ระอุเลือกตั้งเมืองกรุง เขตไหนเดือด เขตไหนดุ

ระอุเลือกตั้งเมืองกรุง เขตไหนเดือด เขตไหนดุ


จึงไม่แปลกที่พื้นที่เลือกตั้งกรุงเทพฯ จะคึกคักเป็นอย่างมากหลังกกต.สะบัดธงเปิดรับสมัครและปล่อยให้หาเสียงกันอย่างคึกคัก เพราะเหมือนว่านักการเมืองอาชีพ รวมถึงหน้าใหม่ที่เ¬¬¬ข้าสู่สมรภูมิเดือดการเลือกตั้งในครั้งนี้จะคันไม้คันมือ เนื่องด้วยว่าร้างลาจากการเลือกตั้งครั้งล่าสุดมานาน 8 ปีเต็ม หลังจากครั้งสุดท้ายที่มีการเลือกตั้งเมื่อปี 2554
แต่เมื่อถอดรหัสความสำคัญของพื้นที่เมืองหลวง ก็พบคำตอบว่า คือพื้นที่ขับเคี่ยวกันที่ถือว่ารุนแรงที่สุด และมีความสวิงสลับขั้วกันไปมาระหว่างพรรคการเมืองใหม่ในรอบกว่า 20ปีหลังที่ผ่านมา ขณะที่ในการเลือกตั้งล่าสุดปี 2554 เป็นการแย่งชิงกันระหว่างนักเลือกตั้งอาชีพจาก 2 พรรคการเมืองใหญ่คือ เพื่อไทย และประชาธิปัตย์
มาครั้งนี้ พรรคพลังประชารัฐ น้องใหม่ที่หวังอาศัยความเขี้ยวของนักการเมืองหน้าเดิม บวกพลังคนรุ่นใหม่ และพรรคภูมิใจไทย โดยมีพรรคการเมืองน้องใหม่อื่นๆ สอดแทรกอยู่บ้างประปรายก็ขอมาท้าชิงเจ้าพ่อเจ้าแม่เมืองกรุงกันด้วย โดย ThaiQuote จะขอนำเสนอ แคนดิเดต ผู้สมัคร สส. ในบางเขตที่ส่อเค้าร้อนระอุ ทะลุปรอท เมื่อความเก๋าจะต้องมาเจอกับสด ไฟแรง ถึงขั้นอาจมีกรณีพลิกโผเกิดขึ้นได้

เขต 1 สงครามดอกไม้
เขต 1 (พระนคร – ป้อมปราบฯ – สัมพันธวงศ์ – ดุสิต (ยกเว้นแขวงถนนนครไชยศรี) – เขตแรกก็เปิดหัวเจอศึกสงครามบุปผา เมื่อพรรคประธิปัตย์ส่ง “เจิมมาศ จึงเลิศศิริ” รองเลขาธิการพรรค ที่พกดีกรีอดีต สส.เขต 1 สองสมัยในปี 2550 และปี 2554 อีกฟากคู่แข่งตัวฉกาจอย่าเพื่อไทย ก็ส่ง ลีลาวดี วัชโรบล ดีกรีอดีตรองนางสาวไทย และนักแสดง และยังเคยได้รับการเลือกตั้งเป็น สส. ในปี 2554 ส่วนฟากน้องใหม่อย่าง พลังประชารัฐ ส่ง กานต์กนิษฐ์ แห้วสันตติ คุณแม่ลูก 3 อดีตสมาชิกสภากรุงเทพมหานครเขต 1 (สก.) เจ้าของฉายาร่วม 3 ก. (กานต์กนิษฐ์ กรณิศ และกนกนุช ทั้งหมดเป็นสก.ในนามพรรคประชาธิปัตย์) อีกหนึ่งน้องใหม่ทางการเมืองอย่าง อนาคตใหม่ ส่ง นพมาศ การุญ ดีกรีนักธุรกิจคนรุ่นใหม่ หลานสาว เสริมศักดิ์ การุญ อดีตรมช.กระทรวงแรงงานฯ และรมช.กระทรวงการคลัง ลงขับเคี่ยว แต่ท้ายสุดคงเป็น ทวีพร อนุตรพงษ์สกุล จากพรรคภูมิใจไทย อดีต สก.เก่าเขตป้อมปราบศัตรูพ่าย หนึ่งเดียวฝั่งชายที่ต้องสู้กับทั้ง 4 สาว

เขต 2 ปชป.นอนมา
เขต 2 (ปทุมวัน-บางรัก-สาทร) – ปฏิเสธไม่ได้ว่า อรอนงค์ กาญจนชูศักดิ์ จากพรรคประชาธิปัตย์ คือตัวเต็งของเขตนี้ ด้วยดีกรีอดีตแชมป์เก่าเมื่อปี 2554 และหากจำกันได้ในการเลือกตั้งครั้งที่แล้วเกิดศึกรอยร้าวภายในของประชาธิปัตย์เอง ที่อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคต้องเข้ามาเคลียร์ใจ ส่ง อรอนงค์ ลงเขตนี้ พร้อมโยก ม.ล.อภิมงคล โสณกุล หรือ “หล่อจิ๋ว” ลูกชายหม่อมเต่า “ม.ร.ว.จตุมงคล โสณกุล” ไปลงพื้นที่เขต 3 แทน และความเชี่ยวในพื้นที่น่าจะช่วยให้อรอนงค์มีลุ้นอย่างมากกับส.ส.อีกสมัย
แต่ก็ไม่อาจประมาทคู่แข่ง ที่พรรคเพื่อไทยถึงกับต้องยอมหลีกทางให้ ไทยรักษาชาติ ส่ง ม.ล.ณัฏฐพล เทวกุล หลานชาย “หม่อมอุ๋ย” ม.ร.ว.ปรีดียาธร เทวกุล เจ้าของฉายา “เจ้าติดดิน” ลงแทน
แต่ตัวสอดแทรกด้วยน้องใหม่ดีกรีปริญญาเอก ด้านอาชญวิทยา อย่าง “ดร.ส้ม” พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ จาก พลังประชารัฐที่ได้ลุ้นเช่นกัน รวมไปถึง พัสวี ภัทรพุทธากร หรือ “เจี๊ยบ ก๋วยเตี๋ยวรสดีเด็ด” นักธุรกิจเจ้าของร้านอาหารดังสยามสแควร์ จากพรรคอนาคตใหม่ และ อุไร อนันตสิน อดีตสก.ประชาธิปัตย์ ที่ลงชิงคะแนนในนามภูมิใจไทย

เขต 6 วัดพลังแชมป์เก่า
เขต 6 พญาไท – (ราชเทวี – จตุจักร (เฉพาะแขวงจัตุจักร – แขวงจอมพล) – เขตนี้เพื่อไทย ส่ง ประพนธ์ เนตรรังษี อดีต สก.จตุจักร ลงสมรภูมิใจกลางเมือง ชนกับ อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี พรรคประชาธิปัตย์ เจ้าของพื้นที่ที่ครองตำแหน่ง ส.ส.มาแล้วทั้งในปี 50 และปี 54 เขตนี้จะมีตัวสอดแทรกอย่าง คริส โปตระนันทน์ มือวางนโยบายและยุทธศาสตร์จาก พรรคอนาคตใหม่ และ ภาดาท์ วรกานนท์ นักธุรกิจอสังหาฯ สาวสวยตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐที่จะเป็นม้ามืด หากแชมป์เก่า หรือรองอันดับหนึ่งอย่างเพื่อไทยเพลี้ยงพล้ำ

เขต 7 ท้าสู้ ตระกูลดัง “คงอุดม”
เขต 7 บางซื่อ – (ดุสิต) – ถือเป็นเขตที่น่าจะดุเดือดและคอการเมืองอาจจะต้องจับตา โดย ปิยะชาติ อำนวยเวช อดีตกรรมการองค์การตลาด จากพรรคอนาคตใหม่ จะต้องต่อสู้ในสนามเลือกตั้งกับ ตระกูลดังบางซื่ออย่าง “คงอุดม” ที่ ”ชัช เตาปูน” สัมปทานพื้นที่แห่งนี้มาช้านาน พร้อมกับการส่ง ลูกสะใภ้เบอร์ 1 พิมพ์อร คงอุดม ในนามพรรคพลังท้องถิ่นไท ลงเป็นตัวแทนขอคะแนนเสียงจากประชาชน โดยมีตัวเลือกสอดแทรกอย่าง ธณิกานต์ พรพงษาโรจน์ จากพรรคพลังประชารัฐ เจ้าของสโลแกน “ธณิกานต์ เข้าถึง พึ่งได้” และ “หมอเอ้ก” คณวัฒน์ จันทรลาวัณย์ พรรคประชาธิปัตย์ รวมไปถึง ร.ต.อ.วัฒนรักษ์ สุรนาทยุทธ์ จากพรรคเพื่อไทย คอยเป็นตาอยู่

เขต 8 ลาดพร้าวจะลุกเป็นไฟ
เขต 8 ลาดพร้าว – (วังทองหลาง (ยกเว้นแขวงพลับพลา) – อีกพื้นที่หนึ่งที่คาดว่าจะมีการแข่งขันกันดุเดือดเลือดพล่าน เมื่อทางฝากเพื่อไทย ส่ง “หมวดเจี๊ยบ” ร.ท.หญิงสุณิสา ทิวากรดำรง วัดพลังฐานเสียงกับ “สรรเสริญ สมะลาภา” ดีกรีส.ส.หลายสมัย และยังเป็นถึงรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ถือเป็นศึกช้างชนช้างอย่างแท้จริง เพราะระดับสรรเสริญที่กระโดดลงมาเล่นระดับเขตเองก็ต้องหวังสูงแน่นอนที่จะยึดพื้นที่เขตนี้ให้ได้ แต่ต้องระวังตัวสอดแทรกด้วย เพราะถิ่นเก่าในพื้นที่ก็คุ้นหน้าคุ้นตากันดี คือ กษิดิ์เดช ชุติมันต์ อดีตส.ก.หลายสมัย ในนามพรรคประชาธิปปัตย์ ที่โยกมาสู้ศึกสนามใหม่ในนาม พลังประชารัฐ

เขต 9 หลักสี่ หลากสีสัน
เขต 9 (หลักสี่ จตุจักร) – จำกันได้ดีว่าครั้งชุมนุมกปปส. “อดีตพระพุทธอิสระ” ยึดพื้นที่นี้เป็นแหล่งตั้งมั่นปักหลักชุมนุมและมาถึงวันที่เกิดให้มีการเลือกตั้ง ก็มี สิระ เจนจาคะ ศิษย์เอกของอดีตพระดังที่ชอบเส้นทางการเมือง ลงแย่งชิงพื้นที่ในนาม พลังประชารัฐ ขับเคี่ยวกับ สุรชาติ เทียนทอง พรรคเพื่อไทย แชมป์เก่าเจ้าของพื้นที่เดิม ด้าน ประชาธิปัตย์ หลังจากที่เคยส่ง สกลธี ภัททิยกุล ลงชิงชัย มาครั้งนี้ ส่ง “มือปราบหูดำ” ผู้การแต้ม พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ลงเป็นตัวเลือกแทน และถือเป็นการเปิดซิงทางการเมืองครั้งแรกของอดีตตำรวจดังผู้นี้อีกด้วย

เขต 10 ดอนเมือง “เก่ง” จริง ต้องวัดกัน
เขต 10 (ดอนเมือง) ถือเป็นสนามเลือกตั้งอีกแห่งหนึ่งที่ดูจะดุเดือด เพราะมี เก่งใหญ่ อย่าง เก่ง การุณ โหสกุล พรรคเพื่อไทย ลงสมัครชิงชัยเองแน่นอนเพราะฝังในพื้นที่มาช้านาน แต่รอบนี้จะได้ปะทะกับ เก่งเล็ก ส.ก.หนุ่ย กนกนุช กลิ่นสังข์ ที่พลังประชารัฐส่งเข้าประกวด สำหรับ ส.ก.หนุ่ย ถือว่ามีดีกรีที่ไม่ธรรมดา เพราะก่อนหน้านี้ถูกวางให้เป็นตัวแทนพรรคประชาธิปัตย์แทน “อี้ แทนคุณ จิตต์อิสระ อดีต ส.ส.ดอนเมืองของพรรคคนแรกในรอบ 37 ปีในพื้นที่ดอนเมือง ที่ขยับตนเองเข้าไปอยู่ในบัญชีปาร์ตี้ลิสต์ของพรรค จึงทำให้ ประชาธิปัตย์ ต้องขยับส่ง ธัญญ์นิธิ ชวรัตน์นิธิโชติ รองโฆษกพรรคลงสู้ศึกแทน ขณะที่ ภูมิใจไทย ก็ส่ง คนกันเองอย่าง นิกกี้ จ้อยเอม อดีตคนของระชาธิปัตย์ ที่เคยเป็นทีมทำงานของ กนกนุช กลิ่นสังข์ ร่วมแจม

เขต 11 เพื่อไทยขอจอง
เขต 11 (สายไหม) – เขตนี้พรรคเพื่อไทยหมายมั่นปั้นมือว่าต้องได้แน่ๆ เพราะเป็นเขตเก่าของปวีณา หงสกุล ว่าแล้วก็เลยส่ง “ผู้การป็อบ” น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ อดีตรมว.กระทรวงเทคโนโลยีฯ ลงสนาม ส่วนคู่ต่อสู่นั้นหนีไม่พ้นอริตลอดกาลอย่างประชาธิปัตย์ ที่ส่ง สมชาย เวสารัชตระกูล อดีตรองประธานสภากทม. ลงสู่สมรภูมิ ส่วนของ ภูมิใจไทย ส่ง ฉัตรวัชร์ ศรีธนะเวทย์ และพลังประชารัฐ เลือกส่งนักธุรกิจรุ่นใหม่ไฟแรงอย่าง อิทธิพัทธ์ เศรษฐยุกานนท์ ลงเป็นตัวเลือกแย่งคะแนนจากประชาชน

เขต 12 บางเขน ทุกพรรค ขอชนเพื่อไทย
เขต 12 (บางเขน) – ตัวเต็งของเขตนี้อย่าง “ไก่” อนุสรณ์ ปั้นทอง จากเพื่อไทย จะต้องดวลเดือดกับ อดีต ส.ก.เก่าประชาธิปัตย์เจ้าของพื้นที่สนามเล็กที่ตอนนี้โยกไปอยู่สังกัด ภูมิใจไทย อย่าง ปราณี เชื้อเกตุ ซึ่งแว่วข่าวมาว่า ทุกวันนี้ขยันเดินขอคะแนนเสียงแบบเข้าถึงทุกบ้าน ด้าน พลังประชารัฐ ส่ง ภญ.นพวรรณ หัวใจมั่น ภรรยาคนสนิท “คุณหญิงหน่อย” สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ลงแข่งขันเพื่อเป็นตัวเลือก ด้านประชาธิปัตย์ ส่ง รัฐพงษ์ ระหงษ์ ดีกรีหลานนักการเมืองรุ่นลายครามอย่าง พล.ต.ต สมบุญ ระหงษ์ เป็นตัวแทน

เขต 16 วัดพลัง เพื่อไทย-ปชป.
เขต 16 (คลองสามวา) – เป็นอีกเขตที่มีการเก็งกันว่า การชิงชัยจะเหลือแค่ตัวแทนจาก 2 พรรค คือ “พี่ยุ” จิรายุ ห่วงทรัพย์ จากเพื่อไทย กับ ฮูวัยดีย๊ะ พิศสุวรรณ อุเซ็ง ทายาททางการเมืองของ ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ จากพรรคประชาธิปัตย์ ขณะที่ตัวแทนจากพรรคอื่นที่พร้อมจะสอดแทรกขอคะแนนเสียงจากพื้นที่นี้ ได้แก่ เกศกานดา อินช่วยอดีตสข. สังกัดประชาธิปัตย์ ก่อนจะโยกมาลงสมัครเป็นตัวแทนของพลังประชารัฐ และยังมี บุญมี พิบูลย์คณารักษ์ อดีตสข. จากพรรคภูมิใจไทย รวมถึง ตัวแทนจากพรรคอนาคตใหม่อย่าง พ.ต.ท. วาทิศ ธนกิจกาศมณี คอยสอดแทรก

เขต 18 ศึกสายเลือด “สำเร็จวาณิชย์”
เขต 18 (ลาดกระบัง) – เกิดศึกสายเลือดขึ้นระหว่าง “ปู่วิสูตร” วิสูตร สำเร็จวาณิชย์ อดีตสก.หลายสมัย ซึ่งโยกข้ามห้วย เพื่อไทย เข้าสังกัดพลังประชารัฐ กับหลานสาว อย่าง “หลานอิ่ม” ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ แชมป์เก่าของเขตนี้จากพรรคเพื่อไทย ที่จะต่อสู้กันเองระหว่างปู่กับหลาน โดยมีตัวสอดแทรกอย่าง สมศักดิ์ ศรีสมุทร จาก ภูมิใจไทย พร้อมทั้ง อนันต์ ฤกษ์ดี ประชาธิปัตย์ และ เอกฤทธิ เจียกขจร จากอนาคตใหม่

เขต 19 “เจ้าแม่พรีเซ็นเตอร์” ปะทะ “พี่ชายนางสาวไทย”
เขต 19 (สะพานสูง – ประเวศ (ยกเว้นแขวงหนองบอน และแขวงดอกไม้) – เพื่อไทยส่ง วิตต์ ก้องธรนินทร์ ดีกรีอดีตทีมทำงานของ “ผู้การป๊อบ” อนุดิษฐ์ นาครทรรพ และยังเป็นสามีของ “พลอย จินดาโชติ” ดารานักแสดง ชื่อดัง และยังเป็นพี่ชายของ “ เจี๊ยบ ลลนา ก้องธรนินทร์” อดีตนางสาวไทย ลงช่วงชิงคะแนนเสียงกับ 2 นักการเมืองมากประสบการณ์ อย่าง “เจ้าแม่พรีเซ็นเตอร์” นาถยา แดงบุหงา เจ้าของพื้นที่จากประชาธิปัตย์ และ ประสิทธิ์ มะหะหมัด อดีต สก.และ กรรรมการอิสลามกรุงเทพมหานคร จากพลังประชารัฐ

เขต 20 ทายาทตระกูลดัง ฟัด แชมป์เก่า
เขต 20 (สวนหลวง – ประเวศ (เฉพาะแขวงหนองบอน และแขวงดอกไม้) – เขตนี้เพื่อไทยยอมหลีกให้ไทยรักษาชาติ ที่ส่ง ธกร เลาหพงศ์ชนะ ทายาทตระกูลดัง ร่วมลงชิงชัยแข่งกับ ธันวา ไกรฤกษ์ ทายาทตระกูลนักการเมือง ที่กลับมาลงสนามในนามพลังประชารัฐ และต้องไม่ลืม สามารถ มะลูลีม อดีต ส.ส. เจ้าของพื้นที่จากประชาธิปัตย์

เขต 26 บางบอน เดือดกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว
เขต 26 (บางบอน เขตหนองแขม (เฉพาะแขวงหนองแขม) – Thaiquote ขอยกให้เป็นเขตที่มีการแข่งขันแบบดุเดือดปรอทแตก ถือเป็นศึกแห่งศักดิ์ศรีของแต่ละพรรคในระดับ “เสือพบสิงห์” กันเลยทีเดียว เมื่อแชมป์เก่า พ.ต.อ.นพ.สามารถ ม่วงศิริ จากประชาธิปปัตย์ จะต้องวัดบารมีกับ วัน อยู่บำรุง เจ้าของสโลแกน “ใจถึง พึ่งได้” ตัวจริงเสียงจริง ที่ “เฉลิม อยู่บำรุง” หมายมั่นปั่นมือจะให้ลูกรักเป็นส.ส. ในนามพรรคเพื่อไทยให้ได้ แม้จะต้องเจอกับแชมป์เก่าที่เขี้ยวลากดินเหมือนกัน เพราะไม่แน่จริงคงอยู่พื้นที่บางบอนไม่ได้แน่ๆ นอกไปจากนี้ “วัน” จะต้องไปซัดกับ วัชระ กรรณิการ์ อดีตโฆษกพรรคชาติไทยพัฒนา พร้อมลงวัดใจแบบโชว์ฝีไม้ลายมือ หวังฝากชื่อให้สะเทือนกรุง ในนามนักการเมืองรุ่นเก๋าแห่งค่ายพลังประชารัฐ
และนี่คือบางส่วนจาก 30 เขตของสนามการเลือกตั้งเฉพาะกรุงเทพมหานคร ที่ว่ากันว่า “ชัยชนะศึกเมืองหลวง” จะเป็นส่วนหนึ่งของการประเมินโฉมหน้าของพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้เลยทีเดียว