‘มาร์ค’ ชู 7 มาตรการ “อากาศสะอาด” ยั่งยืน แนะนำเข้าหน้ากากปลดอดภาษี

‘มาร์ค’ ชู 7 มาตรการ “อากาศสะอาด” ยั่งยืน แนะนำเข้าหน้ากากปลดอดภาษี


อภิสิธิ์’ชูนโยบายกู้วิกฤติฝุ่นพิษ แนะรัฐบาล-กรมศุลฯนำเข้าหน้ากากปลอดภาษี คุมราคาถูก ปรับแผนยุทธศาสตร์ชาติรองผลิตพลังงานทดแทน-รถยนต์ไฟฟ้าใช้ในปท. พร้อมใช้มาตรการภาษีจูงใจ แนะจัดการโรงงานพ่นพิษงดใบอนุญาต-บีโอไอ พร้อมใช้กม.ภาษีที่ดินเอื้อเอกชนเพิ่มพื้นที่สีเขียว

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงวิกฤตฝุ่นพิษที่เกิดขึ้นในกทม.และปริมณฑลว่า ตนไม่ต้องการให้นำเรื่องนี้มาเป็นประเด็นทางการเมือง เพื่อให้เกิดความขัดแย้งทางการเมือง แต่ขอให้ทุกฝ่ายบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ถือเป็นสัญญาณเตือนภัยว่าในการพัฒนาประเทศจะทำตามกรอบเดิมๆไม่ได้ การจะพัฒนาเศรษฐกิจจะต้องเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พรรคจึงขอเสนอนโยบาย “อากาศสะอาด” เพื่อมุ่งเป้าลดฝุ่น PM2.5 อย่างเบ็ดเสร็จ และยั่งยืน โดยในระยะสั้นหรือเร่งด่วนคือ รัฐบาลควรกระจายหน้ากากให้ประชาชนได้ทั่วถึง และต้องหารือกับกรมศุลกากรให้สามารถนำเข้าหน้ากากได้โดยไม่เสียภาษี และมีมาตรการตรวจสอบไม่ให้นำมาจำหน่ายในราคาที่สูงเกินไป
นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า สาเหตุมาจากหลายปัจจัย คือ การขนส่งที่ใช้พลังงานดีเซล โรงงานอุตสาหกรรม การเผาไหม้ในที่โล่ง ดังนั้นต้องปรับเปลี่ยนยุทธศาสตร์พัฒนา โดยในส่วนของรถยนต์ดีเซลควรมีเครื่องกำจัดไอเสียดักเขม่า โดยเริ่มทำทันทีกับรถยนต์ของภาครัฐ และใช้มาตรการภาษีจูงใจกับรถยนต์ของเอกชน เช่นรถบรรทุกหรือรถเชิงพาณิชย์ต่างๆ และปรับเปลี่ยนภาษีให้สัมพันธ์กับการก่อมลพิษที่เกิดขึ้นในกรณีของส่วนบุคคลโดยผ่านกลไกการต่อทะเบียนและภาษีสรรพสามิต นอกจากนี้ต้องปรับเปลี่ยนยานยนต์ดีเซลมาใช้ระบบไฟฟ้า เริ่มจากรถในภาครัฐ และรถวิ่งสาธารณะ ควรกำหนดเงือนไขในการสัมปทานว่าผู้ประกอบการจะต้องเสนอใช้ยานยนต์ไฟฟ้าโดยมีเงื่อนไขไม่เป็นภาระกับผู้บริโภคและขอสนับสนุนจากรัฐในการตรึงราคาค่าโดยสาร ส่วนการปรับเปลี่ยนรถที่เหลือให้มาใช้ระบบไฟฟ้า ควรมีมาตรการจูงใจเช่นระบบภาษี จัดหาสถานีเติมไฟให้มีจำนวนเพียงพอ และเรียกประชุมผู้ประกอบการทุกภาคส่วนเพื่อกำหนดวันให้ชัดเจนตั้งเป้าให้มีการใช้รถยนต์ระบบไฟฟ้าทั้งประเทศ
ส่วนปัญหาเผาไหม้ในพื้นที่โรง เมื่อถึงฤดูเก็บเกี่ยว ทุกหน่วยงานของรัฐจะต้องเข้าไปให้ข้อเสนอหรือสนับสนุนเกษตรกรเช่น เครื่องจักร รถตัด หรือสนับสนุนให้เพิ่มมูลค่า เช่นผลิตก้อนฟาง และมาตรการครบวงจรในระยะยาว “

หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวอีกว่า ต้องเพิ่มพื้นที่สีเขียวในเมือง มีการปลูกต้นไม้ และพื้นที่ของเอกชนที่รกร้างว่างเปล่าควรใช้มาตรการภาษีให้ปรับเป็นพื้นที่สีเขียว โดยเฉพาะภาษีที่ดิน อย่างไรก็ตาม ปัญหาฝุ่นพิษไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในประเทศไทยประเทศเดียว เราควรใช้โอกาสที่จะเราเป็นเจ้าภาพจัดประชุมอาเซียนในปีนี้กำหนดวาระ “อากาศสะอาดในอาเซียน”เป็นหัวข้อหลัก เพราะหลายประเทศในอาเซียนก็เกิดปัญหาเช่นเดียวกัน ดังนั้นขอให้รัฐบาลเร่งดำเนินการในส่วนที่สามารถที่ทำได้ โดยเฉพาะการบังคับใช้กฎหมายกับผู้ที่ฝ่าฝืนและก่อให้เกิดปัญหาอย่างเคร่งครัดและลงโทษสถานหนัก

สำหรับ 7 มาตรการ “อากาศสะอาด” ของพรรคประชาธิปัตย์ ได้แก่
1. ยกระดับยานยนต์ไทย
2. ทุกจังหวัดเข้มงวดการเผาไหม้พื้นที่เกษตร
พร้อมมีมาตรการส่งเสริมทางเลือกให้เกษตรกร
3. งด 100% การออกใบอนุญาตโรงงานอุตสาหกรรมที่เป็นพิษในกรุงเทพฯ
และปริมณฑล และยุติการออกสิทธิ BOI แก่โรงงานที่เป็นพิษทั่วประเทศ
4. เปิดโครงการติดตั้งระบบตรวจสอบคุณภาพอากาศจากปล่องอัตโนมัติทุกโรงงาน
5. ส่งเสริมพลังงานสะอาดยืนยัน “ปฏิเสธโรงไฟฟ้าถ่านหิน”
6. อากาศยั่งยืน เมืองสีเขียว เพิ่มพื้นที่สีเขียวเท่าตัวในกรุงเทพฯ
และปริมณฑตามเกณฑ์ WHO
7. ริเริ่ม Asean Clean Air Initiatives