พรรคเพื่อชาติเตรียมแถลงนโยบาย 1 กุมภาพันธ์นี้ ย้ำนโยบายเงินสวัสดิการผู้สูงวัยเดือนละ 2000 บาทตลอดชีพ จุดเริ่มรัฐสวัสดิการ พร้อมเรียกร้องพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ลาออกจากทุกตำแหน่ง จะได้ไม่เป็นภาระ 4 รัฐมนตรี
ที่ สถาบันพัฒนาการเมือง พรรคเพื่อชาติ อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงพรรคเพื่อชาติ กล่าวว่า ครั้งนี้ตนคิดว่าใกล้ความจริงเรื่องวันเลือกตั้งมากที่สุดในรอบห้าปี หลังจากมีการเลื่อนมาแล้วกว่าห้าครั้ง แม้ว่าพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง จะไม่ใช่คำตอบสุดท้ายของประเทศไทยก็ตาม ภาระหน้าที่ของพรรคเพื่อชาติในฐานะที่ตนเป็นผู้ช่วยหาเสียง ก็จะร่วมนำนโยบายของพรรคเพื่อชาติ มาอธิบายความให้กับประชาชนได้รับทราบและมีความเข้าใจโดยทางพรรคเพื่อชาติ จะแถลงนโยบายอย่างเป็นทางการอีกครั้งในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ เวลา 13.00 น. ณ ห้องอภิวันท์ วิริยะชัย ชั้น 5 อิมพีเรียล ลาดพร้าว ซึ่งในวันนั้นพรรคเพื่อชาติจะนำเสนอ ชุดนโยบายในเรื่องการแก้ไขปัญหาความยากจน อย่างเป็นระบบ จนกระทั่งการแก้ไขปัญหาชาติในแต่ละด้าน
นายจตุพร ยังกล่าวด้วยว่า ตนขอเรียกร้องไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. อีกครั้งหนึ่งว่า ได้เวลาแล้วที่ท่านจะต้องตัดสินใจให้เด็ดขาด ไม่ควรจะกั๊ก ว่าจะรอใครทาบทาม เพราะทุกคนต่างเห็นกันอย่างชัดเจน ว่าพรรคพลังประชารัฐได้ทาบทามท่านทุกวันบนเวที และด้วยการสัมภาษณ์สื่อมวลชน ตนต้องการความชัดเจน ของพล.อ.ประยุทธ์ เมื่อท่านได้ตกปากรับคำว่าอยู่ในบัญชีพรรคพลังประชารัฐแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ ต้องลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. มิฉะนั้นท่านจะเป็นคนเอาเปรียบมากที่สุดในการเลือกตั้งครั้งนี้ พลเอกประยุทธ์ ควรที่จะร่วมกันเสียสละ ตนจะไม่เรียกร้องให้ 4 รัฐมนตรีลาออก แค่พลเอกประยุทธ์ ลาออกไปคนเดียว 4 รัฐมนตรีเหล่านี้ ก็จะไปโดยปริยายจะอยู่แล้ว วันนี้พลเอกประยุทธ์เรียกร้องให้ประเทศเดินหน้าด้วยความสงบ ตนก็ขอความร่วมมือพล.อ.ประยุทธ์ เพื่อให้ประเทศเดินหน้าด้วยความสงบ ท่านต้องเป็นแบบอย่างเรื่องการไม่เอารัดเอาเปรียบ ถ้าได้เปรียบจนกระทั่งเอาเปรียบท่านจะเสียมากกว่าได้ เพราะฉะนั้นให้ดูบทเรียนบรรดารุ่นพี่ๆของท่านว่าท้ายที่สุดนั้นจบไม่สวยสักคน
ถ้าท่านมั่นใจในคะแนนเสียงของพรรคพลังประชารัฐ ก็ควรจะตัดสินใจให้ชัดเจน อย่างน้อยที่สุดเราก็จะได้เริ่มต้นต่อสู้กันอย่างที่โลกศิวิไลซ์เขาทำกัน ในระบอบประชาธิปไตย ตนไม่ได้เสนออย่างคนที่เป็นศัตรู แต่ตนเสนอเพื่อหาทางออก อย่างที่พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์องคมนตรี ได้ให้โอวาท ว่าต้องมองคนที่เห็นต่างอย่างมิตร อย่ามองอย่างศัตรู เราจะได้เดินหน้าต่อกันไปได้ ตนเชื่อว่า 4 รัฐมนตรีก็รอพลเอกประยุทธ์ เพราะถ้าตัดสินใจออกก่อนความกดดันจะมาอยู่ที่พลเอกประยุทธ์ เพราะฉะนั้นอย่าให้เป็นภาระของ 4 รัฐมนตรี
นายจตุพร ยังกล่าวอีกว่า ประเทศไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ประเทศไทยเดินมาถึงจุดที่จะมีประชากรผู้สูงอายุถึง 1 ใน 5 มากกว่าคนรุ่นใหม่อายุ 18-25 ปีถึง 2 เท่า ดังนั้นพรรคเพื่อชาติได้คิดแล้วว่าเราไม่ได้ละเลยคนรุ่นใหม่แต่เราต้องไม่ลืมผู้สูงวัยเพราะฉะนั้นเบี้ยยังชีพเป็นเงินสวัสดิการ ซึ่งปกติมีการเริ่มต้นแบบขั้นบันได ซึ่งเราเองเห็นว่าไม่สอดคล้องกับค่าครองชีพ ความเป็นจริง ณ ปัจจุบัน เพราะฉะนั้นนโยบายของพรรคเพื่อชาติชัดเจนก็คือว่าจะให้เงินยังชีพผู้สูงอายุ 2,000 บาททุกเดือนตั้งแต่อายุ 60 ปีขึ้นไป โดยให้เสมอกันไม่เป็นขั้นบันไดและถ้าวันข้างหน้าเศรษฐกิจของชาติดีขึ้นก็จะเพิ่มเป็น 3000 หรือมากกว่านั้น ในวันนี้เราต้องเดินไปสู่คำว่ารัฐสวัสดิการ โดยเฉพาะการดูแลผู้สูงวัยเพื่อให้เขาได้ยืนหยัดอย่างมีศักดิ์ศรีในสังคมไทยอย่างเสมอภาคกัน