ปัจจุบัน ธนาคารไทยกำลังเผชิญกับความท้าทายหลายด้านและจำเป็นต้องปรับตัวเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยเฉพาะในบทบาทของการเป็นผู้จัดหาเงินทุนให้กับธุรกิจต่างๆ เพื่อมุ่งสู่การดำเนินงานที่ลดการปล่อยคาร์บอน ซึ่งมาพร้อมกับความรับผิดชอบในการเปิดเผยข้อมูล การประเมินโอกาสและความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพื่อสร้างมาตรฐานทางการเงินและกำหนดแนวทางสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ในปี 2050
แนวร่วมการเงินที่เป็นธรรมประเทศไทย (Fair Finance Thailand) ได้เผยแพร่รายงานผลการประเมินธนาคารไทยตามเกณฑ์ “แนวร่วมการเงินที่เป็นธรรมนานาชาติ” ปีที่ 7 ซึ่งประเมินนโยบายและแนวปฏิบัติในการลงทุนและการให้บริการทางการเงินตามมาตรฐานสากลด้านความยั่งยืน ในงานเสวนาหัวข้อ “การปรับตัวรับโลกรวนและคะแนน ESG ของภาคธนาคารไทย”
รายงานดังกล่าวได้ประเมินนโยบายด้านต่างๆ ของสถาบันการเงินไทย 11 แห่ง ซึ่งประกอบด้วยธนาคารพาณิชย์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย 8 แห่ง และสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ 3 แห่ง ในปี 2567 พบว่าคะแนนเฉลี่ยของธนาคารไทยเพิ่มขึ้นจาก 25.94% ในปี 2566 เป็น 28.36% ในปี 2567 โดยเรียงลำดับคะแนนจากมากไปน้อยดังนี้
• ธนาคารทหารไทยธนชาต (42.96%)
• ธนาคารไทยพาณิชย์ (38.65%)
• ธนาคารกสิกรไทย (37.25%)
• ธนาคารกรุงเทพ (30.63%)
• ธนาคารกรุงไทย (29.57%)
• ธนาคารออมสิน (27.67%)
• ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (25.55%)
• ธนาคารเกียรตินาคินภัทร (24.59%)
• ธนาคารทิสโก้ (19.32%)
• ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (18.64%)
• ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (17.15%)
การเพิ่มขึ้นของคะแนนเฉลี่ยนี้สะท้อนถึงการที่ธนาคารหลายแห่งได้ปรับปรุงนโยบายให้สอดคล้องกับเกณฑ์การประเมินมากขึ้น และเปิดเผยข้อมูลสู่สาธารณะ หรือมีการลงนามในมาตรฐานสากลหรือแนวปฏิบัติในการดำเนินงานด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม เช่น UN Global Compact (UNGC) หรือ Equator Principles นอกจากนี้ แนวร่วมฯ ยังได้ปรับปรุงการให้คะแนนให้เหมาะสมยิ่งขึ้น อันเป็นผลจากการรับฟังความคิดเห็นและการมีส่วนร่วมของธนาคาร ส่งผลให้คะแนนเฉลี่ยในปีนี้เพิ่มขึ้น
สรุปพัฒนาการความยั่งยืนของธนาคารไทย
• การรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ: ธนาคารไทยโดยรวมมีความตื่นตัวมากขึ้น แต่ยังขาดแผนปฏิบัติการที่ชัดเจน
• การเปิดเผยข้อมูล: ธนาคารหลายแห่งได้เปิดเผยรายงานข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศตามข้อแนะนำของ TCFD แต่ระดับการเปิดเผยข้อมูลยังไม่เท่ากัน โดยเฉพาะการเปิดเผยข้อมูลปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เชื่อมโยงกับพอร์ตที่ธนาคารให้การสนับสนุนทางการเงินหรือลงทุน
• แผนการเปลี่ยนผ่าน: ยังไม่มีธนาคารไทยแห่งใดเปิดเผยแผนการเปลี่ยนผ่าน (Transition plan) รายภาคที่มีกำหนดเวลาชัดเจนในการทยอยลดการสนับสนุนทางการเงินแก่กิจกรรมที่ปล่อยคาร์บอนสูงในพอร์ตสินเชื่อและพอร์ตการลงทุนของธนาคาร
• สิทธิมนุษยชน: ธนาคารไทยโดยรวมตื่นตัวมากขึ้นต่อการรับมาตรฐานสากลด้านธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน แต่ยังขาดความชัดเจนและความสม่ำเสมอในการปฏิบัติ
เรื่องที่เกี่ยวข้อง