BOI ขับเคลื่อนการลงทุนพลังงานสะอาดผ่าน 2,900 โครงการ มูลค่ารวมทะลุ 5.6 แสนล้านบาท สร้างการจ้างงานกว่า 45,000 ตำแหน่ง ดันไทยเป็น ‘ฮับพลังงานสะอาดอาเซียน’ ขึ้นแท่นอันดับ 1 อาเซียนด้านพลังงานสีเขียว พร้อมฉกโอกาสจากนโยบายทรัมป์ต้านโลกร้อนดึงเม็ดเงินลงทุนสีเขียวเข้าเอเชีย

ไทยแกร่งกลางกระแสผันผวนของนโยบายพลังงานโลก
สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) เปิดเผยข้อมูลว่า ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ได้ขับเคลื่อนการลงทุนด้านพลังงานสะอาดผ่านโครงการมากกว่า 2,900 โครงการ คิดเป็นมูลค่ารวมมากกว่า 560,000 ล้านบาท ส่งผลให้ประเทศไทยก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านพลังงานสะอาดในภูมิภาค
การเปลี่ยนแปลงนโยบายของสหรัฐฯ รวมถึงการถอนตัวจากข้อตกลงปารีส อาจส่งผลกระทบต่อเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจกทั่วโลก แต่ในทางกลับกัน นักวิเคราะห์มองว่า การต่อต้านพลังงานสะอาดของทรัมป์อาจไม่ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อแนวโน้มการลงทุนทั่วโลก เนื่องจากประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่อย่างสหภาพยุโรป สหราชอาณาจักร และจีน ยังคงให้ความสำคัญกับพลังงานสะอาด

เอเชียดึงดูดเงินลงทุนสีเขียวจากสหรัฐฯ
รายงานจาก Morgan Stanley ชี้ให้เห็นว่า นโยบายของทรัมป์อาจเป็นตัวผลักดันให้การลงทุนกว่า 5 แสนล้านดอลลาร์จากสหรัฐฯ โดยเฉพาะจากกองทุนที่เน้นด้านความยั่งยืน เบนเข็มมายังภูมิภาคเอเชียแทน
ภูมิภาคเอเชียกำลังก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านพลังงานสะอาด โดยประเทศต่าง ๆ เช่น จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ กำลังพัฒนาแหล่งพลังงานหมุนเวียนอย่างรวดเร็ว Global Wind Energy Council คาดการณ์ว่ากำลังการผลิตพลังงานลมนอกชายฝั่งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกจะเพิ่มขึ้นถึง 6 เท่าภายในปี 2030
การแข่งขันด้านเทคโนโลยีสีเขียวทวีความเข้มข้น โดยจีนครองความเป็นผู้นำด้านการผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า (ส่วนแบ่งตลาด 60%) และควบคุมแร่ธาตุหายาก (80%) ส่งผลให้สหรัฐฯ และยุโรปต้องมองหาพันธมิตรใหม่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เปิดโอกาสให้ไทยก้าวขึ้นเป็นฐานการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าสำคัญของภูมิภาค

ไทยครองแชมป์อันดับ 1 อาเซียน ด้านพลังงานสะอาด
นายณริศ เทอดสตีรสุข เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีโครงการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในไทยแล้ว 28 โครงการ จาก 22 บริษัท มูลค่าการลงทุนรวมประมาณ 78,000 ล้านบาท กำลังการผลิตรวมกว่า 880,000 คัน
ประเทศไทยตั้งเป้าหมายที่ท้าทายในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยมุ่งสู่การเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2593 และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2568 แผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้า (PDP 2024) กำหนดเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนพลังงานสะอาดให้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ของการผลิตไฟฟ้าทั้งหมด
ปัจจุบัน พลังงานสะอาดคิดเป็น 26% ของกำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศ และจากดัชนี SDG ปี 2023 ประเทศไทยอยู่อันดับที่ 43 ของโลก และครองอันดับ 1 ของอาเซียน ด้วยความก้าวหน้าด้านพลังงานสะอาดสูงสุด

BOI ทุ่ม 5.6 แสนล้านหนุนพลังงานสะอาดครบวงจร สร้างงานกว่า 45,000 ตำแหน่ง
ตั้งแต่ปี 2558 จนถึงเดือนมีนาคม 2568 BOI ได้ส่งเสริมการลงทุนโครงการพลังงานสะอาดกว่า 2,900 โครงการ มูลค่ารวมทะลุ 560,000 ล้านบาท ประกอบด้วย:
- โครงการขยะเป็นพลังงานและผลิตไฟฟ้าร่วมจากขยะ 80 โครงการ วงเงิน 110,000 ล้านบาท สร้างการจ้างงานเฉพาะด้าน 6,500 อัตรา
- โครงการพลังงานทดแทน (แสงอาทิตย์ ลม ชีวมวล ไบโอแก๊ส ฯลฯ) กว่า 2,800 โครงการ มูลค่า 320,000 ล้านบาท ก่อให้เกิดการจ้างงานกว่า 30,000 ตำแหน่ง
- โครงการแหล่งพลังงานอื่นๆ มากกว่า 30 โครงการ มูลค่า 120,000 ล้านบาท สร้างงานอีกกว่า 8,500 อัตรา
ทั้งนี้ การส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมพลังงานสะอาดไม่เพียงช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก แต่ยังสร้างการจ้างงานใหม่กว่า 45,000 ตำแหน่งทั่วประเทศ โดยเฉพาะตำแหน่งงานทักษะสูงด้านเทคโนโลยีและวิศวกรรม ซึ่งมีอัตราเงินเดือนเฉลี่ยสูงกว่าภาคอุตสาหกรรมทั่วไป 30-40%
นอกจากนี้ BOI ยังได้ส่งเสริมโครงการมากกว่า 2,400 โครงการ มูลค่ากว่า 220,000 ล้านบาท เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและปรับเปลี่ยนมาใช้พลังงานหมุนเวียน ส่งเสริมห่วงโซ่อุปทานสีเขียวแบบครบวงจรตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ซึ่งคาดว่าจะสร้างตำแหน่งงานใหม่อีกไม่ต่ำกว่า 25,000 อัตราภายในปี 2570
ความพร้อมด้านพลังงานสะอาดถือเป็นจุดแข็งสำคัญในการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาส ลดความเสี่ยงจากวิกฤตพลังงานในอนาคต และเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ยิ่งในช่วงที่นโยบายด้านพลังงานสะอาดของสหรัฐฯ มีความไม่แน่นอน ประเทศไทยกลับยิ่งมีโอกาสในการดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติและพัฒนาตนเองให้เป็นศูนย์กลางพลังงานสะอาดของภูมิภาคได้อย่างเต็มภาคภูมิ
อ้างอิง
สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI)
https://www.bangkokbiznews.com/business/economic/1176312#google_vignette
บทความอื่น ที่น่าสนใจ
เปิดเกมเศรษฐกิจสีเขียว! ไทยชิงเจ้าภาพ F1 ยุค ESG หนุนท่องเที่ยวโต 7 พันล้าน ดันไทยสู่เวทีโลก
