ใครจะคิดว่าเมื่อ 5 ปีที่แล้ว เวียดนามยังเป็นประเทศที่มีพลังงานแสงอาทิตย์เกือบศูนย์ แต่วันนี้กลับกระโดดขึ้นมาเป็นอันดับ 2 ของอาเซียน ด้วยกำลังการผลิต 16,500 เมกะวัตต์ ทิ้งไทยที่เคยเป็นผู้นำไว้ข้างหลัง
ขณะที่โลกกำลังแข่งขันกันลดก๊าซเรือนกระจก ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก็ไม่ยอมนิ่งนอนใจ 10 ประเทศอาเซียนรวมกันผลิตพลังงานสะอาดได้มากถึง 78,800 เมกะวัตต์ และสามารถลดการปล่อยคาร์บอนได้ปีละ 113 ล้านตัน – เทียบได้กับการปลูกป่าใหม่กว่า 1.4 พันล้านต้น!
แต่เบื้องหลังตัวเลขที่น่าประทับใจนี้ มีเรื่องราวการแข่งขัน การแซงหน้า และความท้าทายที่แต่ละประเทศต้องเผชิญ บางประเทศพุ่งแรงจนน่าตกใจ บางประเทศกลับชะลอตัวอย่างไม่คาดคิด
มาดูกันว่าใครคือเจ้าภาพแห่งพลังงานสะอาดในประเทศอาเซียน และแต่ละประเทศมีกลยุทธ์อะไรในการสร้างอนาคตที่ยั่งยืน…
สรุปภาพรวมอาเซียน
การผลิตพลังงานสะอาดรวม
~78,800 เมกะวัตต์ (ประมาณ 15% ของความต้องการไฟฟ้าทั้งหมด)
การลดก๊าซเรือนกระจกรวม
~113 ล้านตัน CO2eq ต่อปี
เทคโนโลยีหลัก
- พลังงานน้ำ – 47,180 MW (60%)
- พลังงานแสงอาทิตย์ – 22,660 MW (29%)
- ไบโอมาส – 6,890 MW (9%)
- พลังงานลม – 2,670 MW (3%)
- พลังงานความร้อนใต้พิภพ – 4,200 MW (5%)
ข้อสังเกตสำคัญ
จุดแข็งของอาเซียน
- ทรัพยากรธรรมชาติหลากหลาย – แสงแดด, น้ำ, ลม, ความร้อนใต้พิภพ
- การเติบโตของโซลาร์อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะเวียดนาม
- ความร่วมมือข้ามพรมแดน ในการค้าไฟฟ้า
ความท้าทาย
- การพึ่งพาถ่านหินยังสูง ในหลายประเทศ
- การลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ยังไม่เพียงพอ
- นโยบายไม่สอดคล้องกัน ระหว่างประเทศสมาชิก
แนวโน้มอนาคต
- ASEAN Power Grid จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ
- การลงทุนจากต่างประเทศ จะเพิ่มขึ้น
- เทคโนโลยี Storage จะมีบทบาทสำคัญ
พลังงานสะอาด (Clean Energy) เป็นอุตสาหกรรมที่มีอนาคตและมูลค่าการลงทุนสูง The International Energy Agency (IEA) รายงานว่าในปี 2024 มีการลงทุนในพลังงานสะอาดทั่วโลก 3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ เพราะเป็นอุตสาหกรรมที่ลดคาร์บอน และเพื่อไม่ให้สินค้าถูกเก็บภาษีข้ามพรมแดน (CBAM) ภาคธุรกิจ และ SME ไทยต้องเร่งปรับตัวเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในประเทศอาเซียน และเวทีระดับโลกที่ยั่งยืนต่อไปในอนาคต
อ้างอิง
องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน)
บทความอื่น ที่น่าสนใจ
‘กองทุนภูมิอากาศ’ พ.ร.บ.ลดโลกร้อน โอกาสทองธุรกิจไทย ปรับตัวสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ รุกตลาดโลก
