คาด ‘แอปเปิล’หั่นราคา ‘ไอโฟน’ในจีน

คาด ‘แอปเปิล’หั่นราคา ‘ไอโฟน’ในจีน

แอปเปิล ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีการสื่อสารจากสหรัฐอเมริกา ระบุตัวเลขผลประกอบการในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2561 พบว่า รายได้หลักของบริษัทจากผลิตภัณฑ์ “ไอโฟน” ที่เป็นสินค้าหลักที่มียอดขายที่อยู่ในเกณฑ์ดีมาอย่างต่อเนื่องนั้น ผลปรากฎว่ายอดขายไอโฟนลดลงถึง 15% และส่งผลให้รายได้รวมของ แอปเปิลตลอดทั้งปี 2561 ลดลงจากปีที่ผ่านมาถึง 5% โดยมีรายได้รวมอยู่ที่ 84,310 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 2.5 ล้านล้านบาท
อย่างไรก็ตาม แม้ยอดขายไอโฟนจะลดลงเป็นประวัติการณ์ แต่แอปเปิลยังได้ส่วนแบ่งรายได้จากกลุ่มผลิตภัณฑ์อื่นๆ ทั้ง ริการแอปเปิล เพย์, แอปเปิล มิวสิก และไอคลาวด์ ที่มีการปรับตัวขึ้นถึง 19% และช่วยพยุงรายได้ของบริษัทได้มากถึง 10,000 ล้านดอลล่าห์สหรัฐฯ หรือราว 3 แสนล้านบาท
กระนั้นก็ตาม แอปเปิล แถลงการณ์ยอมรับว่าสำหรับรายได้ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2562 รายได้ของบริษัทน่าจะลดลงไปอีกอย่างน้อย 3.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าน่าจะเป็นผลมาจากรายได้ของ “ไอโฟน” ที่เป็นหัวใจของบริษัทยังทำยอดขายได้ไม่ดีนัก บวกกับปัญหาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ – จีนที่ยังคงคุกกรุ่นอยู่ในขณะนี้ จึงส่งผลให้แอปเปิลต้องสูญเสียรายได้จากการขายไอโฟน
สื่อหลายสำนัก รายงานว่า ทิม คุก ซีอีโอของแอปเปิล ระบุเชิงยอมรับว่า ราคาของไอโฟนที่แพงขึ้นกว่าเดิมในรุ่นใหม่ มีผลอย่างมากต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค และเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ยอดขายตกลงจากเดิมอย่างมาก แต่แอปเปิล มีแนวทางที่จะเริ่มปรับ “ราคา” ของไอโฟนบางรุ่นที่วางขายในบางประเทศ เพื่อให้สอดคล้องกับรายได้ และสภาวะการใช้จ่ายของคนในประเทศนั้นๆ เพื่อให้เข้าถึงไอโฟนได้มากขึ้น รวมถึงเป็นการช่วยยอดขายของไอโฟนให้กลับมาเป็นบวกอีกครั้ง
แต่หลังจากที่ ทิม คุกออกมาให้สัมภาษณ์จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีรายงานว่าประเทศใด และไอโฟนรุ่นใดบ้างที่จะถูก “หั่นราคา” แต่ก็มีการคาดการณ์ออกมาอีกเช่นกันว่า ประเทศที่อาจจะได้ซื้อไอโฟนแบบลดราคา น่าจะเป็นที่จีน ฮ่องกง มาเก๊า และไต้หวัน ซึ่งกลุ่มประเทศเหล่านี้มียอดขายไอโฟนที่ตกต่ำลงอย่างมาก อันมาจากปัญหาข้อพิพาทเรื่องหัวเว่ยกับทางการสหรัฐฯ และได้ปลุกกระแสชาตินิยมของคนจีนอย่างหนักหน่วง จึงส่งผลให้ผลิตภัณฑ์จากสหรัฐฯ อย่างไอโฟนต้องได้รับผลกระทบไปด้วย