— ข้อตกลงทะเลโลก 1 หมื่นล้านดอลลาร์ยังไม่พอ
การประชุมสหประชาชาติด้านมหาสมุทร ที่จัดขึ้นที่เมืองนีซ ประเทศฝรั่งเศสเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้ข้อผูกพันด้านเงินทุนเพื่อปกป้องมหาสมุทรราว 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากธนาคารพัฒนาและสถาบันการเงินภาครัฐหลายแห่ง อย่างเช่น CAF (ธนาคารพัฒนาแห่งละตินอเมริกาและแคริบเบียน) สนับสนุน 2.5 พันล้านดอลลาร์ และกลุ่มธนาคารพัฒนาในยุโรป ให้เงิน 3 พันล้านยูโร (ราว 3.5 พันล้านดอลลาร์)
อย่างไรก็ตาม ยอดระดมทุนนี้ยังห่างไกลจากความต้องการที่ประเมินโดยองค์การสหประชาชาติ ซึ่งระบุว่า โลกต้องการการลงทุนเฉลี่ยปีละ 175,000 ล้านดอลลาร์ เพื่อปกป้องมหาสมุทรในทุกมิติ ตั้งแต่ความหลากหลายทางชีวภาพไปจนถึงการรับมือกับภาวะโลกร้อนและมลภาวะจากพลาสติก
— “ทะเลหลวง” คือพื้นที่ไร้เจ้าของ ความท้าทายที่ไร้กฎหมายครอบคลุม
หนึ่งในเหตุผลที่การเงินจากภาคเอกชนยังเข้ามาในอัตราต่ำ คือ ขาดกรอบกฎหมายที่ชัดเจนในการบริหารจัดการมหาสมุทร โดยเฉพาะ “ทะเลหลวง” ซึ่งอยู่นอกเขตอธิปไตยของประเทศใดประเทศหนึ่ง
“ทะเลหลวงไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมของใครคนใดคนหนึ่ง… จึงไม่มีผู้รับผิดชอบอย่างแท้จริง”
— Oliver Withers หัวหน้าฝ่ายธรรมชาติของ Standard Chartered
แม้จะมี สนธิสัญญาทะเลหลวง (High Seas Treaty) ซึ่ง 130 ประเทศเห็นชอบร่วมกันตั้งแต่ปี 2023 แต่ในปัจจุบัน มีเพียง 50 ประเทศเท่านั้นที่ให้สัตยาบันอย่างเป็นทางการ ซึ่งยังไม่เพียงพอที่จะใช้บังคับเป็นกฎหมายระหว่างประเทศได้ สหรัฐอเมริกาเองก็ยังไม่ได้ให้สัตยาบัน
— ภาคเทคโนโลยีทะเลยังได้การสนับสนุนน้อยมาก
ข้อมูลจาก Sightline Climate บริษัทวิเคราะห์ข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อมระบุว่า ระหว่างปี 2020–2025
- อุตสาหกรรมเทคโนโลยีทางทะเล (Ocean Tech) ได้รับเงินลงทุนเพียง 0.4% จากเงินทั้งหมด 202 พันล้านดอลลาร์
- แสดงให้เห็นว่าภาคเทคโนโลยีทางทะเลยังเป็นพื้นที่ที่ “เพิ่งเริ่มต้น” และรอการผลักดัน
ฟรานซีน พิกอัพ รองผู้อำนวยการโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) กล่าวว่า จำเป็นต้อง ยกเลิกเงินอุดหนุน ที่ส่งเสริมการทำประมงเกินขนาดและการใช้ทรัพยากรอย่างไม่ยั่งยืน พร้อมสนับสนุน กลุ่มนักลงทุนและสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีทางทะเล เพื่อพัฒนาโซลูชันใหม่ๆ
— มหาสมุทรภายใต้แรงกดดัน: โลกร้อน ปลาน้อย ปะการังตาย
นอกจากความท้าทายด้านการเงินแล้ว มหาสมุทรยังเผชิญกับแรงกดดันจากวิกฤตสภาพภูมิอากาศ
- อุณหภูมิน้ำทะเลสูงขึ้น
- ภาวะน้ำเป็นกรด (Ocean Acidification)
- การฟอกขาวของปะการัง
- การทำประมงเกินขนาด
- การขุดเจาะน้ำมันและการขุดเหมืองใต้ทะเลลึก
นักวิทยาศาสตร์และผู้กำหนดนโยบายย้ำว่า หากยังไม่มีการดำเนินการทางกฎหมายและนโยบายที่ “เด็ดขาดและเร่งด่วน” ผลกระทบเหล่านี้จะขยายตัวและกลายเป็นปัญหาเชิงระบบที่ไม่อาจย้อนกลับได้
— สัญญาณบวกจากฝรั่งเศส: ปกป้องทะเลลึก สร้างเขตคุ้มครองทางทะเล
แม้จะมีข้อจำกัด แต่การประชุมในเมืองนีซก็มีความคืบหน้า ได้แก่
- ประเทศกว่า 20 ประเทศ สนับสนุน ข้อเสนอของฝรั่งเศสในการห้ามทำเหมืองในทะเลลึก
- การประกาศจัดตั้ง เขตคุ้มครองทางทะเล (Marine Protected Areas – MPAs) ใหม่ในหลายภูมิภาค
“ในแง่หนึ่ง มหาสมุทรคือพื้นที่สุดท้ายที่เราปล้นสะดมโดยไม่คิดถึงวันพรุ่งนี้”
— Flavien Jouber รัฐมนตรีสิ่งแวดล้อมของเซเชลส์
— ประเทศไทยในฐานะประเทศชายฝั่งและผู้ส่งออกอาหารทะเลรายใหญ่ อาจมีบทบาทและผลกระทบในหลายประเด็น
- การทำประมงเกินขนาด: ไทยเคยถูกใบเหลืองจากสหภาพยุโรปในประเด็น IUU Fishing (การทำประมงผิดกฎหมาย) และได้ปฏิรูปกฎหมายประมงในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
- การส่งออกสินค้าอาหารทะเล: อุตสาหกรรมอาหารทะเลของไทยสามารถได้รับประโยชน์ หากสนับสนุนแนวทางการทำประมงอย่างยั่งยืนและเข้าร่วมกลไกทางการเงินระดับโลก
- ปัญหาขยะทะเล: ขยะพลาสติกในอ่าวไทยและทะเลอันดามันยังคงเป็นปัญหาเรื้อรัง ซึ่งสามารถเชื่อมโยงกับกองทุนหรือเทคโนโลยีทางทะเลได้
- เขตคุ้มครองทางทะเล: ไทยมีแนวชายฝั่งและพื้นที่อุทยานทางทะเลหลายแห่ง ซึ่งมีศักยภาพในการพัฒนา MPAs ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ในมุมของ ESG (Environmental, Social, Governance)
- ด้าน Environment: เป็นหัวใจหลักของการจัดการมหาสมุทร ทั้งการปกป้องระบบนิเวศ ลดคาร์บอน และจัดการขยะ
- ด้าน Social: ชุมชนประมงพื้นบ้าน และผู้พึ่งพาทรัพยากรทางทะเลโดยตรง เป็นกลุ่มที่ควรได้รับการสนับสนุนในการเปลี่ยนผ่าน
- ด้าน Governance: ความชัดเจนของกฎหมาย นโยบาย และการมีส่วนร่วมในสนธิสัญญาระหว่างประเทศ คือสิ่งที่ภาครัฐไทยต้องให้ความสำคัญ หากต้องการดึงดูดการลงทุนเพื่อมหาสมุทรจากทั้งในและต่างประเทศ
แม้โลกจะเริ่มเห็นความคืบหน้าในการระดมทุนเพื่อปกป้องมหาสมุทร แต่ยังติดอุปสรรคสำคัญในด้านกรอบกฎหมายระหว่างประเทศ ความไม่แน่นอนของข้อมูล และการมีส่วนร่วมของภาคเอกชน ในอนาคต ประเทศไทยสามารถมีบทบาทได้มากกว่านี้ หากยกระดับมาตรฐานการจัดการมหาสมุทรให้สอดคล้องกับหลัก ESG และก้าวทันข้อตกลงระดับโลกที่กำลังเป็นรูปธรรมมากขึ้นเรื่อยๆ
