สมาชิกพรรคเพื่อไทย (เก่า) เดินทางมารายงานตัว รับการตรวจสอบทะเบียน และรับบัตรเพื่อเข้าร่วมประชุม ในห้องประชุมของสำนักงาน ส่วนผู้ที่เดินทางมาสมัครสมาชิกใหม่ ได้จัดให้ลงทะเบียนในเต้นท์ สนามหญ้าหน้าสำนักงาน โดยยื่นหลักฐานบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน รูปถ่ายหน้าตรง2รูป โดยมีบริการถ่ายภาพ และถ่ายเอกสาร พร้อมจ่ายค่าบำรุงพรรค1ปี100บาท ตลอดชีพ2,000บาท แต่ยังไม่มีสิทธิเข้าร่วมประชุม
เวลา10.30น. นายสมัคร บุญปก รองนายก อบจ.อุดรธานี ในฐานะสมาชิกพรรค เริ่มกระบวนการประชุม ว่าผู้ประชุมมาครบองค์ประชุม168คน และเชิญนายศราวุธ เพชรพนมพร ที่รับมอบหมายจากพรรคเป็น ประธานที่ประชุม. และนางเทียบจุฑา ขาวขำ เป็นเลขาฯที่ประชุม โดยมีนายชัชวาลย์ ลือคำหาญ นายก ทต.กุดจับ ในฐานะนักกฎหมาย อธิบายระเบียบ และขั้นตอนกฎหมายเป็นระยะ
นายศราวุธ เพชรพนมพร ได้แจ้งให้ผู้ที่ไม่ใช่สมาชิก รวมทั้งสื่อมวลชนออกจากห้อง และห้ามบันทึกภาพ ก่อนเข้าวาระแจ้งที่ประชุม ความเป็นมาการประชุมครั้งนี้ จากนั้นร่วมกันพิจารณาชื่อสาขาพรรคว่า สาขาพรรคเพื่อไทย สาขาลำดับที่1อุดรธานี (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สถานที่ตั้งสาขาพรรคฯอยู่เลขที่444ม.4ซอยสุนทรสัจจบูรณ์ ถนนอุดรธานี-กุดจับ ต.บ้านเลื่อม อ.เมือง จ.อุดรธานี จากนั้นดำเนินการเลือกกรรมการบริหารสาขาพรรค
โดยสมาชิกได้เสนอชื่อแต่ละตำแหน่งเพียง1คน และให้สมาชิกหย่อนบัตรลงคะแนนในกล่องเป็นคะแนนลับ ประกอบด้วย หน.สาขาพรรค เสนอชื่อนายสนิท วงศ์แสงตา อดีต ผอ.รร.สตรีราชินูทิศ ได้165คะแนน เป็นอันดับแรก ที่เหลือลงคะแนนพร้อมกัน คือ รอง หน.สาขาพรรค นายสุชาติ ศิริโยธา,เลขาฯ พ.ต.อ.เดช กองทอง,รองเลขาฯ นายสง่า ภักดี,เหรัญญิก ทักษพล โคตรชมพู,นายทะเบียน นายชัชวาลย์ ลือคำหาญ,โฆษกสาขาพรรค นางสว่างศรี บุญประสิทธิ์ และกรรมการพรรคฯ นายสุรศักดิ์ พิทักษ์บ่อแก้ว อีก2ตำแหน่งยังไม่เลือก
หลังจากปิดการประชุมจัดตั้งสาขาพรรคเพื่อไทย พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ รักษาการ หน.พรรคเพื่อไทย พร้อมรอง หน.พรรคเพื่อไทย ได้มอบเสื้อแจ็คเก็ตพรรคเพื่อไทย มอบให้กรรมการสาขาพรรคเพื่อไทย พร้อมแสดงความยินดี ถ่ายภาพร่วมกับกรรมการพรรคสาขา,ถ่ายภาพร่วมกับ อดีต ส.ส.อุดรธานี อดีต ส.ส.ที่เดินทางมาร่วมงาน ตลอดจนถ่ายภาพร่วมกับ ส.อบจ.อุดรธานี และเดินทักทายสมาชิกพรรคที่มาร่วมประชุม
นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รอง หน.พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ปัญหาของประเทศไทยในขณะนี้ คือ รวยกระจุก จนกระจาย พรรคเพื่อไทยจะติดต่อเพื่อรับฟังปัญหาของพี่น้องประชาชนว่าคืออะไร เราจะได้มาช่วยกันคิดว่าเราจะนำเสนอนโยบายเพื่อแก้ปัญหาของพี่น้องประชาชนได้อย่างไร ในข้อบังคับพรรค ก็มีนโยบายพรรค ศึ่งเรารับฟังความเห็นจากพี่น้องประชาชน เพื่อจะดูว่าจะทำอย่างไร ที่จะชูให้ประเทศไทย ให้พ้นจากปัญหาที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ท่านทั้งหลายได้มามีส่วนร่วม ในการเลือกคณะกรรมการสาขาพรรค โดยคณะกรรมการสาขาก็จะร้อยปัญหาของท่าน ไม่ว่าจะเป็นกลไกทางการเมือง และตัวผู้สมัคร ไปสู่คณะกรรมการบริหารของพรรค ที่จะมีการเลือกในวันที่ 28 ตุลาคม นี้
นายศราวุธ เพชรพนมพร อดีต ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การประชุมวันนี้เป็นไปตามมติของกรรมการบริหารพรรคฯ ที่ให้จัดตั้งสาขาพรรคเพื่อไทยให้ครบทั้ง 4 ภาค โดยจังหวัดอุดรธานี เป็นสาขาที่หนึ่ง และกำหนดการประชุมขึ้นในวันนี้ และต่อไปทางพรรคก็จะทำการเปิดสาขาพรรคให้ครบหมดทั้ง 4 ภาค ภาคเหนือเชียงใหม่ ภาคกลาง สมุทรปราการและภาคใต้ที่สงขลาซึ่งเป็นไปตามมติพรรคเพื่อไทย และตามรัฐธรรมนูญ ที่กำหนดว่า พรรคการเมืองเก่าที่มีอยู่แล้ว จะส่งผู้สมัครได้ ต้องมีสาขาพรรคให้ครบทั้ง 4 ภาค
ผู้สื่อข่าวถามว่า เขตเลือกตั้งที่ลดลงไป จะทำให้มีปัญหาในพื้นที่หรือไม่ นายศราวุธฯ ตอบว่า ในส่วนของตัวผู้สมัครจังหวัดอุดรธานีเป็นเรื่องที่ผู้หลักผู้ใหญ่ของพรรคจะมีการพูดคุยกัน ซึ่งก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร ในส่วนของหน้าที่สาขาพรรคก็จะมีหน้าที่ในการทำงานการเมือง ที่ทางพรรคเพื่อไทยจะได้มอบหมายให้ทำให้สอดคล้องกัยนโยบายของพรรค ส่วนของ พล.ต.อ.ประชาพรหมนอก อดีตรองหัวหน้าพรรคฯ ในขณะนี้ตนยังไม่ได้พูดคุยกันว่า จะลงสมัครรับเลือกตั้งหรือไม่
ด้าน พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ รักษาการ หน.พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่ามีคำสั่งที่ 13/61 พูดเรื่องการเปิดสาขาพรรคการเมือง ถ้าพรรคไม่มีสาขาทุกภาค อาจจะสมัครไม่ได้ พรรคจึงจำเป็นต้องมาเปิดสาขาพรรคใหม่ รวมทั้งตั้งตัวแทนประจำจังหวัดด้วย อุดรธานีเป็นจังหวัดแรกที่รับสมัครสมาชิกเพื่อสาขาพรรค พรุ่งนี้จะไปรับสมัครสมาชิกและเปิดสาขาพรรคที่ จ.เชียงใหม่ ต่อไปก็จะไปภาคใต้และภาคกลางตามลำดับ ตัวแทนประจำจังหวัดทางพรรคจะตั้งผู้สมัคร สส.เป็นตัวแทนพรรคเพื่อจะได้ตั้งตัวแทนพรรคประจำจังหวัดต่อไป สาขาพรรคแต่ละภาคจะต้องมีสมาชิกพรรค 500 คนขึ้นไป จึงจะตั้งสาขาพรรคได้ส่วนตัวแทนประจำจังหวัดต้อง 100 คนขึ้นไป
พล.ต.ท.วิโรจน์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้พรรคกำลังเปิดรับสมาชิกใหม่คงจะกระจายไปทั่วทุกเขต ในสัปดาห์หน้าคงจะตั้งตัวแทนพรรค ไปรับสมัครสมาชิกพรรค ในส่วนพรรคเพื่อไทยพร้อมและไม่มีปัญหา ส่วนพรรคเล็กต้องใช้ทรัพยากรมากขึ้น จะต้องส่ง ส.ส.ลงรับเลือกตั้งทุกเขตความได้เปรียบเสียเปรียบนั้นพูดยาก เพราะ คสช.ดีไซด์มาแบบนี้ เท่าที่สังเกตในวันนี้ประชาชน จ.อุดรธานี และจังหวัดใกล้เคียง ให้ความสนใจกันมาก มาต่อคิวสมัครมากน่าปลื้มใจ ให้ความสนใจกับพรรคเพื่อไทย จะเป็นนิมิตรหมายที่ดี ที่มีประชาชนให้การสนับสนุนมาสมัครเป็นสมาชิกกันมาก
“ส่วน ส.ส.พรรคเพื่อไทยที่ย้ายไป ด้วยเหตุผลจำเป็นที่ทราบกันอยู่ มีประมาณ 10 กว่าคน ไม่มาก ทำนองเดียวกันก็มี ส.ส.พรรคอื่นย้ายเข้ามาพรรคเพื่อไทยหลายคน และไม่เป็นอุปสรรคในการทำงาน ซึ่งได้วางตำแหน่ง จ.อุดรธานี เป็นเมืองหลวงของพรรคเพื่อไทย”พล.ต.ท.วิโรจน์ กล่าว