สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า คณะกรรมาธิการการขนส่งกรุงปักกิ่งประกาศเมื่อวันพุธที่ผ่านมา (30 ม.ค.) ว่าปีนี้โควตาสำหรับรถยนต์พลังงานใหม่ในกรุงปักกิ่งจะยังคงอยู่ที่ 60,000 แผ่น เท่ากับปีที่ผ่านมา ส่วนโควตาสำหรับรถยนต์ที่ใช้น้ำมันเบนซินก็ยังอยู่ที่ 40,000 แผ่นเช่นเดิม
ในโควตาทั้งหมดของรถยนต์พลังงานใหม่จะแบ่งสัดส่วนออกเป็นประเภทรถยนต์ส่วนบุคคล 90 เปอร์เซ็นต์ และอีก 10 เปอร์เซ็นต์สำหรับผู้ที่ยื่นคำร้องในนามขององค์กรหรือบริษัท ส่วนรถยนต์เครื่องยนต์เบนซินจะแบ่งสัดส่วนเป็นของรถยนต์ส่วนบุคคล 95 เปอร์เซ็นต์ และอีก 5 เปอร์เซ็นต์สำหรับผู้ยื่นคำร้องประเภทอื่นๆ
เมื่อปี 2011 ปักกิ่งได้ประกาศใช้ระบบลอตเตอรีในการออกใบอนุญาตซื้อรถยนต์ เพื่อควบคุมอัตราการเติบโตของปริมาณรถยนต์ใหม่บนท้องถนน โดยสมัครเข้าร่วมได้ทุกๆ 2 เดือน เมื่อเดือนธันวาคม 2018 มีผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมมากกว่า 3 ล้านราย อัตราส่วนการจะเป็นผู้โชคดีได้ซื้อรถยนต์จึงอยู่ที่ 1 : 500
นอกจากนี้ โควตาการออกแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ (รวมทุกประเภท) ลดลงจาก 240,000 แผ่นในปี 2011 เหลือเพียง 100,000 แผ่นในปีที่ผ่านมา ในขณะเดียวกันก็เพิ่มสัดส่วนของการออกแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์พลังงานใหม่จาก 20,000 แผ่นในปี 2014 เป็น 60,000 แผ่น เนื่องจากกรุงปักกิ่งเริ่มหันมาสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้าเพื่อลดปัญหามลภาวะ
เมื่อเดือนธันวาคม 2018 มีผู้ยื่นคำร้องขอซื้อรถยนต์พลังงานใหม่มากกว่า 400,000 ราย เมื่อคำนวณจากโควตาของปีนี้ ผู้ยื่นคำร้องบางรายอาจต้องรอนานถึง 8 ปีกว่าจะได้รับใบอนุญาต
ทั้งนี้ กรุงปักกิ่งมีแผนปฏิบัติการ 3 ปีในการพัฒนาคุณภาพอากาศ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อลดการปล่อยมลภาวะจากยานยนต์ลงให้ได้ 30 เปอร์เซ็นต์นับตั้งแต่ปี 2017-2020
ข่าวอื่นที่น่าสนใจ