ในชีวิตประจำวัน เราสร้างขยะมากมายโดยไม่รู้ตัว ทั้งจากการดื่มกาแฟ ทานอาหาร ซื้อของใช้ต่าง ๆ และทิ้งสิ่งของที่ไม่ต้องการแล้ว ยิ่งเราบริโภคมากเท่าไร ขยะก็ยิ่งล้นเมืองมากขึ้นเท่านั้น จนระบบจัดการไม่ทัน ปัญหานี้เกิดขึ้นทั่วโลก โดยเฉพาะในประเทศที่พัฒนาแล้ว ความพยายามมุ่งไปสู่การเป็น “สังคมหมุนเวียนวัสดุ” หรือ Sound Material Cycle Society ของญี่ปุ่น ถือเป็นต้นแบบที่น่าศึกษา ในการก้าวสู่ “สังคมคาร์บอนต่ำ” มาดูกันว่าเขาทำได้อย่างไร?
ญี่ปุ่นคิดอย่างไรกับเรื่องนี้?
ญี่ปุ่นเป็นประเทศเกาะที่มีประชากรกว่า 100 ล้านคน และมีเศรษฐกิจที่พัฒนา แต่มีพื้นที่จำกัด พวกเขาจึงต้องหาวิธีจัดการทรัพยากรอย่างฉลาด เพราะต้องพึ่งพาการนำเข้าทรัพยากรจากต่างประเทศเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นพลังงาน อาหาร และวัตถุดิบต่าง ๆ
เมื่อปัญหาขยะล้นเมืองและมลพิษเพิ่มขึ้น ญี่ปุ่นจึงคิดค้นแนวคิด “จุนคังกะตะชาไค” (Junkan-gata-shakai) หรือ “สังคมหมุนเวียนวัสดุที่ดี” ขึ้นในปี 1991
สังคมหมุนเวียนวัสดุที่ดีคืออะไร?
แนวคิดนี้ตั้งอยู่บนหลักการ 3R ที่เรารู้จักกันดี
- Reduce (ลดการใช้)
- Reuse (ใช้ซ้ำ)
- Recycle (นำกลับมาใช้ใหม่)
เป้าหมาย คือ การลดขยะ ลดมลพิษ และลดการสูญเสียทรัพยากรธรรมชาติโดยไม่จำเป็น
ญี่ปุ่นทำอย่างไรให้แนวคิดนี้เป็นจริง?
- เข้าใจการไหลเวียนของวัสดุ
ขั้นตอนแรก ญี่ปุ่นสร้าง “บัญชีการไหลเวียนวัสดุ” (Material Flow Accounts: MFA) เพื่อติดตามว่าวัตถุดิบต่าง ๆ ไหลเวียนในระบบเศรษฐกิจอย่างไร มีอะไรเข้ามา ถูกใช้อย่างไร และออกไปที่ไหน ทำให้รัฐบาลสามารถกำหนดเป้าหมายและวัดผลได้ชัดเจน
- ออกกฎหมายรองรับ
ในปี 2000 ญี่ปุ่นออกกฎหมายเพื่อจัดตั้งสังคมหมุนเวียนวัสดุที่ดี และในปี 2003 พวกเขาผ่านแผนหลักฉบับแรกเพื่อทำให้แนวคิดนี้เป็นจริง (มีการปรับปรุงในปี 2008)
- มีกฎหมายเฉพาะสำหรับสินค้าแต่ละประเภท
ญี่ปุ่นยังมีกฎหมายเฉพาะสำหรับการรีไซเคิลสินค้าแต่ละประเภท เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ บรรจุภัณฑ์ ฯลฯ
- ส่งเสริมการจัดซื้อที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
รัฐบาลญี่ปุ่นออกกฎหมายส่งเสริมให้มีการจัดซื้อสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะสินค้ารีไซเคิล
ทำไมแนวคิดนี้จึงนำไปสู่สังคมคาร์บอนต่ำ?
แนวคิดสังคมหมุนเวียนวัสดุที่ดีช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้หลายทาง
- ลดการผลิตสินค้าใหม่ ซึ่งต้องใช้พลังงานและทรัพยากรมาก
- ลดการฝังกลบหรือเผาขยะ ซึ่งปล่อยก๊าซมีเทนและคาร์บอนไดออกไซด์
- ส่งเสริมการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า ลดการตัดไม้ทำลายป่าและการทำเหมืองแร่
ประสบการณ์ของญี่ปุ่นเป็นตัวอย่างที่ดีให้ประเทศอื่นๆ เรียนรู้ ว่าการจัดการทรัพยากรและขยะอย่างชาญฉลาดสามารถช่วยแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมและนำไปสู่สังคมที่ยั่งยืนกว่าเดิมได้อย่างไร
ญี่ปุ่นกับการก้าวสู่สังคมคาร์บอนต่ำ
นอกจากแนวคิดที่ได้กล่าวไปแล้ว ญี่ปุ่นยังมีเป้าหมายสำคัญอีกประการคือการสร้าง ‘สังคมคาร์บอนต่ำ’ เพื่อแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
สังคมคาร์บอนต่ำคืออะไร?
สังคมคาร์บอนต่ำของญี่ปุ่น มุ่งสู่การเป็น “สังคมคาร์บอนสมดุล” (Carbon neutral society) ซึ่งหมายถึงสังคมที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกในระดับที่ธรรมชาติสามารถดูดซับได้ โดยทุกภาคส่วนต้องคำนึงถึงการลดปริมาณคาร์บอนในทุกกิจกรรม
แนวคิดนี้เน้นการใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย ละทิ้งค่านิยมที่มุ่งเน้นการบริโภค และหันมาให้ความสำคัญกับ
- คุณค่าของครอบครัว
- ความสัมพันธ์ในชุมชน
- การอยู่ร่วมกับธรรมชาติอย่างยั่งยืน
ญี่ปุ่นส่งเสริมแนวคิด ‘Mottainai’ หรือความรู้สึกเสียดายเมื่อใช้ทรัพยากรอย่างสิ้นเปลือง เพื่อปลูกฝังจิตสำนึกในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
6 มิติของสังคมคาร์บอนต่ำแบบญี่ปุ่น
- การเดินทางที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
- เน้นใช้ระบบขนส่งมวลชน
- ส่งเสริมการแบ่งปันรถยนต์ (Car sharing)
- ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการขนส่งและจัดส่งสินค้าที่มีประสิทธิภาพ
- สิ่งแวดล้อมการทำงานและการใช้ชีวิต
- ประหยัดพลังงานด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ
- ส่งเสริมการทำงานจากที่บ้านหรือสถานที่ต่างๆ ลดการเดินทางเข้าเมือง
- อุตสาหกรรมสีเขียว
- มองปัญหาโลกร้อนเป็นโอกาสทางธุรกิจ
- บริษัทต้องเปิดเผยข้อมูลผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
- ลดคาร์บอนตลอดห่วงโซ่อุปทาน
- ใช้เทคโนโลยีการผลิตที่สะอาด เช่น ใช้ไฮโดรเจนแทนถ่านหิน
- ทางเลือกของผู้บริโภคที่รับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม
- ลดการใช้บรรจุภัณฑ์ที่ไม่จำเป็น
- เลือกซื้อสินค้าที่ใช้ซ้ำได้และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
- สนับสนุนสินค้าในชุมชน
- ไม่ซื้อสินค้าจากบริษัทที่ไม่รับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม
- ใช้ระบบ Eco-point ให้คะแนนกิจกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
- การจัดการป่าไม้และการเกษตรอย่างยั่งยืน
- ส่งเสริมการเกษตรและการผลิตที่มีประสิทธิภาพ
- พัฒนาระบบที่ช่วยให้ผู้บริโภคทราบที่มาและวิธีการผลิตของสินค้า
- การวางผังเมืองที่เหมาะสม
- กำหนดรูปแบบเมืองตามขนาด: เมืองใหญ่ เมืองเล็ก และชนบท
- จัดระบบคมนาคม อาคารบ้านเรือน และพลังงานทางเลือกให้เหมาะกับแต่ละพื้นที่
กลยุทธ์สู่ความสำเร็จ
ภาคประชาชน
- ปลูกฝัง “Eco-participation, eco-thinking และ eco-sharing”
- ส่งเสริมการมีส่วนร่วม การคิดและแบ่งปันด้านสิ่งแวดล้อม
ภาคเอกชน
- ผลิตสินค้าคาร์บอนต่ำ
- พัฒนาโมเดลธุรกิจคาร์บอนต่ำที่ยังสร้างกำไรได้
- สนับสนุนการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีสีเขียว
ภาครัฐ
- ให้แรงจูงใจสนับสนุน
- พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านความรู้และการศึกษา
- สร้างโครงสร้างพื้นฐานเพื่อสังคมคาร์บอนต่ำ
- บำรุงรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ทั้งหมดนี้ สะท้อนให้เห็นว่า ประสบการณ์ของญี่ปุ่นเป็นบทเรียนสำคัญที่เราสามารถนำมาปรับใช้ แสดงให้เห็นว่าการพัฒนาเศรษฐกิจสามารถดำเนินควบคู่ไปกับการดูแลสิ่งแวดล้อมได้ ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนและคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชนในระยะยาว
ที่มา :
องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน)
เรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ