การนวดคือธรรมชาติบำบัด

การนวดคือธรรมชาติบำบัด

ปัจจุบันนี้การบำบัดด้วยวิธีธรรมชาติเริ่มได้รับความนิยม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนวดถือเป็นธรรมชาติบำบัด และภูมิปัญญาของคนโบราณที่ได้รับการนิยมอย่างกว้างขวางในยุคนี้

การนวด คือธรรมชาติบำบัดที่มีส่วนช่วยให้มีสุขภาพสมบูรณ์ได้ครบถ้วนมากกว่ายาหรือการผ่าตัด และเป็นการรักษาในเบื้องต้นที่ประหยัดและเริ่มได้อย่างรวดเร็วที่สุด ปัญหาสุขภาพยอดฮิตของคนในปัจจุบันคืออาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อตามส่วนต่างๆ ของร่างกายโดยเฉพาะคอ บ่า และสะบัก อันมีสาเหตุมาจากความเครียดในชีวิตประจำวัน บางคนพักผ่อนหรือหางานอดิเรกทำจะช่วยบรรเทาได้ แต่หลายคนมีอาการเรื้อรังจนลุกลามกลายเป็นปัญหาใหญ่โต เช่น หมอนรองกระดูกเคลื่อน หรือกระดูกทับเส้นประสาท ก่อนที่คุณจะหยิบยาแก้ปวดมาทาน เราขอแนะนำให้คุณได้ลองใช้วิธีธรรมชาติบำบัดด้วยการนวดกดจุดด้วยตนเองง่ายๆ ที่พิสูจน์แล้วว่าสามารถลดความเครียดและอาการปวดเมื่อยได้อย่างน่าพอใจเลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม ปัญหาเส้นผมบังภูเขาที่ทำให้การนวดไม่เป็นผลคือการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ตรงตามวัตถุประสงค์ หากต้องการนวดเพื่อรักษาความปวดเมื่อย คุณควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีสรรพคุณตอบโจทย์อาการนั้นเช่นกัน

 

เภสัชกรหญิงอริษา เกมะทายุง แนะนำการเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมว่า “ผลิตภัณฑ์ที่ใช้นวดเพื่อบรรเทาอาการปวดเมื่อยของกล้ามเนื้อมีส่วนช่วยเพิ่มหรือลดทอนประสิทธิภาพการนวด ผลิตภัณฑ์บางชนิดมีประสิทธิภาพในการรักษาอาการปวดเมื่อยแต่มีสารเคมีที่รุนแรงทำให้เกิดอาการระคายเคืองแสบร้อน แถมมาพร้อมกลิ่นที่รุนแรง ขณะที่บางผลิตภัณฑ์เหมาะสำหรับใช้นวดเพื่อผ่อนคลาย แต่ไม่สามารถช่วยรักษาอากาปวดเมื่อยได้ ยาหม่องเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ทางเลือกที่เหมาะสำหรับการนวดเพื่อแก้ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ อย่างไรก็ตามควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ทำจากส่วนผสมจากธรรมชาติและมีการพัฒนาสูตรเฉพาะเพื่อบรรเทาอาการปวด ได้รับการยอมรับและพิสูจน์ในประสิทธิภาพและความปลอดภัย ส่วนผสมสำคัญที่ออกฤทธิ์ในการรักษา อาทิ การบูร ช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อย กลิ่นหอมและช่วยให้หายใจสะดวก แก้ไอ คัดจมูก น้ำมันยูคาลิปตัส ลดความปวดเมื่อยและอักเสบของกล้ามเนื้อ มีกลิ่นหอมและช่วยระบบทางเดินหายใจ และกานพลู ช่วยระบบไหลเวียนโลหิต เนื่องจากอาการปวดเมื่อยเกิดจากการไหลเวียนของเลือดไม่ดี เป็นต้น”