ในยุคที่ธุรกิจแฟชั่นเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เราจะเห็นได้ว่า การเติบโตและการสร้างสรรค์แบรนด์ใหม่ ๆ มีความน่าสนใจ อย่าง แบรนด์ INCI. เป็นตัวอย่างที่โดดเด่นของการต่อยอดธุรกิจจากครอบครัว โดย คุณธัญภัค ธัญญศิริ หรือ คุณเพิร์ล Founder/Ceo แบรนด์ INCI. นักธุรกิจรุ่นใหม่ วัย 25 ปี ทายาทธุรกิจ Thai Arts Knitting factory Co.,Ltd. ผู้ดีไซน์เสื้อผ้ารักษ์โลกจากไหมพรม ตอบโจทย์วัยรุ่น สร้างจุดเด่นด้วยคอนเซ็ปต์ ลบภาพจำ ‘ไหมพรม’ ไม่จำเป็นต้องใส่เฉพาะฤดูหนาว แต่เป็นเทรนด์แฟชั่นยั่งยืนที่ใส่ในชีวิตประจำวันได้ และมุ่งมั่นในการสร้างแบรนด์แฟชั่นรักษ์โลก โดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน
เธอสามารถเดินบนเส้นทางธุรกิจของตนเอง และประสบความสำเร็จได้อย่างไร ในโลกแฟชั่นยุคปัจจุบัน? หาคำตอบได้ในบทความนี้
จุดเริ่มต้น คนรักอิสระ
คุณเพิร์ล เล่าถึงจุดเริ่มต้นธุรกิจว่า หลังจากเรียนจบมาได้ไปฝึกงานที่บริษัท ด้วยความที่เป็นคนรักอิสระ จึงอยากลองทำงานหลาย ๆ ด้านมากกว่าทำงานด้านเดียว เพราะเชื่อในศักยภาพ (Potential) ของตัวเองว่า สามารถทำแบรนด์ของตัวเองได้ ก็เลยลองมาเปิดแบรนด์ของตัวเอง ซึ่งเป็นการต่อยอดจากธุรกิจครอบครัว จึงสร้างแบรนด์ INCI ขึ้นมา
“ต้องขอบคุณคุณพ่อคุณแม่ที่ท่านเชื่อมั่นในตัวเรา ว่าจะสามารถสร้างแบรนด์ของตัวเองได้ โดยที่ไม่ไปลองทำงานหาประสบการณ์ก่อน”
ที่มาของชื่อ แบรนด์ INCI
คุณเพิร์ล อธิบายถึงที่มาของชื่อแบรนด์ว่า ตั้งใจอยากให้ชื่อแบรนด์เป็นตัวอักษรที่ไม่ยาวจนเกินไป สามารถจำเป็นตัวอักษรได้เลย จึงเลือกเป็น INCI ซึ่งมีตัว ‘I’ ประกบหน้า-หลัง ซึ่งเป็นภาษาตุรกี แปลว่า เพิร์ล เป็นความตั้งใจของเราที่อยากใส่ความเป็นตัวเองลงไปในแบรนด์ให้ได้มากที่สุด เป็นชื่อแบรนด์ที่คิดว่าจดจำง่ายและไม่ซ้ำใคร
แนวคิดในการต่อยอดธุรกิจครอบครัว
สำหรับแนวคิดในการต่อยอดธุรกิจตัวเอง คุณเพิร์ล กล่าวว่า ธุรกิจครอบครัวที่ทำอยู่ จะเน้นตลาดส่งออกเมืองหนาวเป็นหลัก ซึ่งพอเรามาทำแบรนด์ของตัวเอง กลุ่มลูกค้าของ INCI จะเป็นกลุ่มคนไทย และเด็กวัยรุ่นเป็นหลัก สิ่งที่แตกต่างไปจากแบรนด์หลักของคุณพ่อคุณแม่ อาจจะเป็นเรื่องดีไซน์ สี รวมถึงลักษณะการทอใหม่ ๆ การทอผ้าให้บางเพื่อระบายอากาศได้ดี เพื่อที่จะเข้าถึงคนไทยมากขึ้น ก็ได้ปรึกษาพ่อแม่ในเรื่องเทคนิคใหม่ ๆ หรือว่าเส้นด้าย วัสดุชนิดใหม่ ๆ ที่สามารถปรับใช้ได้กับคนไทยมากขึ้น
“ผลตอบรับที่ได้ ต้องบอกว่า มีแบรนด์ไทยจำนวนมาก สนใจเข้ามาทำกับบริษัทเราด้วย ทำให้สามารถช่วยหากลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ ให้ธุรกิจคุณพ่อคุณแม่ได้อีกทางหนึ่งด้วย”
นำประสบการณ์ของพ่อแม่ มาใช้อย่างไรบ้าง?
คุณเพิร์ล สะท้อนภาพว่า ด้วยความที่ธุรกิจของคุณพ่อคุณแม่เน้นส่งออก (Export) เป็นหลัก จึงรู้เรื่องเทรนด์สิ่งแวดล้อมจากแบรนด์ แฟชั่นยั่งยืน ของเมืองนอกอย่างโดยตลอด ซึ่งเขาจะกำหนดมาเลย ว่าต้องใช้เส้นด้ายจากฟาร์มนี้ ต้องใช้กระดาษห่อหรือถุงห่อสินค้าที่เป็นวัสดุรีไซเคิลเท่านั้น ดังนั้นความรู้เรื่องมาตรฐานสิ่งแวดล้อมจึงได้จากที่พ่อแม่ปลูกฝังมาโดยตลอด
INCI “เสื้อผ้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม”
ผู้บริหารสาวรุ่นใหม่ ให้มุมมองว่า ก่อนที่จะเริ่มทำแบรนด์ของตัวเอง เราวาง Personal Branding ไว้ชัดเจนมาก เพราะเราให้ความสำคัญกับการสร้างแบรนด์มากที่สุด ว่าลูกค้าของเราเป็นใคร เราจะ Position ตัวเองในจุดไหน คีย์หลักของแบรนด์เราคืออะไร เราพยายาม Research ตั้งแต่ตอนเริ่มทำแบรนด์ว่า เทรนด์ไหนที่จะมาแรงมาในช่วง 5 -10 ปีนี้
ทำให้เรานึกถึงเรื่อง Sustainability เรื่องสิ่งแวดล้อมเป็นเทรนด์ใหญ่มากในช่วงนั้น โดยที่ต่างประเทศเริ่มเข้ามาเปลี่ยนแปลงสินค้าในโรงงานแล้วเหมือนกัน จึงคิดว่า INCI อยากเป็นเสื้อผ้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพราะคนรุ่นใหม่หันมาใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อมมากขึ้น และเน้นที่คุณภาพมากกว่า Fast Fashion
ทำไม? ถึงเลือก “ไหมพรม”
คุณเพิร์ล สะท้อนภาพว่า แฟชั่น “ไหมพรม”เคยนิยมมากในประเทศไทยเมื่อหลาย 10 ปีที่แล้ว และก็หายไป ในช่วงกำลังโตเป็นวัยรุ่น สมัยนั้นเรามองว่า ดีไซน์เสื้อผ้าไหมพรมของพ่อแม่ดูมีอายุหน่อย แต่พอมาถึงยุคเรา ค่อนข้างเห็นได้เลยว่า แฟชั่นเสื้อผ้าไหมพรมกลับมานิยมอีกครั้ง ช่วงนี้ค่อนข้างฮิตมาก แบรนด์ไหนไม่เคยทำ ก็เริ่มมาทำตามกันเยอะมาก
โดยเฉพาะแบรนด์ต่างประเทศ มีแบรนด์เปิดใหม่ก็หันมาทำกันเยอะมาก ซึ่งเราเชื่อว่าเทรนด์ของต่างประเทศ ไม่ช้าจะมาถึงไทยแน่นอน ตอนนั้นเราก็เลยตั้งใจเปิดเป็นแบรนด์ INCI ขึ้นมาโดยเฉพาะเลย เพื่อให้มีความแตกต่างจากสินค้าในตลาดที่ราคาเดียวกัน
INCI ความโดดเด่นที่แตกต่าง คืออะไร?
เจ้าของแบรนด์ INCI กล่าวว่า สิ่งแรกที่เราให้ความสำคัญเป็นอันดับต้น ๆ คือการเลือกใช้วัสดุที่เป็น Cotton Organic โดยแบรนด์ INCI จะใช้เส้นด้ายชนิดเดียวกับต่างประเทศที่ได้รับการรับรอง Certificate ด้าน Sustainability อยู่แล้ว ดังนั้นผลิตภัณฑ์ของ INCI จึงเน้นที่คุณภาพของเส้นด้ายออร์แกนิก ซึ่งนอกจากจะเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังมีความนุ่มใส่สบาย ไม่ระคายเคืองผิว รวมถึงดีไซน์ของแบรนด์ที่เน้นแนวสีสันคัลเลอร์ฟลู คลูคิดส์ ความสดใส ความน่ารัก เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์แฟชั่นยั่งยืนอย่างชัดเจน
ขยายตลาด เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าทุกเพศ ทุกวัย
หลังจาก INCI ครองใจกลุ่มลูกค้าเด็กวัยรุ่นได้สำเร็จ คุณเพิร์ล จึงมีแนวคิดขยายฐานลูกค้าให้ครอบคลุมมากขึ้น จึงดีไซน์ Collection ใหม่ให้ดูเรียบร้อย ใส่ออกงานหรือใส่ไปทำงานได้ด้วย คือ สามารถส่วมใส่ได้ทุกเพศ ทุกวัย
สำหรับช่องทางการตลาด จะสื่อสารกับลูกค้าผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียเป็นหลัก โดยเล่า Story ผ่านทาง อินสตาแกรม หรือแพลตฟอร์มต่าง ๆ แต่ก็มีออกงานแสดงสินค้าบ้าง เมื่อมีการออก Collection ใหม่ หรือช่วงปลายปี ก็มีการ Clearance ของปีนั้น เป็นต้น
สำหรับตลาดต่างประเทศ มีชาวญี่ปุ่นและไต้หวันสนใจในแบรนด์ และดีไซน์ของเรา เข้ามาดูค่อนข้างเยอะมาก ส่วนใหญ่ชื่นชอบในความสดใสของผลิตภัณฑ์เรา และมองว่าเหมาะกับประเทศเขา เลยคิดว่าอยากลองไปเปิดตลาดในโซนนั้นเหมือนกัน
นำแนวคิด ESG มาปรับใช้อย่างไรบ้าง?
เจ้าของแบรนด์ INCI. กล่าวว่า นอกจากการใช้เส้นด้ายออร์แกนิกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแล้ว เรายังนำเส้นด้ายค้างสต็อก มาดีไซน์เป็นสินค้าแบบ Limited Edition ซึ่งมีจำนวนจำกัด เพราะเราใช้เส้นด้ายที่เหลืออยู่และไม่มีการสั่งซื้ออีกแล้ว มาทำให้เกิดมูลค่า และลดขยะได้ด้วย
อีกสิ่งหนึ่งที่เราทราบกันดีว่า เวลาเราทำสินค้าพวกออร์แกนิก อาจจะมีต้นทุนที่สูงกว่า เราจึงพยายามเปลี่ยนและลดต้นทุนจาก Packaging มากกว่าการลดต้นทุนด้านคุณภาพสินค้า โดยใช้กระดาษห่อหรือถุงห่อสินค้าที่เป็นวัสดุรีไซเคิล เป็นการลดต้นทุนโดยไม่กระทบต่อคุณภาพ
“เราพยายามลดตัวเลขขยะเหล่านั้นให้ถึงศูนย์ให้ได้ ส่วนใหญ่เป็นการช่วยบริษัทตัวเองไปด้วย แล้วเอามาพัฒนาแบรนด์ตัวเองไปด้วยในคราวเดียวกัน”
จริงหรือไม่? คนรุ่นใหม่ยอมจ่ายแพงขึ้น เพื่อแลกกับผลิตภัณฑ์ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม
คุณเพิร์ล ให้มุมมองว่า คำกล่าวนี้ไม่ได้เรื่องเกินจริง เพราะกลุ่มลูกค้าเรามีความเข้าใจเรื่องนี้อยู่แล้ว โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ เขาพร้อมที่จะจ่าย เมื่อรู้ที่มาของวัสดุที่ใช้ และมองเห็นคุณภาพที่มันจับต้องได้ ใช้ได้นาน เพราะลูกค้าเคยซื้อไปแล้วครั้งหนึ่ง แต่พอเขาเห็นว่าผ้ามีคุณภาพดี ทำมาจากวัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทำให้เขากลับมาซื้อซ้ำบ่อย ๆ และได้รับคำชมหลังจากที่ซื้อสินค้าไปก็เยอะ
“เพิร์ลเชื่อว่าผู้บริโภคยุคใหม่ เขาใส่ใจและเข้าเรื่องนี้กันมากขึ้น จึงพร้อมที่จะจ่ายแพงขึ้นนิดหน่อย แต่ได้มีส่วนช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมให้ดีขึ้น”
อุปสรรค ความท้าทายในการทำธุรกิจ คืออะไร?
คุณเพิร์ล สะท้อนปัญหาว่า อุปสรรคและความท้าทายอย่างแรก คือ การบาลานซ์ระหว่างต้นทุนกับราคาที่ขาย เพราะต้นทุนของวัตถุดิบสูงอยู่แล้ว พอเราเลือกใช้เส้นด้ายที่เป็นออร์แกนิก ก็ยิ่งทำให้ราคาสูงกว่าแบรนด์ทั่วไป จึงต้องพยายามทำให้ราคาไม่สูงเกินไป เพื่อให้กลุ่มลูกค้าเรา คือเด็กวัยรุ่นสามารถเข้าถึงได้
ขณะที่ความท้าทายอีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญ คือ เทรนด์แฟชั่นที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ถ้าเราตามไม่ทันอาจทำให้ไปต่อไม่ได้ เพราะในตลาดมีแบรนด์ใหม่เกิดขึ้นตลอดเวลา
นอกจากนี้ยังมีเรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์ โดนต่างชาตินำไป Copy ขายตามแหล่งค้าส่งชั้นนำของไทยเยอะมาก
“ดังนั้นสิ่งสำคัญคือ ต้องสร้างเอกลักษณ์ของแบรนด์ให้แข็งแรง และต้องมีบริการหลังการขายที่ดี (After Service) ให้เป็นที่จดจำ สามารถหยิบมาใส่ได้บ่อย ๆ คุณภาพดีใส่ได้นาน ๆ ไม่ใช่ Fast Fashion มาไวไปเร็ว”
วางแผนต่อยอดหรือพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างไรใน 3-5 ปี ข้างหน้า
เรามีแผนจะพัฒนาผลิตภัณฑ์มากขึ้น อาจจะไม่ใช่เส้นด้ายเฉพาะแบบทั่ว ๆ ไป เหมือนที่เคยนำมาสมัยก่อน ตอนนี้เส้นด้ายทุกชนิด ค่อนข้างจะเน้นมาจากฟาร์มที่ได้รับการรับรองด้านสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ที่บ่งชี้ถึงผลิตภัณฑ์ที่เป็นออร์แกนิกหรือใส่ใจสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะทำให้ธุรกิจเราเกิดความยั่งยืน และได้รับการยอมรับจากตลาดทั่วโลกได้เป็นอย่างดี
ต้องบอกว่า แนวคิดของนักธุรกิจสาวคนนี้ มีดีไซน์สีสันที่โดดเด่น แต่ยังคงความเป็นสีที่สามารถแมทช์ได้ง่าย ๆ หลายลุค หลายสไตล์ ไม่ว่าจะแนวหวาน แนวน่ารักสดใส แนวเปรี้ยว ก็เอาอยู่ จึงทำให้สาว ๆ ตกหลุมรักความคัลเลอร์ฟลูของแบรนด์ INCI ได้ไม่ยาก
ฝากแง่คิด คนที่อยากทำธุรกิจให้เกิดความยั่งยืน
นักธุรกิจคนรุ่นใหม่ ฝากแง่คิดถึงคนอยากปรับธุรกิจตัวเองให้เกิดยั่งยืนว่า การทำธุรกิจเสื้อผ้า เป็นเทรนด์แฟชั่นที่เปลี่ยนเร็วมาก เกิดเป็น Fast Fashion ที่จะกลายเป็นขยะเสื้อผ้ามหาศาล จึงอยากให้คำนึงถึงสิ่งนี้ ด้วยการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพดี ใช้ได้นาน ๆ สามารถหยิบมาใส่ได้บ่อย ๆ ในชีวิตประจำวัน ไม่ใช่เน้นราคาถูกใส่ถ่ายรูปครั้งเดียว แต่อยากให้นึกถึงผลกระทบในระยะยาว
ดังนั้นควรวางแผนออกแบบผลิตภัณฑ์โดยการคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมตั้งแต่เริ่มต้น เพราะหากมาทำทีหลัง อาจทำให้บาลานซ์เรื่องราคาไม่ได้ ส่งผลให้แข่งขันในตลาดลำบาก จะเสียโอกาสในตลาดไป
อ้างอิง
https://www.facebook.com/inci.bkk/?locale=th_TH
https://www.instagram.com/inci.bkk/
บทความอื่น ที่น่าสนใจ
เสื้อผ้าเก่าแล้วไปไหนต่อ “RE.UNIQLO Studio” ช่วยขยะเป็นศูนย์ ควบคู่พฤติกรรมคนไทยชอบแฟชั่น