ธ.ก.ส. ร่วม คปภ. เปิดประกันภัยแล้งลำไย นำร่อง เชียงใหม่

ธ.ก.ส. ร่วม คปภ. เปิดประกันภัยแล้งลำไย นำร่อง เชียงใหม่


ธ.ก.ส. ร่วม คปภ. และบริษัทประกันภัยเครือข่ายพันธมิตร เปิดประกันภัยลำไย สร้างภูมิคุ้มกันให้กับเกษตรกร ลดความเสี่ยงจากปัญหาภัยแล้ง นำร่องในพื้นที่ 24 อำเภอของจังหวัดเชียงใหม่

เมื่อวานนี้ (14 ก.พ.61) ณ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงาน คปภ.) ถนนรัชดาภิเษก ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ คปภ. นายนิพัฒน์ เกื้อสกุล รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) คุณชญณา ศิริภิรมย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารจากบริษัท ซมโปะ ประกันภัย (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และนายจีรพันธ์ อัศวะธนกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ จากบริษัท ประกันภัยไทยวิวัฒน์จำกัด (มหาชน) ร่วมเปิดตัวกรมธรรม์ประภัยภัยพืชผลลำไยจากภัยแล้ง โดยใช้ดัชนีฝนแล้ง ตรวจผ่านดาวเทียม สำหรับรายย่อย (ไมโครอิน ชัวรันส์)

 

นายนิพัฒน์ เกื้อสกุล รองผู้จัดการ ธ.ก.ส. กล่าวว่า ปัจจุบันสภาพภูมิอากาศของโลกเกิดการเปลี่ยนแปลงจากภาวะโลกร้อนในทุกภูมิภาค ซึ่งประเทศไทยได้เกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติที่รุนแรงมากขึ้นเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น ภัยแล้ง อุทกภัย วาตภัย ดินโคลนถล่ม ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ชีวิต ทรัพย์สินและพืชผลทางการเกษตร การประกันภัยพืชผลจึงเป็นแนวทางหนึ่งในการบรรเทาความเดือดร้อนจากการเกิดภัยพิบัติเพราะเกษตรกรสามารถนำเงินค่าชดเชยที่ได้รับจากการประกันภัยพืชผลไปลงทุนในรอบการเพาะปลูกใหม่ได้

 

โดยในปีการผลิต 2562 ธ.ก.ส. ร่วมกับ บริษัทซมโปะ ประกันภัยฯ และบริษัท ประกันภัยไทยวิวัฒน์ฯ จัดทำโครงการประกันภัยพืชผลลำไยจากภัยแล้ง โดยใช้ค่าดัชนีฝนแล้ง ตรวจวัดด้วยดาวเทียม เป็นเกณฑ์การประเมินความเสียหาย ทั้งนี้เพื่อให้เกษตรกรได้รับความคุ้มครองกรณีเกิดปัญหาภัยแล้งและสร้างความเสียหายต่อการผลิต ช่วยสร้างทางเลือกในการบริหารจัดการความเสี่ยง และเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยดำเนินการใน 24 อำเภอของจังหวัดเชียงใหม่ ได้แก่ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จอมทอง แม่แจ่ม เชียงดาว ดอยสะเก็ด แม่แตง แม่ริม สะเมิง ฝาง แม่อาย พร้าว สันป่าตอง สันกำแพง สันทราย หางดง ฮอด ดอยเต่า อมก๋อย สารภี เวียงแหง ไชยปราการ แม่วาง แม่ออน และดอยหล่อ เป้าหมายเกษตรกรเข้าร่วมโครงการ 500 ราย

 

สำหรับคุณสมบัติผู้เอาประกัน ต้องเป็นลูกค้าของ ธ.ก.ส.ในพื้นที่ดำเนินงานการประกันภัยที่กู้เงินเพื่อปลูกลำไย กำหนดวงเงินในส่วนที่ขอเอาประกันภัยขั้นต่ำ 10,000 บาท แต่ไม่เกินจำนวนเงินกู้ที่กู้เพื่อเพาะปลูกลำไย อัตราค่าเบี้ยประกัน 2.99% ของวงเงินในส่วนที่ขอเอาประกันภัย (รวมอากรแสตมป์และภาษีมูลค่าเพิ่ม) ระยะเวลาในการวัดปริมาณน้ำฝนหรือระยะเวลาคุ้มครอง ตั้งแต่ 1 มีนาคม – 31 เมษายน 2562 รวม 61 วัน

 

ทั้งนี้ การวัดค่าปริมาณน้ำฝนในแต่ละวันตลอดระยะเวลาประกันภัย จะอ้างอิงข้อมูลจากระบบดาวเทียม GSMaP ผ่าน Website ของ ธ.ก.ส. กรณีเกิดภาวะฝนแล้งได้รับชดเชยในอัตราร้อยละ 9 ของวงเงินในส่วนที่ของเอาประกันภัย และกรณีภัยแล้งรุนแรงได้รับชดเชยร้อยละ 12 ของวงเงินในส่วนที่ของเอาประกันภัย รวมอัตราค่าชดเชยไม่เกินร้อยละ 21 ของวงเงินในส่วนที่ของเอาประกันภัย โดยเปิดรับประกันภัยแล้วตั้งแต่วันนี้ถึง 28 กุมภาพันธ์ 2562 ที่ ธ.ก.ส. สาขาในพื้นที่นำร่องดังกล่าว