นวัตกรรม “กระถางย่อยสลายได้จากวัสดุชีวมวล”สร้างรายได้ เพิ่มมูลค่า ลดฝุ่น PM2.5 ด้วยพลังวิจัยจากราชมงคลธัญบุรี
-ต้นกำเนิดของนวัตกรรมสีเขียว
ในยุคที่โลกต้องเผชิญกับปัญหาสิ่งแวดล้อมขั้นวิกฤต ไม่ว่าจะเป็นภาวะโลกร้อนหรือมลพิษทางอากาศจากฝุ่น PM2.5 หน่วยวิจัยวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ได้ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในการพัฒนา “กระถางย่อยสลายได้จากวัสดุชีวมวล” ซึ่งถือเป็นผลงานวิจัยเชิงประยุกต์ที่ตอบโจทย์ปัญหาอย่างรอบด้าน ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ และสังคม
ผลงานนี้พัฒนาโดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ประชุม คำพุฒ แห่งคณะวิศวกรรมศาสตร์ ผู้มีความมุ่งมั่นในการต่อยอดวัสดุเหลือทิ้งจากภาคการเกษตรให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่มและใช้ประโยชน์ได้จริงในระดับชุมชนและอุตสาหกรรม
โดยผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ประชุม คำพุฒ นักวิจัยผลงานดังกล่าว เผยว่า
“กระถางย่อยสลายได้จากวัสดุชีวมวล เป็นภาชนะสำหรับเพาะกล้าไม้ตั้งแต่อนุบาลจนโตเพียงพอสำหรับการลงปลูกในแปลงปลูกหรือในหลุมหรือการย้ายกระถางปลูกให้มีขนาดใหญ่ขึ้น โดยไม่ต้องถอดรากออกจากกระถาง ซึ่งทำมาจากชีวมวลที่เป็นวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตร อาทิ ฟางข้าว แกลบ ใยมะพร้าว ยอดอ้อย-ใบอ้อย ซังข้าวโพด เศษหญ้า เหง้ามัน ใช้เทคโนโลยีการอัดวัสดุชีวมวลร่วมกับตัวเชื่อมประสานธรรมชาติลงในโมลขึ้นรูปกระถาง กระบวนการนี้ต้องการการควบคุมตัวแปรที่สำคัญ ได้แก่ อุณหภูมิ เวลา และแรงอัด ให้สอดคล้องกับคุณสมบัติทางกายภาพของชีวมวลแต่ละชนิด เพื่อให้ได้ชิ้นงานที่มีคุณสมบัติทางกลที่เหมาะสม เช่น ความแข็งแรง ทนทาน รากพืชสามารถชอนไชออกจากก้นกระถางและด้านข้างของกระถางได้เป็นอย่างดี รวมถึงมีความสามารถในการอุ้มน้ำ และระบายอากาศ ช่วยให้พืชเจริญเติบโตได้ดี อีกทั้งยังมีคุณสมบัติเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติเมื่อสิ้นสุดการใช้งาน”
-วัสดุชีวมวล: เปลี่ยนขยะเป็นทรัพยากร
กระถางย่อยสลายได้นี้ผลิตจากวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตรหลากหลายชนิด เช่น ฟางข้าว แกลบ ซังข้าวโพด ใยมะพร้าว ยอดอ้อย ใบอ้อย เศษหญ้า และเหง้ามัน โดยการนำวัสดุเหล่านี้มาผสมกับสารเชื่อมประสานจากธรรมชาติ และใช้กระบวนการอัดลงในแม่พิมพ์ภายใต้การควบคุมอุณหภูมิ เวลา และแรงดันที่เหมาะสม
ผลลัพธ์คือกระถางที่มีคุณสมบัติเด่นหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็น:
- แข็งแรง ทนทาน รองรับน้ำหนักดินและต้นกล้าได้ดี
- อุ้มน้ำและระบายอากาศได้ดี ส่งเสริมการเติบโตของพืช
- ย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ ไม่ก่อให้เกิดขยะตกค้างหลังการใช้งาน
- ช่วยให้รากพืชชอนไชได้ง่าย สะดวกต่อการปลูกถ่ายโดยไม่ต้องถอดรากออกจากกระถาง
คุณสมบัติเหล่านี้ทำให้กระถางไม่เพียงแต่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่ยังช่วยส่งเสริมสุขภาพของต้นไม้และลดต้นทุนในการเพาะปลูกในระยะยาว
-นวัตกรรมระดับนานาชาติ
ผลงานวิจัยนี้ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ โดยคว้ารางวัลใหญ่จากเวทีประกวดสิ่งประดิษฐ์ระดับโลก ได้แก่:
- รางวัลเหรียญทอง (Gold Medal) และ รางวัลพิเศษ (Special Award) จากงาน “2023 Japan Design, Idea and Invention Expo (JDIE 2023)” ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
- รางวัลเหรียญทองแดง (Bronze Award) จากงาน “The 11th Macao International Innovation and Invention Expo 2023” ซึ่งจัดขึ้นแบบออนไลน์โดยเขตบริหารพิเศษมาเก๊าแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน
รางวัลเหล่านี้ตอกย้ำถึงศักยภาพของงานวิจัยไทยในการสร้างสรรค์นวัตกรรมที่เป็นรูปธรรม และสามารถแข่งขันได้ในเวทีระดับโลก
-ผลกระทบเชิงสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจ
นอกจากคุณสมบัติที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมแล้ว การผลิตกระถางชนิดนี้ยังส่งผลดีต่อสภาพอากาศโดยรวม เนื่องจาก:
- ลดการเผาวัสดุเหลือทิ้งในไร่นา ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของฝุ่น PM.2.5
- ลดการปล่อยคาร์บอน จากกระบวนการผลิตและการใช้งาน เมื่อเทียบกับกระถางพลาสติก
- ลดปริมาณขยะ เนื่องจากสามารถย่อยสลายได้โดยไม่ต้องกำจัดแบบฝังกลบ
ในเชิงเศรษฐกิจ วัสดุที่ใช้สามารถหาได้ง่ายในท้องถิ่น ทำให้ต้นทุนการผลิตต่ำ เหมาะแก่การผลิตในระดับชุมชน ผู้ประกอบการรายย่อย รวมถึงเกษตรกรที่ต้องการเพิ่มมูลค่าให้กับของเหลือใช้ในไร่นา
-โอกาสในการขยายผลและต่อยอด
หนึ่งในจุดแข็งของงานวิจัยนี้คือความเป็น “แพลตฟอร์มนวัตกรรม” ที่สามารถต่อยอดได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น:
- การพัฒนาผลิตภัณฑ์ประเภทอื่น เช่น ถาดเพาะชำ แผ่นคลุมดิน หรือภาชนะปลูกแบบแขวน
- การส่งเสริมเป็น อาชีพเสริมในชุมชน โดยใช้วัสดุในท้องถิ่นและเครื่องจักรต้นทุนต่ำ
- การใช้ในโครงการภาครัฐหรือองค์กรไม่แสวงหากำไรที่สนับสนุนการปลูกป่าและฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม
ทั้งนี้ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามเพื่อรับคำปรึกษา หรือขอรับคู่มือการผลิตได้ผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้แก่ Facebook “หน่วยวิจัยวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม”, อีเมล: [email protected] และโทรศัพท์ 0-2549-3410
“กระถางย่อยสลายได้จากวัสดุชีวมวล” ไม่ใช่แค่นวัตกรรมเพื่อการเพาะปลูก แต่คือการพลิกฟื้นแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียนให้เกิดขึ้นจริงในระดับรากหญ้า ลดขยะ ลดมลพิษ เพิ่มรายได้ และปลูกจิตสำนึกรักษ์โลกให้ขยายตัวอย่างยั่งยืนในสังคมไทย
อ้างอิง :


