“ดร.อรรชกา” เกิดเมื่อ 14 กรกฎาคม 2498 เป็นบุตรของนายประวิช สีบุญเรือง และนางศศิธร สีบุญเรือง มีพี่น้อง 2 คน ความที่สกุลสีบุญเรืองมีเชื้อสายจีน “ตระกูลสีบุญเรือง”สืบเชื้อสายมาจาก
“แซ่เซียว” มีเกียรติประวัติร่วมกับประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญๆ ของประเทศจีนเมื่อสมัย
ดร.ซุนยัดเซ็น และร่วมต่อสู้กับผู้ในประเทศไทยเมื่อครั้งสงครามโลกครั้งที่ 2จึงไม่แปลกที่
“สายเลือดแห่งแม่ทัพ”วันนี้คือหนึ่งใน “แม่ทัพ”
แห่งการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยคนสำคัญ
ด้วยชีวิตการเติบโตจากครอบครัวที่ชื่นชอบในธรรมะ สายพระอาจารย์ “ฝั้น
อาจาโร”จึงผลให้“ดร.อรรชกา”เองมีความชื่นชอบในการศึกษาธรรมะและฝึกปฏิบัติสมาธิ
จนเป็นระดับอาจารย์สอนการนั่งสมาธิ มีผลให้อุปนิสัยส่วนตัว มีความอ่อนน้อม
สุภาพ สุขุมเยือกเย็น และกลายมาเป็นจุดเด่นที่ทำให้ผู้ร่วมงานทั้งระดับผู้บังคับบัญชาและผู้ใต้บังคับบัญชานิยมชมชอบและให้ความเคารพนับถือ
แต่ในเวลาทำงาน ก็มีความเชี่ยวชาญและจริงจัง
“ดร.อรรชกา”สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี
สาขาเศรษฐศาสตร์ จากคณะเศรษฐศาสตร์
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปริญญาโทและปริญญาเอก สาขาเศรษฐศาสตร์ จาก Sussex University ประเทศอังกฤษ เริ่มรับราชการในตำแหน่งอาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และไปศึกษาต่อระดับปริญญาโทและเอกที่ประเทศอังกฤษ
กลับมารับราชการในกระทรวงอุตสาหกรรมที่ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ BOI เป็นผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม เป็นเลขาธิการ BOI ก่อนก้าวสู่ตำแหน่งอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม และตำแหน่งปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม
โดยเธอเป็นผู้หญิงคนแรกที่ได้รับตำแหน่งนี้
และเข้าสู่ตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งมี ดร.สมคิด เป็น รองนายกฯ
กำกับดูแลกระทรวงนี้โดยตรง
จากประสบการณ์การทำงานในกระทรวงอุตฯ
และในสายของความเป็นคณาจารย์ทั้งจุฬาลงกรณ์ และธรรมศาสตร์มายาวนานบวกเข้ากับ วปอ.48
คอนเนคชั่น เธอจึงเป็นที่ไว้วางใจให้เป็นแม่ทัพผู้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในห้วงเวลาสำคัญ
และเมื่อเร็ว
ๆ นี้จากการเข้าประชุมร่วมกับ“ดร.สมคิด” และข้าราชการระดับสูงของกระทรวง
จะเห็นภาพของ “ดร.อรรชกา” มีความตั้งใจจริงและแน่วแน่วที่จะปฏิบัติตามนโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย
เป็นภาพที่เปรียบได้กับ “นักศึกษาที่รอรับการบ้านจากอาจารย์ที่ปรึกษา”
ที่มา : Thaiquote
