“เก้าอี้ใหญ่แค่ไหนผมก็จะนั่ง”

“เก้าอี้ใหญ่แค่ไหนผมก็จะนั่ง”

แต่สำหรับ พล.ต.อ.
สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง หรือ “บิ๊กอ๊อด”
อดีตผบ.ตร. ที่เคยโด่งดังเมื่อครั้งนั่งเก้าอี้ผบ.ตร.ด้วยวลีเด็ดที่ว่า
“ยุคผมใหญ่แค่ไหนก็จะจับ”  มาแล้ว
จนก้าวเข้าสู่เก้าอี้ “นายกสมาคมฟุตบอลฯ ก็คงจะลงเอยด้วยวลีแบบเดิม ๆที่ว่า “เก้าอี้นี้ใหญ่แค่ไหนผมก็จะนั่ง”

                คงไม่ช้าเกินไปกับการทำความรู้จักกับ
“บิ๊กอ๊อด”อีกครั้ง ที่เหมือนจะเอามะพร้าวห้าวมาขายสวนแต่กับเก้าอี้แรง ๆ
ฮอต ๆ ตัวนี้ กับชื่อของ “บิ๊กอ๊อด” แล้วไม่ว่าจะทำความรู้จักอีกกี่ครั้งก็ดูเหมือนจะไม่ใช่เรื่องเก่าไปแต่อย่างใด

 “บิ๊กอ๊อด” เกิดเมื่อวันที่ ธ.ค.2497 ที่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้นที่ โรงเรียนท่าเรือนิตยานุกูล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และเข้าศึกษาต่อในโรงเรียนเตรียมทหาร
 ใน รุ่น
15 (ตท.15)
รุ่นสุดขลังที่มีเพื่อนร่วมรุ่นอย่าง พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม  พลเอกปรีชา
จันทร์โอชา น้องชายของ นายกรัฐมนตรี และ พล.ต.อ. พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร.

                และจบจาก โรงเรียนนายร้อยตำรวจ รุ่น
31
(นรต.31) จบปริญญาตรีสาขา นิติศาสตร์บัณฑิต 
มหาวิทยาลัยรามคำแหง จบปริญญาโท
รัฐศาสตร์การเมือง มหาวิทยาลัยปูนา จากอินเดีย จบปริญาเอกปรัชญาดุษฎีบัณฑิต
สาขาการบริหารงานยุติธรรมและสังคม
 มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต

                ก่อนรับราชการตำรวจตราบจนก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งสูงสุด
คือตำแหน่ง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ คนที่
10 ของประเทศ

ด้านชีวิตครอบครัว
สมรสกับพจมาน พุ่มพันธุ์ม่วง มีบุตรด้วยกัน
2 คน ได้แก่ ชมกมล
พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บริหาร เวิลด์แก๊ซ” และ ร.ต.ท. รชต พุ่มพันธุ์ม่วง  

   อุปนิสัยส่วนตัว “บิ๊กอ๊อด”
ต่อหน้าสื่อมวลชนแล้วดูจะเป็นคนเอาจริงเอาจัง  และเป็นคนรักความยุติธรรมเป็นอย่างมาก
นอกจากนี้ยังมีความจริงใจ แบบตรงไปตรงมา กล้าหาญและซื่อสัตย์ต่อแนวคิดของตัวเองเสมอ
ไม่กลัวที่จะแสดงความคิดเห็นแม้จะยืนตรงข้ามกับกระแสสังคม เหมือนอย่างเช่นกรณี แสดงความเห็นเกี่ยวกับการเปิดบ่อนเสรี
ที่บิ๊กอ๊อดกล้าออกมายืนยันว่าเห็นด้วยกับการเปิดบ่อนเสรี

เมื่อวันที่ 11 ก.พ. 
2559 ที่ผ่านมา “บิ๊กอ๊อด” ได้รับเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ
คนที่
17 ด้วยคะแนนทั้งสิ้น 62 เสียงจากทั้งหมด
72 เสียงเอาชนะ ดร.
ชาญวิทย์ ผลชีวิน ที่ได้เพียง 4 เสียง
ถือว่าเป็นชัยชนะที่เด็ดขาด พร้อมประกาศนโยบาย 4 
คือ แฟร์เรื่องการบริหารสมาคม องค์กร
ต้องมีความโปร่งใสเป็นธรรม
  แฟร์เรื่องการใช้จ่ายที่ต้องมีการตรวจสอบ, แฟร์ในเรื่องการตัดสิน
และสุดท้าย แฟร์เรื่องสิทธิประโยชน์
สมาคมหรือสโมสรฟุตบอลต้องได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมพร้อมทั้งสิทธิ์ประโยชน์เพิ่มขึ้น

กับเก้าอี้นายกสมาคมฟุตบอล
เก้าอี้ตัวล่าสุดที่ได้นั่งเก้าอี้ที่ใคร ๆ ก็รู้ว่า“คนนั่งย่อมไม่ธรรมดา”
ยิ่งเป็นคนนั่ง ที่ชื่อ “บิ๊กอ๊อด” แล้ว ไม่ใช่แค่เฉพาะเก้าอี้นี้ที่พี่ให้
แต่คนนั่งเก้าอี้นี้ได้แค่พี่ให้ไม่พอ แต่คนนั่งต้องกล้า และต้องมีบารมีพอสมควร
และนี่อาจเป็นที่มาของวลีที่ว่า “เก้าอี้นี้ใหญ่แค่ไหนผมก็จะนั่ง”  ก็เป็นได้
ฮ่าฮ่าฮ่า