โฮจิมินห์ Grab bike เติบโต แต่บ.แท็กซี่กำลังตาย

โฮจิมินห์ Grab bike เติบโต แต่บ.แท็กซี่กำลังตาย

ทีมข่าว Thaiquote ได้มีโอกาสไปเยือน โฮจิมินห์ สาธารณัฐเวียดนาม ได้สัมผัสวิถีชีวิตของคนเวียดนาม ในหลากหลายมุม โดยเฉพาะปัญหาเรื่องรถบริการสาธารณะ ทีทมีปัญหาราคาแพงและการโก่งราคา และ Grab bike ได้เข้ามาให้บริการเหมือนในหลายๆเมืองทั่วโลก ไปดูกันว่า Grab bike ที่เวียดนาม เป็นอย่างไรบ้าง

เตริ่น มาย เกื่อง มัคคุเทศก์หนุ่มชาวเวียดนาม เล่าให้ฟังว่า รัฐบาลเวียดนามได้อนุญาตให้ Grab ให้บริการด้านการขนส่งสาธารณะได้อย่างถูกกฎหมายมาประมาณ 2 ปีแล้ว ในเมืองใหญ่ 4 เมืองได้แก่ ฮานอย ดานัง โฮจิมินห์ และ ไฮฟง ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดี โดยนอกจากคนเวียดนาม จะได้ใช้บริการในราคาถูกแล้ว ยังช่วยลดปัญหากลโกงของ บรรดารถแท๊กซี่ และวินจักรยานยนต์รับจ้างได้อีกด้วย

นอกจากนี้ยังถือเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว ที่ช่วยให้นักท่องเที่ยวต่างชาติได้รับบริการที่สะดวกสบายและปลอดภัย ทั้งนี้ในนครโฮจิมินห์ ปัจจุบันมีบริการทั้ง Grab bike และ Grab car แล้วหลายหมื่นคัน โดยมีบุคคลสำคัญในรัฐบาลเวียดนาม ร่วมลงทุนและสนับสนุนธุรกิจให้เข้ามาบริการในประเทศ

อย่างไรก็ตาม ปัญหาการทะเลาะเบาะแว้งระหว่าง Grab bike และผู้ให้บริการเดิมอย่าง วินมอเตอร์ไซค์ และ แท็กซี่ ก็ยังคงมีอยู่ให้เห็นเป็นประจำ

บริษัทมายลิน  ผู้ให้บริการแท็กซี่รายใหญ่ กุมขมับ รายงานผลประกอบการของบริษัท ตกต่ำ และ ย่ำแย่ที่สุดในรอบ 5 ปี เช่นเดียวกับ วีนาซัน  ผู้ให้บริการแท็กซี่อีกราย  ผลกำไรลดลงถึง 50% ในปี2560 โดยต่างกล่าวโทษว่า เป็นผลจากการแข่งขันของแอปพลิเคชั่น Grab bike ที่เข้ามาแย่งรายได้

และ สามารถครองพื้นที่ทางธุรกิจ อย่างมีนัยสำคัญ จาก ความโปร่งใสของค่าโดยสาร คุณภาพ การบริการ และ เทคโนโลยี

บริษัทมายลิน  ระบุว่า ธุรกิจขนส่งของตนสูญเงินไปเกือบ 84,000 ล้านด่อง หรือ ประมาณ 127 ล้านบาท ในปี 2559 และผลกำไรสุทธิของบริษัทปี 2560 ลดลงเกือบ 70% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า 

CEO ของบริษัทมายลิน ไม่พอใจอย่างมาก ระบุว่า UBER และ Grab bike เป็นเหตุผลสำคัญทำให้ปี 2559 เป็นปีที่ยากลำบาก  โดยมีการแข่งขันรุนแรง จากการเก็บภาษีไม่เป็นธรรม ตัวอย่างเช่น UBER จ่ายภาษี 3% ขณะที่บริษัทแท็กซี่รายอื่น ต้องจ่ายภาษีถึง 10%  และยังกล่าวโทษ UBER และ Grab bike ทำให้การจราจรแออัด จากจำนวนรถที่เพิ่มขึ้นกว่า 25,000 คัน

บริษัทวีนาซัน กล่าวว่า การแข่งขันกับแอปพลิเคชั่นให้บริการรถยนต์ร่วมโดยสาร ทำให้บริษัทมีผลประกอบการลดลง  ลดลงถึง 48% จากปี 2559

อย่างไรก็ตาม การกล่าวโทษของบริษัทแท็กซี่ท้องถิ่นเหล่านี้ ได้รับเสียงสนับสนุนจากชาวเวียดนาม เพียงเล็กน้อย เพราะที่ผ่านมา ต่างไม่มีความสุข กับ การบริการที่ย่ำแย่ ทั้ง การปฏิเสธรับผู้โดยสารที่เดินทางระยะทางสั้นๆ หรือ ผิดนัดตามคิวจอง

ดังนั้น จึงไม่น่าแปลกใจ ที่ ทุกวันนี้  Grab bike ได้กลายเป็นขวัญใจชาวเวียดนามไปแล้ว !

                                                                                                      

 

คเชนทร์ ผลประดิษฐ์ รายงานจาก เวียดนาม