บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ 1,200 ปี! – เก็บตัวอย่างน้ำศักดิ์สิทธิ์ วัดพระบรมธาตุไชยาฯ สุราษฎร์ธานี ตรวจคุณภาพน้ำ เตรียมใช้ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก โดยเฉพาะการเตรียมพิธีตักน้ำจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ทั่วประเทศว่า กำหนดการเบื้องต้นในวันที่ 6 เมษายนนี้ จะเป็นพิธีพลีกรรมตักน้ำทั่วประเทศ จากนั้นในวันที่ 8 เมษายน จะมีพิธีเสกน้ำในวัดในพื้นที่ต่างๆ และจะนำน้ำมาเข้าพิธีอภิเษกในวันที่ 18 เมษายนที่วัดสุทัศน์เทพวรารามราชวรวิหาร และวันที่ 19 เมษายน จะเป็นพิธีอัญเชิญน้ำที่ผ่านการประกอบพิธีไปที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม
ทั้งนี้ ในพื้นที่ต่างจังหวัด ผู้ว่าราชการจังหวัดจะเป็นผู้ตักน้ำ บางจังหวัดที่มีแหล่งน้ำหลายแห่งจะมีรองผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นผู้ตัก ซึ่งจะมีฤกษ์วันและเวลาที่ตักน้ำพร้อมกันทั่งประเทศ โดยมีแหล่งน้ำทั่วประเทศ 107แห่ง และกทม. 1 แห่ง รวมเป็น 108 แห่ง
สำหรับที่ จ.สุราษฎร์ธานี ใช้น้ำศักดิ์สิทธิ์ที่วัดพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหาร อ.ไชยา เป็นวัดอารามหลวงชั้นเอก ล่าสุดวันนี้ (29 ม.ค.62)ทางสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาค14 (สุราษฎร์ธานี) ได้เก็บตัวอย่างน้ำศักดิ์สิทธิ์ 2 ขวด 2 ลิตรจาก 2 บ่อ ที่มีตาน้ำตั้งแต่สมัยศรีวิชัย 1,200 ปี คือ ที่ฐานพระบรมธาตุไชยาฯ กับบ่อน้ำตรงข้างวิหารโบสถ์เพื่อตรวจสอบคุณภาพน้ำใช้เวลาตรวจสอบประมาณ 1 สัปดาห์
พระครูจิรเจติยาทร (เชษฐกร) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหาร กล่าวว่า บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่วัดพระบรมธาตุไชยาฯ เป็นแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์มาตั้งแต่สมัยศรีวิชัย อายุประมาณ 1,200 – 1,300 ปีและก่อนหน้านี้ได้ใช้น้ำจากบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ร่วมพิธีพระบรมราชาภิเษกในหลวงรัชกาลที่ 9 เมื่อปี 2493 มาแล้ว ในสมัยที่ท่านพุทธทาสภิกขุเป็นเจ้าอาวาส
ทั้งนี้ ในงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของพระมหากษัตริย์ไทย มีขั้นตอนที่สำคัญอยู่ประการหนึ่ง คือ การทรงรับน้ำอภิเษก เพื่อแสดงความเป็นเจ้าเป็นใหญ่ในแว่นแคว้นทั้ง 8 กล่าวคือ หลักการราชาภิเษกนั้น มีรดน้ำ แล้วเถลิงราชาอาสน์เป็นอันเสร็จพิธี นอกนั้นเป็นพระราชพิธีส่วนประกอบ ซึ่งอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามกาลสมัย
ที่มาข่าว : banmuang