จับเว็บฯข่าวปลอม เสียชีวิตจากฝุ่นพิษ เจอคุก 5 ปี ปรับ 1 แสน

จับเว็บฯข่าวปลอม เสียชีวิตจากฝุ่นพิษ เจอคุก 5 ปี ปรับ 1 แสน

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(ผบช.สตม.) แถลงข่าวที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.)ถึง การจับกุมนายวัฒนาพงษ์ พิธาวัฒนฐิติกุล อายุ 36 ปี ชาว กทม. ซึ่งเป็นเจ้าของเว็บไซต์ที่เผยแพร่ข่าวเท็จว่ามีผู้เสียชีวิตจากค่าฝุ่นละอองในอากาศ PM2.5 เกินมาตรฐาน โดยเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวได้เมื่อวันที่ 27 ม.ค.ที่ผ่านมา

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวสืบเนื่องจาก ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ได้ตรวจสอบพบข้อมูลข่าวที่เป็นเท็จปรากฏในเว็บไซต์ “www.bangpunsara.com” มีข้อความพาดหัวข่าวว่า “สังเวย 1ศพ PM2.5” เผยแพร่ โดยอ้างว่าค่าฝุ่นละอองในอากาศ PM 2.5 เกินมาตรฐานในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและปรากฏภาพผิวหนังของหญิงลักษณะพุพองที่แผ่นหลัง ใบหน้า ลำคอ ไหล่ รักษาตัวอยู่ใน โรงพยาบาล ซึ่งจากการตรวจสอบข้อเท็จจริงมีการยืนยันจากกระทรวงสาธารณสุข และ บก.ปอท. ว่า ข่าว ดังกล่าวไม่เป็นความจริง การกระทำดังกล่าวเป็นเหตุให้ประชาชนทั่วไปอาจเกิดความสับสน หลงเชื่อและ แชร์ข้อมูลจนอาจก่อให้เกิดความตื่นตระหนกในหมู่ประชาชนได้ เข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2560 มาตรา 14(2)

จากเหตุดังกล่าวจึงได้สั่งการให้ พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ ผบก.จร./รอง ผอ.ศปอส.ตร. ตั้งทีมดำเนินการสืบสวนเร่งรัดติดตามจับกุมผู้จัดทำเว็บไซต์ที่นำเข้าข้อมูล ข่าวที่เป็นเท็จดังกล่าว โดยมอบหมายให้ ศปอส.ตร. ชุดปฏิบัติการที่ 20-25 (Online Team) ดำเนินการ สืบสวนจับกุม จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน กก.3บก.ปอท. เพื่อ ขออนุมัติศาลอาญา ออกหมายจับผู้ต้องหาที่ก่อเหตุ

ทั้งนี้ ในวันที่ 27 ม.ค. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหารายดังกล่าวได้ และแจ้งข้อหา “นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดย ประการที่น่าจะก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน” มีอัตราโทษจาคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่ เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

นอกจากนี้ทาง ศปอส.ตร. ยังได้ตรวจสอบพบเว็บไซต์อื่นที่มีการกระทำผิดเช่นเดียวกัน ได้แก่ “www.gmmwork.com” และ “www.jookthai.com” แต่ผู้กระทำผิดมีการปกปิดข้อมูล ชื่อผู้ลงทะเบียนและมีที่ตั้งของเว็บไซต์ (SERVER) อยู่ในต่างประเทศ จึงประสานความร่วมมือกับสานักงาน กสทช. ในการระงับการทำให้ แพร่หลายซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์เพื่อปิดกั้นไม่ให้ประชาชนสามารถเข้าถึงเว็บไซต์ดังกล่าวได้อีกต่อไป

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ยังกล่าวอีกว่า ขอเตือนเจ้าของเว็บไซต์ข่าวสารต่างๆ ให้ใช้ความระมัดระวังตรวจสอบความถูกต้องก่อนที่จะโพสต์ข้อมูล ข่าวสารลงในเว็บไซต์ และประชาชน พึงระมัดระวังในการส่งต่อข้อมูลข่าวสารผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ ควรส่งต่อข้อมูล ที่ได้มาจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ หากโพสต์หรือส่งต่อข้อมูลที่บิดเบือนไม่เป็นความจริงจนเกิดความเสียหายต่อการรักษาความ มั่นคงปลอดภัยของประเทศ หรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกในหมู่ประชาชน อาจเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ โดยผู้ที่เผยแพร่หรือส่งต่อ ข้อมูลที่เป็นความผิดดังกล่าวต้องได้รับโทษเช่นเดียวกันกับผู้โพสต์