สหภาพยุโรป (EU) เดินหน้าใกล้ถึงเป้าหมายลดคาร์บอนปี 2030 – เตรียมเล็งเป้าใหม่ 90% ในปี 2040
คณะกรรมาธิการยุโรปเผยรายงานล่าสุดชี้ว่า สหภาพยุโรป (EU) กำลังใกล้บรรลุเป้าหมายด้านพลังงานและสภาพภูมิอากาศปี 2030 อย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิลง 55% จากระดับปี 1990 ซึ่งขณะนี้กำลังดำเนินอยู่ที่ประมาณ 54% แล้ว นอกจากนี้ ประเทศสมาชิกยังมีแผนจะเพิ่มการใช้พลังงานหมุนเวียนเป็น 41% ซึ่งใกล้เคียงกับเป้าหมายของ EU ที่ 42.5% ทั้งนี้ ในปี 2023 เพียงปีเดียว EU สามารถลดการปล่อยก๊าซลงถึง 8% แม้เศรษฐกิจจะเติบโตขึ้น 68% ตั้งแต่ปี 1990 สะท้อนถึงความก้าวหน้าทางนโยบายสีเขียวอย่างมีประสิทธิภาพ
อย่างไรก็ตาม รายงานยังชี้ให้เห็นจุดที่ยังต้องปรับปรุง เช่น ภาคส่วนที่ยังไม่สามารถดูดซับ CO₂ ได้ตามเป้าหมาย 42 ล้านตันภายในปี 2030 และแผนด้านประสิทธิภาพพลังงานยังตามหลังเป้าหมายกลางของ EU โดยเฉพาะในด้านการลดการใช้พลังงานที่ยังอยู่ที่ 8.1% เทียบกับเป้าหมายรวมที่ 11.7% สำหรับภาคส่วนที่มีการปล่อยมลพิษสูงอย่างการขนส่งและอาคาร ก็ยังต้องเร่งความพยายามเพื่อให้เข้าเป้า โดยคณะกรรมาธิการระบุว่า แม้หลายประเทศได้ปรับปรุงแผน NECP ครั้งสุดท้าย (กำหนดส่ง มิ.ย. 2024) ให้ครอบคลุมและทะเยอทะยานมากขึ้น แต่ยังจำเป็นต้องมี “ความพยายามเพิ่มเติม”
ในปีนี้ คาดว่าคณะกรรมาธิการยุโรปจะเปิดเผยเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสำหรับปี 2040 โดยในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ได้เสนอระดับใหม่ที่สูงถึง 90% ซึ่งจะเป็นก้าวสำคัญสู่เป้าหมายระยะยาวของ EU ที่จะบรรลุความเป็นกลางทางสภาพภูมิอากาศภายในปี 2050
ทั้งนี้ เทเรซา ริเบรา รองประธานบริหารด้านการเปลี่ยนผ่านที่สะอาด ยุติธรรม และมีการแข่งขัน ย้ำว่า
“ยุโรปกำลังพิสูจน์ว่าเป้าหมายตามหลักวิทยาศาสตร์และกฎระเบียบที่เหมาะสมสามารถให้ผลลัพธ์จริงได้ เพราะเป็นโอกาสในการยกระดับเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมของเรา เราทำได้ 55% แล้ว และตอนนี้เราต้องสร้างเงื่อนไขให้บรรลุ 90% ให้ได้ภายในปี 2040”
ที่มา การประเมิน NECP ของคณะกรรมาธิการ
