทย ปลอดภัยทุกที่ ทุกเวลา และเราจะสร้างแหล่งท่องเที่ยวใหม่ ด้านวัฒนธรรม ด้านเอ็นเตอร์เท็นเม้นท์ ด้านวิถีชีวิต ด้านการผจญภัย เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ เราจะดึงเงินท่องเที่ยวเข้ามาแตะ 3 ล้านล้านบาทให้ได้ เพื่อรายได้ของพี่น้องทุกคน‘
นอกจากนี้ ด้วยทุกวันนี้ นักท่องเที่ยวจีนเข้าเที่ยวจำนวนมาก อย่างแรกที่ควรทำ คือการยกเลิกวีซ่าระหว่าง ไทย-จีน เรายกเลิกประเทศอาเซียนหมดแล้ว จากการที่เดินทางไปพบรัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวของจีน และรัฐวิสาหกิจด้านการท่องเที่ยว ได้รับข้อมูลว่า ถ้ายกเลิกวีซ่าอย่างเดียว นักท่องเที่ยวจะเพิ่ม 50 % ตอนนี้คนจีนเที่ยวไทยอยู่ 10 ล้านคน ยกเลิกวีซ่าจะกลายเป็น 15 ล้านคน เงินอยู่ข้างหน้าเห็นๆ แต่ทำไม่เป็น
ถัดมาคือนโยบาย สร้างคนรุ่นใหม่ คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า เราจะสร้างเถ้าแก่ใหม่ โดยจะสร้างศูนย์เถ้าแก่ใหม่ เรียกว่า smart small Business Center ศูนยนี้จะช่วยเรื่องงินทุนที่ช่วยได้จริง เข้าถึงจริง ความรู้ในการผลิต พัฒนาสินค้าเอามาขาย กฏระเบียบ ใบอนุญาตต่างๆ จะช่วยทำให้ เพื่อให้คนรุ่นใหม่ คนตัวเล็ก มีธุรกิจของตัวเอง เป็นเถ้าแก่ได้ด้วยตัวเอง
ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลง ในอนาคตจะมีคนตกงานอีกจำนวนมาก เพราะการพัฒนาของเทคโนโลยี ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้ง เสนอให้มีกองทุนคนเปลี่ยนงาน สร้างทักษะความรู้ของโลกใหม่ และมีเงินทุนที่จะทำให้คนเหล่านี้ไม่ต้องเป็นคนตกงาน แต่จะเป็นคนเปลี่ยนงาน
‘พนักงานบรัทต่างๆที่จะมีคนลดลงไปเรื่อยๆ จากเทคโนโลยี ไม่ต้องกลัว เรามีกองทุนคนเปลี่ยนงาน เป็นที่พึ่ง นอกจากนั้นเราจะมีบัตรทองสตาร์ทอัพ ถ้าอ่านข่าวก็จะเห็นว่ารัฐบาลกำลังโหมเรื่องอีอีซี ใครมาลงทุนที่อีอีซี จะได้สิทธิพิเศษเพียบ เราไม่ว่าอะไร ส่วนนั้นดึงเงินลงทุน แต่เราอยากให้คนตัวเล็ก มีสิทธิพิเศษนอกอีอีซีเหมือนกัน เรื่องภาษี เรื่องมาตการต่างๆ สำหรับสตาร์ทอัพ สำหรัอีคอมเมิร์ซ สำหรับธุรกิจออนไลน์ จะได้สิทธิพิเศษนอกอีอีซี’
เรื่องบัตร30บาท คุณหญิสุดารัตน์ กล่าวว่า ทำมากับมือ ตอนนี้เละไปเยอะ เพราะทำไม่เป็น และจะเอาบัตร 30 บาทดีๆกลับมาใหม่ เป็นบัตร 30 บาทยุคใหม่ ต้องสร้างสุขภาพดีถ้วนหน้า ยาดี รักษาดี ไม่ต้องรอคิว คนไทยต้องแข็งแรงก่อนแก่ ต้องได้ตรวจสุขภาพก่อนป่วย และจะมีหมอใกล้ตัวผ่านมือถือ เป็นหมอประจำ
ส่วนเรื่องปัญหาสิ่งแวดล้อม ถ้าเพื่อไทยเป็นรัฐบาล จะต้องแก้ปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 ให้หมดไปใน 3 ปี สมัยก่อนตอนโรคซาร์และไข้หวัดนก เราก็แก้ไขปัญหามาหมดแล้ว ถ้าเป็นพรรคเพื่อไทยเราตั้งศูนย์แก้ไขปัญหาเรียบร้อยแล้ว
‘ภายใน4ปีถ้าเราได้เป็นรัฐบาลเราจะเปลี่ยนรถทั้งหมดให้เป็นรถไฟฟ้า ไม่มีมลภาวะ ที่จีนผลิตลดไฟฟ้าได้ วิ่งกันเต็มเมือง แทนที่จะไปซื้อรถถัง ซื้อเรือดำน้ำจากจีน มาซื้อรถเมล์ไฟฟ้าดีกว่า’
นอกจากนี้ ในเรื่องแผงลอยขายของ คุณหยิงสุดารัตน์บอกว่า ไม่ใช่ภาระ แต่คือเสน่ห์ของกรุงเทพฯที่จะสร้างรายได้ เราจะทำฟู๊ด สตรีท ให้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก คนทั่วโลกต้องมาเมืองไทเพราะเรามีแผงขายของข้างถนน แต่จะเป็นแผงที่จัดระเบียบและสะอาด มีที่ล้างจาน อบจานอย่างดี เยาวราชจะเป็นศูนย์กลางที่คนทั่วโลก อยากมาชิมอาหารข้างถนน