ทีมกู้ภัยอิสราเอลเดินทางถึงประเทศไทย พร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัย Xaver™
จากบริษัท Camero-Tech ระบบเรดาร์อัจฉริยะที่สามารถมองทะลุผ่านซากปรักหักพังได้ เพื่อตรวจจับสัญญาณชีพของผู้ประสบภัยที่ยังติดอยู่ใต้ซากอาคาร
เทคโนโลยีนี้ ไม่เพียงแต่เป็นเครื่องมือที่ทันสมัย แต่เป็นเทคโนโลยีแห่งความหวัง อันล้ำค่าสำหรับผู้ที่ยังรอการช่วยเหลือในความมืดมิด การทำงานของทีมกู้ภัยอิสราเอลร่วมกับอุปกรณ์ไฮเทคนี้ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและโอกาสความสำเร็จในการค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างทันท่วงที แม้ในสภาพพื้นที่ที่ยากลำบากที่สุด
Cr. ภาพ : แนวหน้า
เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ส่งคณะผู้เชี่ยวชาญให้ความช่วยเหลือประเทศไทย หลังเกิดแผ่นดินไหวในหลายพื้นที่ โดยมีกระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงกลาโหมของอิสราเอลร่วมประสานงานความช่วยเหลือในครั้งนี้ ซึ่งคณะผู้เชี่ยวชาญได้เดินทางถึงกรุงเทพฯ วันนี้ (31 มีนาคม 2568) นำโดย พันเอก (กองหนุน) โยสซี ปินโต ผู้บัญชาการหน่วยกู้ภัยแห่งชาติ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่อีก 21 นาย โดยทีมกู้ภัยจากอิสราเอลมาพร้อมกับ Camero-Tech เทคโนโลยีกู้ภัยอัจฉริยะ ซึ่งคณะผู้เชี่ยวชาญจะให้ความช่วยเหลือในการรวบรวมข้อมูลด้านปฏิบัติการกู้ภัยสำหรับประชาชน รวมถึงการประเมินโครงสร้างทางวิศวกรรมของพื้นที่ที่ได้รับความเสียหาย และจะปฏิบัติงานจนกว่าจะช่วยเหลือผู้ติดอยู่ใต้ซากอาคารได้ทั้งหมด
Cr. ภาพ : www.spslandforces.com
เทคโนโลยีกู้ภัย นวัตกรรมที่ช่วยชีวิตในสถานการณ์วิกฤต
ในโลกของการกู้ภัยและการช่วยเหลือในสถานการณ์ฉุกเฉิน ทุกวินาทีมีค่าและสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตได้ ทีมกู้ภัยและเจ้าหน้าที่ฉุกเฉินต้องเผชิญกับอันตรายจากซากปรักหักพัง เปลวเพลิง และสถานการณ์ที่ไม่แน่นอน เพื่อช่วยเหลือผู้ที่ติดอยู่ในสถานการณ์คับขัน เช่น การนำคนออกจากห้องที่มีไฟลุกไหม้ หรือการค้นหาผู้เคราะห์ร้ายที่ติดอยู่ใต้ซากอาคารถล่ม โดยที่ทุกการดำเนินการต้องเกิดขึ้นภายใต้การคำนึงถึงความปลอดภัยของตัวเองด้วย
Camero-Tech ได้นำเสนอเทคโนโลยีการสแกนทะลุสิ่งกีดขวาง (Through-Wall Imaging) ที่เรียกว่า Xaver™ ซึ่งเป็นโซลูชันที่ครบวงจรสำหรับการตรวจจับการมีอยู่ของมนุษย์แบบเรียลไทม์ ระบบนี้ไม่เพียงแต่บอกว่ามีคนอยู่หรือไม่ แต่ยังสามารถระบุจำนวนและตำแหน่งของผู้ที่ติดอยู่ได้อย่างแม่นยำ
Cr. ภาพ : https://camero-tech.com/
ความสามารถที่โดดเด่น
หนึ่งในความสามารถที่สำคัญของเรดาร์อัจฉริยะนี้ คือการสร้างแผนที่โครงสร้างของห้องหรืออาคารที่อยู่หลังผนังหรือใต้เพดานที่พังถล่มได้อย่างชัดเจน ระบบนี้สามารถสแกนทะลุกำแพงที่มีความหนาหลากหลายได้ลึกถึง 20 เมตร ทำให้ผู้ใช้งานสามารถมองเห็นโครงสร้างภายในได้อย่างละเอียด และสามารถตรวจจับการเคลื่อนไหวของสัตว์ขนาดเล็กได้อีกด้วย
Cr. ภาพ : https://camero-tech.com/
เพิ่มโอกาสในการช่วยชีวิต
การใช้ระบบ Xaver™ นี้ ช่วยให้ทีมกู้ภัยเตรียมตัวก่อนปฏิบัติการได้อย่างรอบคอบ เพิ่มโอกาสความสำเร็จในการช่วยเหลือ ลดความเสี่ยงของเจ้าหน้าที่ และทำให้ภารกิจกู้ภัยมีประสิทธิภาพสูงสุด เทคโนโลยีนี้ได้พิสูจน์ความสามารถในเหตุการณ์แผ่นดินไหวในเม็กซิโกและตุรกี โดยสามารถระบุตำแหน่งของผู้รอดชีวิตที่ติดอยู่ใต้ซากอาคารได้อย่างแม่นยำ
ทำงานได้ภายใน 1 นาที
ชุดอุปกรณ์ค้นหาและกู้ภัยของ Camero-Tech ถูกออกแบบมาให้สามารถติดตั้งและเริ่มทำงานได้ภายในไม่ถึง 1 นาที ซึ่งช่วยให้ทีมกู้ภัยสามารถเคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็ว แม้ในสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยอุปสรรค สิ่งนี้ช่วยเพิ่มโอกาสในการค้นหาและช่วยเหลือชีวิตที่ติดอยู่ใต้ซากอาคารได้อย่างทันท่วงที
อุปกรณ์ที่สำคัญในชุดกู้ภัย
สำหรับชุดอุปกรณ์กู้ภัยอัจฉริยะนี้ประกอบด้วยเรดาร์ Xaver™ 100 และ Xaver™ 400, XaverNet™ ซึ่งเป็นศูนย์ควบคุมไร้สายที่ช่วยให้การทำงานของระบบเรดาร์อัจฉริยะนี้ มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยรุ่น 100 เป็นอุปกรณ์พกพาขนาดเล็กที่ออกแบบมาเพื่อการตัดสินใจที่รวดเร็ว ขณะที่รุ่น 400 สามารถให้ข้อมูลแบบเรียลไทม์เกี่ยวกับสภาพภายในโครงสร้าง
เครื่องมือช่วยชีวิตมนุษย์อย่างแท้จริง
เทคโนโลยีกู้ภัยที่พัฒนาโดย Camero-Tech ไม่ได้เป็นเพียงนวัตกรรมทางเทคโนโลยี แต่เป็นเครื่องมือที่ช่วยชีวิตมนุษย์อย่างแท้จริง โดยการเพิ่มโอกาสในการช่วยชีวิต ลดเวลาปฏิบัติการ และทำให้ทีมกู้ภัยสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในสถานการณ์วิกฤติ หวังว่าในอนาคตเราจะได้เห็นการพัฒนาเทคโนโลยีที่ช่วยให้การช่วยเหลือในสถานการณ์ฉุกเฉินมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
อ้างอิง
https://www.catdumb.com/tech-update/90116
https://www.salika.co/2025/03/30/camero-tech-xaver-israel-earthquake-rescue/
บทความอื่น ที่น่าสนใจ
เปิด 6 เทคโนโลยี AI ช่วย SME ไทยลดก๊าซเรือนกระจก พลิกวิกฤตโลกร้อนอย่างยั่งยืน
