“จิมมี่ ชวาลา” เกิดเมื่อ 19
พฤศจิกายน 2500” ปู่ชื่อนายเดสราช ชวาลา ย่าชื่อนางวิทยา
ขันตีชวาลา พ่อนายราม ชวาลา เป็นนักมวย แม่ของจิมมี่ชื่อนางยานกี เดวี ชวาลา ปี 2500
ตอนจิมมี่เกิดมีการเปลี่ยนชื่อร้านเป็นจิมมี่ โดยพ่อท่านคล้าย
วัดสวนขัน เกจิผู้โด่งดังเดินทางมายกและเจิมป้ายชื่อร้านให้ จิมมี่จึงให้เคารพรักและศรัทธาในพ่อท่านคล้ายเป็นอย่างมาก
“จิมมี่” สมรสกับ “ปริศนา ชวาลา” มีบุตร 1 คนคือ “วิษณุ ชวาลา” ด้านการศึกษาจิมมี่เรียนประถมที่ชูศิลป์วิทยา
(วัดบูรณาราม) แล้วไปต่อที่โรงเรียนแวนเบิร์ก-อัลเลน รัฐอุตตระประเทศ
ทางเหนือของอินเดีย และไปศึกษาต่อที่โรงเรียนบิช็อปคอตตอน เมืองชิมลา
รัฐหิมาจัลประเทศ จนได้รับปริญญาบัณฑิตกิตติมศักดิ์
ทางด้านบริหารธุรกิจบัณฑิต สาขาวิชาบริหารธุรกิจ(การตลาด) จากมหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช
ก่อนจะทะยานเข้าสู่วงการธุรกิจด้วยความรู้ความสามารถในการบริหารจัดการธุรกิจแขนงผ้านานาชนิด จนประสบผลสำเร็จอย่างสูงยิ่ง กระทั่งเป็นที่ยอมรับในวงการธุรกิจการตลาดผ้าและได้พัฒนาฐานะทางเศรษฐกิจของตนเองจากต่ำสุดจนก้าวสู่ขั้นมหาเศรษฐีมีเงินมีทรัพย์สินเงินทองนับพันล้านบาท
เป็นที่ทราบกันดีในหมู่คนเมืองนครศรีธรรมราช ว่าเศรษฐีพันล้านรายนี้เป็นคนที่สุภาพ
มีใจเมตตา ทำงานหนักมาก กระทั่งมักจะได้รับเชิญไปบรรยายถ่ายทอดประสบการณ์บ่อยๆ ขณะเดียวกันในอีกมุมหนึ่งของชีวิต
จิมมี่มีความศรัทธาในพุทธศาสนา และเคารพนับถือข้อธรรมของทุกศาสนา ชอบปฏิบัติธรรมด้วยการนั่งสมาธิ
และบริจาคเงินช่วยเหลือองค์กรการกุศล องค์กรอาสาสมัครเป็นประจำ ทั้งยังมอบเครื่องมือทางการแพทย์ให้แก่โรงพยาบาลมหาราชนครศรีฯ
โรงพยาบาลนครคริสเตียน สนับสนุนอาหารกลางวันแก่นักเรียนในชนบท 4 โรงเรียนมากว่า 20 ปี สร้างบ้านให้คนจน ดูแลคนป่วย กระทั่งได้รับการโปรดเกล้าฯพระราชทานเครื่องราชฯ
ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณฯ
และ ความเป็นคนชอบทำบุญทานบารมีเป็นนิจ “จิมมี่” มีมุมมองดีๆ แบบ เศรษฐีผู้มากด้วยบุญทานบารมี จากคำสุดท้ายที่ผู้เป็นมารดาได้สั่งสอนไว้ ที่
“จิมมี่” ระลึกถึงไม่เคยลืมตราบเท่าที่ยังคงมีลมหายใจ ว่า “การเป็นเศรษฐีเป็นยากนะลูก เป็นยากกว่าหมอหลายเท่า” อันเป็นสิ่งที่ทำให้เป็น “จิมมี่”
เป็นเศรษฐีผู้ยิ่งใหญ่แห่งทานบารมีในวันนี้
