สนช. ชี้ เวลารับรองผลฯไม่ นับรวมวันจัดการเลือกตั้ง 150 วัน

สนช. ชี้ เวลารับรองผลฯไม่ นับรวมวันจัดการเลือกตั้ง 150 วัน


“พรเพชร” ชี้ชัดปม 150 วัน คนละเรื่องกัน ต้องแยกการเลือกตั้ง ออกจาก ระยะเวลารับรองผล ย้ำมีเวลารับรองผล 60 วันจากวันเลือกตั้ง โวยอย่าเอามาขู่กกต. แนะ ส่งศาลรธน.ชี้ หวั่นเกิดข้อพิพาท เผย สนช. พร้อมยุติบทบาท ออกกม. 1 สัปดาห์ก่อนกาบัตรเลือกตั้ง

นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กล่าวถึงความเห็นในเรื่องระยะเวลาดำเนินการเลือกตั้ง 150 วัน ตามรัฐธรรมนูญว่า ในฐานะที่ สนช. มีส่วนพิจารณาทั้งรัฐธรรมนูญและกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญเห็นว่า เรื่องการจัดการเลือกตั้ง และ ระยะเวลาการประกาศรับรองผลเลือกตั้งส.ส.เป็นคนละมาตรากัน ไม่ใช่เรื่องเดียวกัน โดยการประกาศผลรับรองการเลือกตั้งส.ส.นั้น จะนับจาก วันเลือกตั้งไป 60 วัน อย่าเอามาปนกันให้สับสน หรือมาขู่ กกต.ว่า มีความผิด ต้องชดใช้ค่าเสียหาย หากไม่เร่งดำเนินการให้เสร็จภายในเวลา150 วัน ทั้งนี้หากมีคนไปร้องเรียน เรื่อง การทุจริตเลือกตั้งหลังกรอบเวลา 150 วัน แต่กกต.ไม่รับร้องเรียนอ้างว่า หมดเวลาแล้ว อาจเกิดปัญหาความวุ่นวายตามมาได้

 

” กกต.ควรสร้างความชัดเจนเรื่องนี้ ถ้าไม่แน่ใจให้ถามศาลรัฐธรรมนูญ การไปรับรองผลอย่างรวดเร็วเพราะเกรงจะครบเงื่อนเวลา150 วัน ไม่ใช่เหตุผล อาจนำไปสู่ข้อขัดแย้งและข้อพิพาทในชั้นศาลตามมาได้ อย่าไปฟังนักกฎหมายบางคน ไม่อยากให้บ้านเมืองวุ่นวายโดยการตีความกฎหมายผิดพลาด คนที่ว่าผมวันนี้ ขอให้ไปดู กรณีที่ส่งเรื่องไปให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.ว่า มีคำวินิจฉัยว่ากฎหมายลูกขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ คนด่าคงลืมไปแล้ว”นายพรเพชร กล่าว

นายพรเพชร ยังกล่าวด้วยว่า หลังกกต.ประกาศวันเลือกตั้ง 24 มี.ค 2562 แล้ว จากนี้ไป สนช.จะพยายามเร่งรัดการพิจารณากฎหมายที่ค้างอยู่ในสภาวาระ 2-3 ประมาณ 100 ฉบับ ให้เสร็จมากที่สุดด้วยความรอบคอบ ตั้งเป้าว่า 1 สัปดาห์จะพิจารณาให้เสร็จ 10-15 ฉบับ แม้ตามไทมไลน์แล้วสนช.จะทำงานได้ถึงก่อนวันเปิดประชุมสภาครั้งแรก แต่สนช.คำนึงถึงมารยาทและความเหมาะสม ดังนั้นจะหยุดพิจารณากฎหมายทุกฉบับ1สัปดาห์ก่อนการเลือกตั้ง ยกเว้นจะมีเร่งด่วนสำคัญจริงๆ เช่น สนธิสัญญาระหว่างประเทศที่ต้องเร่งลงนาม เรื่องร้ายแรงที่ต้องออกเป็นพระราชกำหนด หรือเรื่องเร่งด่วนที่มีความสำคัญจริงๆ

ส่วนการพิจารณาแต่งตั้งคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนที่ยังค้างอยู่ในสนช.นั้น ในขั้นตอนการคัดเลือกของกรรมการสรรหา ที่ไม่เกี่ยวกับสนช.คงดำเนินการต่อไป แต่เมื่อเรื่องมาถึงสนช.แล้ว คงต้องรอให้สภาฯชุดใหม่เป็นผู้พิจารณา