ถ้าจะว่าไปแล้วก่อนหน้านี้เมื่อปีที่แล้ววันที่ 15 ก.ย. ณ โรงพยาบาลศิริราช เราได้สูญเสียบุคคลสำคัญท่านหนึ่งนั่นคือ นายแก้วขวัญ วัชโรทัย อดีตเลขาธิการพระราชวัง “คู่แฝด” แห่งตระกูลวัชโรทัยที่มีบทบาทสำคัญในฐานะผู้ทำงานสนองใต้เบื้องพระยุคลบาทสืบต่อเนื่องมา 2 รัชกาล นั่นคือรัชกาลที่ 9 ต่อเนื่องในรัชกาลปัจจุบันนั่นคือรัชกาลที่ 10
นายขวัญแก้ว วัชโรทัย เกิดเมื่อวันที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2471 เป็นบุตรของพระยาอนุรักษ์ราชมณเฑียร (ก๊าด วัชโรทัย) และท่านผู้หญิงพัว อนุรักษ์ราชมณเฑียร มีศักดิ์เป็นหลานน้าในสมเด็จพระนางเจ้าอินทรศักดิศจี พระวรราชชายา ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว และ พระสุจริตสุดา (เปรื่อง สุจริตกุล) พระสนมเอกในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว สมรสกับ พลตรีหญิง แพทย์หญิง ท่านผู้หญิงวัฒนา วัชโรทัย มีบุตรชาย 2 คน คือ นายฐานิสร์ วัชโรทัย วิทยากรพิเศษ สำนักราชเลขาธิการ และนายกองเอก และ ดร.ดิสธร วัชโรทัย ผู้บริหารระดับสูง ประจำสำนักพระราชวัง
นายขวัญแก้วสนใจการถ่ายภาพมาตั้งแต่เด็ก เนื่องจากบิดาเป็นนักถ่ายภาพคนสำคัญในยุคนั้น ตามเสด็จฯพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชไปศึกษาต่อที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยเลือกเรียนด้านการบริหารโรงแรม โรงเรียนสอนวิชาการโรงแรมโลซานน์ ณ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อสำเร็จการศึกษาได้รับพระราชทานกล้อง ZEISS รุ่น “Super Ikonta” กล้องยอดนิยมสำหรับนักข่าวยุโรป เป็นของขวัญวันสำเร็จการศึกษา
ต่อมาได้รับพระมหากรุณาธิคุณให้ตามเสด็จฯทั้งในและต่างประเทศเพื่อบันทึกภาพส่วนพระองค์ ในพระราชกรณียกิจต่าง ๆเพื่อประกอบพระราชประวัติและให้เป็นข่าวสำหรับสื่อมวลชนหนังสือพิมพ์ โดยงานแรกเป็นช่างภาพในพระราชพิธีราชาภิเษกสมรสและพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พ.ศ. 2493 จากนั้นได้รับหน้าที่เป็นนายสถานีวิทยุอ.ส.พระราชวังดุสิต และรับผิดชอบงานใต้เบื้องพระยุคลบาท พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช กระทั่งถึงแก่อสัญกรรม อาทิงานด้านการศึกษาทางไกล, นายกมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์, งานการศึกษาสำหรับเด็กด้อยโอกาส ผ่านมูลนิธิราชประชาสมาสัย ฯลฯ มีตำแหน่งสูงสุด คือ ผู้ปฏิบัติหน้าที่ประจำพระองค์ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
สำหรับกำหนดการบำเพ็ญกุศล นายขวัญแก้ว ป.จ., ม.ป.ช., ม.ว.ม., ภ.ป.ร.๒ ปฏิบัติหน้าที่ประจำพระองค์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ นายฐานิสร์ วัชโรทัย บุตรชายคนโตกล่าวว่าจะมีการบำเพ็ญกุศลสวดอภิธรรมศพจนครบ 7 วัน หลังจากนั้นจะมีการสวดพระอภิธรรมทุกวันเสาร์เวลา 19.00 น. จนครบ 100 วัน และเก็บไว้เพื่อรอพระราชทานเพลิง ที่เมรุวัดเทพศิรินทร์
นายฐานอสร์กล่าวว่าก่อนที่บิดาจะสิ้น ตัวเองได้อยู่ข้างกายตลอดจนวาระสุดท้ายได้เปิดบทสวดมนต์ทางเครื่องเล่นวิทยุให้ฟัง กระทั่งจากไปอย่างสงบ
