ค้าชายแดนปี’61 ยอดพุ่ง 1.4 ล้านล้านบาท โต 6%

ค้าชายแดนปี’61 ยอดพุ่ง 1.4 ล้านล้านบาท โต 6%


กรมการค้าต่างประเทศเผยตัวเลขน่าชื่นใจ ยอดค้าชายแดน-ผ่านแดนปีที่แล้วทะลุ 1.4 ล้านล้าน ตั้งเป้าปีนี้ดันยอดโต 15% แต่หวั่นสงครามการค้าพาฉุด

กรมการค้าต่างประเทศ วันที่ 25 มกราคม 2562 – นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า มูลค่าการค้าชายแดนและผ่านแดนของไทย ปี 2561 มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 1,392,629 ล้านบาท ขยายตัว 5.58% โดยเป็นการส่งออก 778,292 ล้านบาท ลดลง 0.76% และการนำเข้า 614,337 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.87% เกินดุลการค้า 163,954 ล้านบาท แบ่งเป็นการค้าชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน 4 ประเทศ มูลค่า 1,124,673 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.01% เป็นการส่งออก 650,909 ล้านบาท ลดลง 0.54% นำเข้า 473,764 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.99% เกินดุลการค้า 177,145 ล้านบาท และการค้าผ่านแดนกับ 3 ประเทศ มูลค่า 267,956 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.68% เป็นการส่งออก 127,383 ล้านบาท ลดลง 1.91% นำเข้า 140,573 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30.24% ขาดดุลการค้า 13,191 ล้านบาท

ทั้งนี้ การค้าชายแดนแยกเป็นรายประเทศ พบว่า มาเลเซียยังครองความเป็นคู่ค้าอันดับหนึ่งของไทย มูลค่า 571,928 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.29% เป็นการส่งออก 293,808 ล้านบาท ลดลง 5.97% นำเข้า 278,120 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.29% ตามมาด้วย สปป.ลาว มูลค่า 213,619 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.17% เป็นการส่งออก 128,867 ล้านบาท ลดลง 1.83% นำเข้า 84,752 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.83% เมียนมา มูลค่า 193,327 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.88% เป็นการส่งออก 105,212 ล้านบาท ลดลง 3.45% นำเข้ามูลค่า 88,114 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.92% และกัมพูชา มูลค่า 145,799 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.39% เป็นการส่งออก 123,022 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.93% นำเข้า 22,778 ล้านบาท ลดลง 3.24%

ส่วนการค้าผ่านแดน จีนตอนใต้เป็นคู่ค้าอันดับหนึ่งของไทย มูลค่า 103,451 ล้านบาท รองลงมา คือ สิงคโปร์ มูลค่า 86,195 ล้านบาท และเวียดนาม มูลค่า 78,310 ล้านบาท

นายอดุลย์กล่าวว่า “การค้าชายแดนและผ่านแดนปี 2562 ตั้งเป้าหมายไว้ที่มูลค่า 1.6 ล้านล้านบาท ขยายตัว 15% โดยเตรียมแผนงานผนึกกำลังภาครัฐและเอกชนจัดกิจกรรมส่งเสริมและขับเคลื่อนเศรษฐกิจตามแนวชายแดนและตามเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษให้เป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น สอดรับที่ไทยจะเป็นประธานอาเซียนปี 2562 ตามแนวคิดหลัก “ร่วมมือ ร่วมใจ ก้าวไกล ยั่งยืน”

อย่างไรก็ตาม ปัจจัยเสี่ยงที่จะต้องติดตามในปี 2562 ได้แก่ สงครามการค้าที่ยังไม่มีข้อยุติ ภาวะเศรษฐกิจโลกที่ยังมีความผันผวนอยู่ตลอดเวลา ความไม่มีเสถียรภาพของค่าเงินของแต่ละประเทศ ตลอดจนปัญหาอุปสรรคอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้น

ส่วนกิจกรรมที่จะดำเนินการ เช่น โครงการ YEN-D (Young Entrepreneur Network Development Program) ซึ่งในปี 2562 จะขยายไปสู่อาเซียนอื่นนอกเหนือจาก CLMV ในชื่อโครงการ YEN-D PLUS ขยายไปยังประเทศอินโดนีเซียและประเทศมาเลเซีย ซึ่งไตรมาสแรกของปี 2562 จะเริ่มจากประเทศไทย-ประเทศอินโดนีเซีย ในเดือนมีนาคม 2562 และจะจัดโครงการ YEN-D Frontier โดยเน้นผู้ประกอบการรุ่นใหม่ของไทยในจังหวัดชายแดนกับผู้ประกอบการใน CLMV มีกำหนดจัดกิจกรรมที่จังหวัดตาก จังหวัดสระแก้ว และจังหวัดนครพนม และยังมีกิจกรรมอื่นๆ เช่น งานมหกรรมการค้าชายแดน 4 ภูมิภาค เริ่มจากอำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ต่อด้วยอำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส รวมทั้งจะจัดอบรมสัมมนาผู้ประกอบการในพื้นที่ชายแดนและเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ 10 จังหวัด และอื่นๆ เช่น การให้บริการ e-DFT เพื่ออำนวยสะดวก ลดขั้นตอน/เอกสารให้สะดวกต่อการค้าขายมากยิ่งขึ้น