‘สมศักดิ์’มั่นใจ พปชร.ยึดสุโขทัยแน่-วอนผู้สมัครสงบปากหลังโดนตามถ่ายคลิป

‘สมศักดิ์’มั่นใจ พปชร.ยึดสุโขทัยแน่-วอนผู้สมัครสงบปากหลังโดนตามถ่ายคลิป


นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ประธานคณะกรรมการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง ได้เน้นการอธิบายนโยบายเป็นพิเศษ ซึ่งต่างจากเดิมที่พูดภาพรวม อาทิ จังหวัดพิจิตร เป็นเมืองอู่ข้าวอู่น้ำ จะเน้นนโยบายในเรื่องของข้าวและที่ดินไม่มีเอกสารสิทธิ์ รวมถึงส.ป.ก. ซึ่งหลังจากนำเสนอ กระแสนิยมที่ดูจากสายตาของประชาชนนั้นชื่นชอบเป็นจำนวนมาก ส่วนการลงพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก มีที่ดินป่าสงวนและสปก. จึงเน้นจัดสรรที่ดินเพื่อทำการเกษตรให้ประชาชน ทำให้ประชาชนชอบใจ นอกจากนี้ ยังแถมนโยบายโคบาลประชารัฐ ขณะที่จังหวัดสุโขทัย ที่ดินส่วนใหญ่ขาดแคลนเรื่องของน้ำ จึงมีการเสนอเรื่องของการผันน้ำ โดยในภาพรวมของการลงพื้นที่ 3 จังหวัด นโยบายของพรรคพลังประชารัฐจะใช้ 3-4 ข้อ ซึ่งประชาชนขานรับ ทำให้ส่วนตัวรู้สึกไม่หนักใจ และคิดว่าการที่พรรคการเมืองอื่นบอกว่าจะกวาด 250 คน แต่ส่ง 250 เขตนั้นจะเป็นไปได้อย่างไร เพราะบางจังหวัดดูแล้วไม่ได้ คิดว่าเขาจะได้บัญชีรายชื่อมากกว่าเขต

ส่วนการลาออกของนายกอบจ.สุโขทัยจะมีผลกระทบหรือไม่นั้น นายสมศักดิ์กล่าวว่า นายก อบจ.สุโขทัยนั้นคนรู้กันว่าเป็นนักวิชาการที่ไม่ไปล้วงลูก รวมถึงไม่ไปใช้บทบาทหน้าที่นายกอบจ. มาเป็นประโยชน์ เพราะที่ผ่านมาไม่เคยถูกร้องเรียน ดังนั้น การลาออกหรือไม่มีค่าเท่ากัน แต่นายกอบจ.ก็อยากลาออกมาเป็นเดือนแล้ว เนื่องจากไม่อยากทำให้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ เพราะเป็นคนรักษาภาพ ขณะเดียวกันเขต 1 ที่มีดร.พรรณสิรินั้นก็มั่นใจว่า ในสังคมเมืองที่พรรคการเมืองอื่นได้คะแนนเสียงดีจะเปลี่ยนไป เพราะคนในชุมชนเมืองรับดร.พรรณสิริได้ดี เนื่องจากเป็นคนขยัน เป็นนักวิชาการ ส่วนในชนบท เป็นความนิยมในครอบครัวของตนเอง ซึ่งคิดว่าจังหวัดสุโขทัยน่าจะมีโอกาสปักธงหลายเขต

นายสมศักดิ์ ยังกล่าวถึงการลงพื้นที่แล้วมีบุคคลมาตามถ่ายคลิปด้วยว่า พรรคการเมืองอื่นคงจับจ้องตนเป็นพิเศษในฐานะที่เป็นประธานรณรงค์หาเสียง แต่มั่นใจว่าไม่เคยทำผิดกฏหมาย เพราะเวลาพูดอะไรมีหลักการ และจากที่ทำการเมืองมาตั้งแต่ปี 2526 ก็ไม่มีอะไรที่ผิดกฎหมาย การหาเสียงเป็นไปตามกรอบ ส่วนบุคคลที่ตามมาถ่ายคลิปนั้นเป็นอดีตข้าราชการ ซึ่งตนก็ให้ทีมงานไปสอบถามว่าบันทึกภาพวิดีโอทำไม อยากเตือนผู้สมัครคนอื่น ต้องระมัดระวังด้วย อย่าทำอะไรที่ดูหมิ่นเหม่ ขอให้อ่านกฎระเบียบให้ชัดเจน

ส่วนหลังเปิดนโยบายการลงพื้นที่จะมีการปรับเปลี่ยนอย่างไร นายสมศักดิ์กล่าวว่า นโยบายดี บางทีก็ไม่ต้องทำอะไรมาก เพราะส่วนกลางช่วยผู้สมัครได้จำนวนมาก ซึ่งประชาชนต้องการตัวบุคคล 40-50% และนโยบายพรรค 50-60% โดยสังเกตุดูได้จากนักการเมืองในอดีตที่คิดว่าตัวเองเก่งมาก แต่สอบตก เพราะประชาชนฟังนโยบายที่ชัดเจน